โรนัลดินโญ่: ความสวยงามของ เปแอสเช
นั่นคือเรื่องราวคร่าวๆ ของ โรนัลโด้ เด อาสซิส โมไรร่า หรือในชื่อที่แฟนบอลรู้จักกันดีว่า 'โรนัลดินโญ่'
ในวัย 21 ปี โรนัลดินโญ่ ถูกบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่จับตามองอย่างมาก เพราะผลงานที่เขาสร้างขึ้นมากับ เกรมิโอ ยากที่จะเบือนหน้าหนีและทำใจเมินเฉยได้
แต่เรื่องราวเป็นไปอย่างที่แฟนบอลทราบดี จุดหมายแรกในเวทียุโรปของ โรนัลดินโญ่ คือการกลายมาเป็นนักเตะของ เปแอสเช แม้ว่าจะใช้เวลาเพียง 2 ปีแต่เขาได้สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมจนกลายมาเป็นขวัญใจแฟนบอล พร้อมกับสร้างความตื่นตาได้อย่างมาก
แม้ตอนนี้ โรนัลดินโญ่ จะต้องเจอวิบากกรรมในชีวิต แต่หากเรามองย้อนกลับไปยังเส้นทางสายอาชีพนักเตะ ว่ากันว่านี่คือหนึ่งในผู้เล่นที่สร้างความตื่นตาตื่นใจได้มากที่สุดคนหนึ่ง และเป็นที่รักของบรรดาแฟนบอลอย่างมาก
โดยเฉพาะแฟนบอล ลีก เอิง แม้ว่าจะผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว แต่ความทรงจำเหล่านั้นยังคงเหมือนว่าเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้
อย่าเสียเวลา ... ไปย้อนอ่านความยอดเยี่ยมและความประทับใจกับผลงานของ โรนัลดินโญ่ ในช่วงเวลา 2 ปีที่ลงเล่นในแดนน้ำหอม (ที่มา https://www.ligue1.com/Articles/LEGENDS/2020/03/26/ronaldinho-the-art-of-joga-bonito)
เกมแรก
'เหยินน้อย' เริ่มต้นเส้นทางอาชีพบนเวทียุโรปเกมแรกด้วยการดวลกับ โอแซร์ ที่ สต๊าด ลับเบ้ เดส์ช็องส์ ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 4 สิงหาคม 2001
โดยเกมดังกล่าว โรนัลดินโญ่ ถูก หลุยส์ แฟร์กน็องเดซ ส่งลงสนามไปแทน โชเซ่ อลอยซิโอ หลังจากเกมผ่านไป 60 นาที แต่ผลการแข่งขันกลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวังเพราะจบลงด้วยสกอร์ 1-1 ทั้งทีทีมออกนำไปก่อน 1-0 จาก เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่
ประตูแรก
โรนัลดินโญ่ จัดการสอยตาข่ายแรกในเวที ลีก เอิง หลังจากลงสนามให้ เปแอสเช ไป 8 ซึ่งเหยื่อที่ถูกกองกลางตัวทำเกมนี้จัดการคือ โอลิมปิก ลียง เต็งแชมป์ของลีกในตอนนั้น (14 ตุลาคม 2001)
มันเป็นเกมที่ เปแอสเช เปิด ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ รับมือ โอแอล และอีกเช่นเคย เกมนี้ 'รอนนี่' ยังคงลงสนามในฐานะตัวสำรอง โดยเขาถูกส่งลงไปเล่นในนาทีที่ 69 ของเกม
รูปเกมตอนนั้น เปแอสเช ตามหลัง โอแอล ที่มาเยือน 1-2 แต่พลพรรคปารีเซียงส์เดินหน้าตามเสียงเชียร์ก่อนจะมาได้จุดโทษเมื่อทาง ฌอง-มาร์ค ชาเนอเลต์ ไปสอย บาร์โธโลมิว อ็อกเบเช่ ในกอบเขตโทษ
ก่อนจะเป็น โรนัลดินโญ่ รับอาสาสังหารจุดโทษในนาทีที่ 79 ให้เกมจบลงอย่างสนุก 2-2
ผลงานอันยอดเยี่ยมเกมแรก
ผลงานของ โรนัลดินโญ่ เริ่มร้อนแรงเมื่อเปลี่ยนเข้ามาสู่ปี 2002 เพราะเขาระเบิดฟอร์มทำ 3 ประตูจาก 3 นัดหลังเปลี่ยนศักราชใหม่
เท่านั้นไม่พอ 'เหยินน้อย' สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมในเกมที่ เปแอสเช เปิดบ้านถล่ม ลอริยองต์ 5-0 เมื่อวันที่ 30 มกราคม โดยนัดดังกล่าว โรนัลดินโญ่ ทำคนเดียว 1 ประตูกับ 2 แอสซิสต์
