การเดินทางครั้งใหม่ของ โจนาธาน เดวิด
เรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นมากมายในวงการฟุตบอล วันนี้คุณอาจจะเป็นแค่ 'ผู้เล่นคนหนึ่ง' แต่วันต่อกลับกลายมาเป้นที่จับตามองและถูกหลายๆ ทีมรุมล้อมให้ความสนใจชนิดหัวกระไดไม่แห้ง
สิ่งนี้เกิดขึ้นกับ โจนาธาน เดวิด เด็กหนุ่มแคนาเดียนที่หวดลูกบอลในระดับสมัครเล่นอยู่ที่เมืองออตตาวา แต่ด้วยฝีเท้าที่โดดเด่นกว่าคนอื่นๆ ส่งผลให้เอเย่นต์มองเห็นแววและจัดการส่งเรื่องไปให้ทีมในยุโรป
ด้วยวัยเพียง 17 ปี เดวิด เก็บข้าวของข้ามน้ำข้ามทะเลโดยมีจุดหมายที่เบลเยียมหลังจากสโมสรเกนท์ประทับใจผลงานและจัดการเซ็นสัญญาร่วมทีม
หลายคนอาจจะคาดการณ์กันว่า เดวิด คงต้องใช้เวลาปรับตัวและพิสูจน์ผลงานก่อนจะได้ขึ้นทีมชุดใหญ่ทว่าหน้าร้อนในปี 2018 กลับกลายมาเป็นปีที่เจ้าตัวคงมิอาจลืมเลือนไปได้
บทบาทของเขาคือการลงสนามเป็นตัวสำรองก็จริงอยู่ แต่เมื่อได้โอกาสเขาก็แสดงและพิสูจน์ให้กับกุนซือในเวลานั้นอย่าง อีฟส์ ฟานแดร์เฮก ให้ได้เห็นว่าเขามีของ ซึ่งมันพิสูจน์ได้ชัดเจนจากหลักฐาน 4 ประตูใน 3 เกม (1 เกมลีก และ 2 ยูโรปา) ซึ่งมากจากการลงสนามในฐานะตัวสำรองทั้งหมด
แม้จะเกิดการเปลี่ยนในตัวกุนซือเพราะเดือนตุลาคมปี 2018 เกนท์ ได้ดึง เยสส์ โธรุป มาทำหน้าที่นายใหญ่ของสโมสร แต่นั่นกลับกลายเป็นการเปิดโอกาสให้ เดวิด ได้เฉิดฉาย เมื่อเขาถูกจับไปเล่นในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ และกลายมาเป็นแกนหลักของทีมตั้งแต่เดือนธันวาคมปีเดียวกัน
นั่นคือจุดเปลี่ยนสำคัญของ โจนาธาน เดวิด เพราะนอกจากการเล่นในตำแหน่งริมเส้นหรือกองหน้าตัวเป้าได้แล้ว ตำแหน่งที่ดูจะอันตรายและเข้ากับเขาได้มากที่สุดคือตำแหน่งหมายเลข 10 ที่อยู่ข้างหลังกองหน้าเป้า
ถึงบางครั้งต้องสลับสับเปลี่ยนเพราะอาการบาดเจ็บของเพื่อนร่วมทีมหรือการปรับแผนตามความต้องการของกุนซือ กระนั้น เดวิด ยังคงแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมและการปรับตัวกับตำแหน่งในแนวรุกได้ดี
จุดเด่นที่สำคัญของแข้งวัย 20 ปีรายนี้คือ 'ความเร็ว' 'การเลี้ยงบอล' รวมไปถึงการสอดทะลุแนวรับที่สามารถฉีกฝ่ายตรงข้ามให้ขาดกระจุยได้อย่างไม่ยากเย็น ส่งผลให้เขาระเบิดผลงาน 18 ประตูกับ 8 แอสซิสต์จากการลงสนามในลีกสูงสุดเบลเยียม 27 นัดในฤดูกาลที่ผ่านมา
ชื่อเสียงและผลงานของเด็กหนุ่มจากแคนาดาถูกสื่อในเบลเยียมพูดถึงอย่างมาก รวมไปถึงบรรดาสื่อต่างๆ ในยุโรป ที่เริ่มจับตามองและโยงนักเตะกับทีมใหญ่ๆ ในยุโรป
หลายคนเชื่อว่าถึงเวลาที่ เดวิด ต้องเก็บข้าวของเพื่อไปยังเวทีที่ใหญ่กว่า และมันก็เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากสโมสรลีลล์ทีมดังทางตอนเหนือของฝรั่งเศสจัดการประกาศและเปิดตัว เดวิด เข้าสังกัด
ถือเป็นการเอาชนะทีมใหญ่ๆ และเป็นการเสริมทีมที่น่าสนใจของทัพ 'ตราหมา' เพื่อนี่คือผู้เล่นที่ดูจะเข้ากับระบบการเล่นของ คริสตอฟ กัลติเย่ร์ เพราะกุนซือวัย 53 ปีมักจะชอบแนวรุกที่สามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง และสำหรับกรณีของ เดวิด นี่คือการตอบโจทย์ที่ชัดเจน
อย่างที่เรียนไป ด้วยการเล่นที่สามารถเอาชนะคู่แข่งด้วยความเร็ว เขายังมีทีเด็ดในการผ่านบอลให้กับเพื่อนร่วมทีม รวมไปถึงการเปิดพื้นที่ในแนวรุก และที่สำคัญคือจังหวะสวนกลับที่พร้อมสร้างความอันตรายให้กับคู่แข่งได้ปวดหัว
เขายังเป็นนักเตะที่อ่านเกมได้ดี และที่สำคัญคือสื่อเบลเยียมชมกว่าเขาเล่นแบบไม่เห็นแก่ตัว และพร้อมอุทิศตนเองให้กับทีมมากกว่าจะ 'โชว์' ตัวเองให้กับคนอื่นได้เห็น
นับเป็นคำชมที่ส่งตรงมาจากบรรดาสื่อที่ได้ดู โจนาธาน เดวิด มาอย่างใกล้ชิด และตอนนี้แฟนๆ ในเวที ลีก เอิง รวมไปถึงส่วนต่างๆ ทั่วโลกคงอยากจะเห็นผลงานในสนามของแข้งทีมชาติแคนาดาว่าจะสมคำร่ำลือหรือไม่
อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจของ โจนาธาน เดวิด นับตั้งแต่ไปเหยียบแผ่นดินยุโรปเมื่อปี 2018 โดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเขาสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมนั่นคือการทำไป 30 ประตูกับ 12 แอสซิสต์จากการลงเล่น 60 เกมลีก นอกจากนั้นยังมีส่วนร่วมในการทำประตูบน จูปิแลร์ โปร ลีก มากที่สุด (26 ประตู) และยังมีค่าเฉลี่ยทำทุกๆ 1 ประตูใน 84 นาที
ยังไม่นับรวมผลงานในเวทียุโรปอย่าง ยูโรปา ลีก ที่เขาทำไปได้ 3 ประตูจาก 7 เกม ซึ่งนั่นเพียงพอที่จะทำให้เขาเป็นที่พูดถึงอย