เริ่มจากการผ่านบอลให้ ฟาบริซ ฟิออแรส ทำประตูในนาทีที่ 13 ซึ่งมันมาจากการที่ มิเกล อาร์เตต้า ทำเกมขึ้นมาก่อนจะผ่านให้ตัวทำเกมชาวบราซิลที่โยกหลบตัวประกบที่อยู่ทางขวามาสองรายแล้วจ่ายให้เพื่อร่วมทีมแบบไม่มอง (ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวอีกอย่างหนึ่งของ 'รอนนี่')
ก่อนที่เขาจะจัดการปั่นฟรีคิกด้วยตนเองในนาทีที่ 40 ของเกม ทำเอา เซบาสเตียง อาแมล นายด้านฝ่ายตรงข้ามหมดสิทธิ์ป้องกัน และปิดท้ายด้วยการเปิดฟรีคิกไปให้ เฌโรม เลอรัว โขกประตูในนาทีที่ 55
อย่างไรก็ตาม จังหวะที่ยังคงตรึงตาตรึงใจแฟนบอลจนถึงตอนนี้คงหนีไม่พ้นการที่เขาจัดการปั่นหัวผู้เล่น ลอริยองต์ ถึง 6 ราย แม้ว่าท้ายที่สุด อาแมล และกองหลังคนอื่นๆ จะป้องกันไว้ได้ แต่จังหวะดังกล่าวยังคงถูกพูดถึงมาจนทุกวันนี้
ผลงานที่ยอดเยี่ยมโดยเฉพาะการเล่นกับบอลที่เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย จนทาง เลอ ปารีเซียง สื่อดังของกรุงปารีสต้องออกมายกย่องว่า 'การจู่โจมด้วยตัวตนเดียวที่แสนวิเศษ และทำได้ดีกว่า เปเล่'
ไม่ใช่คำชมที่เกินเลย เพราะนอกจากการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม โรนัลดินโญ่ ยังมีอาวุธเด็ดๆ อีกมากมาย อาทิ ความเร็ว, การเอาชนะคู่แข่งที่ทำได้ไม่ยาก แถมยังสร้างโอกาสให้ทีมได้จากทุกๆ จังหวะที่เขาสัมผัสบอล
ผลงานชิ้นโบว์แดง
คงหนีไม่พ้นเกมออกไปเยือน แก็งก็อง เมื่อปี 2003 (22 กุมภาพันธ์ 2003) เมื่อ โรนัลดินโญ่ ทำประตูที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในลูกที่ยอดเยี่ยมที่สุดบนเวทีลีก เอิง ฝรั่งเศส
มันเกิดขึ้นจากจังหวะที่ รอนนี่ รับบอลมาก่อนจะโยกหลบ ดีดีเย่ร์ ดร็อกบา แล้วชิ่งหนึ่งสองกับ เฌโรม เลอรัว ที่แทงคืนกองกลางชาวบราซิลยกหนี แบลส กูอัสซี่ โดยจังหวะสุดท้ายคือการพลิ้วหลบ มิโลวาน ซิคิมิช ก่อนจะกระดกข้ามตัว โรน็อง เลอ ครง เข้าประตูไป
แม้ว่าท้ายที่สุด เปแอสเช ของเขาจะปราชัยไปด้วยสกอร์ 2-3 แต่ประตูที่เกิดขึ้นยังคงอยู่ในความทรงจำของแฟนๆ ชาวฝรั่งเศสมิรู้ลืม
ประตูสุดท้ายในเวที ลีก เอิง
เกิดขึ้นในวันที่ 4 พฤษภาคม 2003 เมื่อ เปแอสเช เปิดบ้านดวลกับ โมนาโก ซึ่งเป็นจังหวะที่ ปาทริซ เอฟร่า ไปทำฟาวล์ อาลีอูน ตูเร่ ในกรอบเขตโทษ ก่อนจะเป็น โรนัลดินโญ่ รับหน้าที่สังหารเข้าไป
เกมสุดท้าย
2 ปีผ่านไปกับผลงานอันยอดเยี่ยม ในที่สุดต้องถึงวันอำลาเพื่อเดินทางไปสู่เวทีที่ใหญ่กว่า
20 พฤษภาคม 2003 เปแอสเ เปิดบ้านรับมือ แรนส์ ในศึก ลีก เอิง นัดที่ 37 โดยเขาลงสนามเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 54 แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ทีมเอา 3 แต้มจากคู่แข่งได้ (โรนัลดินโญ่ มีโอกาสได้ลงสนามในเกมที่ 38 ซึ่ง เปแอสเช ออกไปเยือน โอแซร์ สโมสรแรกที่เขามีโอกาสดวลด้วยบนเวทียุโรป แต่กลับไม่มีโอกาสลงสนาม)
แม้จะไร้แชมป์กับ เปแอสเช แต่ภาพของความยอดเยี่ยมในสนามยังคงอยู่ในความทรงจำของกองทัพ ปารีเซียง ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหล และชวนให้มองตลอดเวลา (ผลงานในลีก เอิง 55 เกม 17 ประตู หรือ 77 เกม กับ 25 ประตูจากทุกรายการ)
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT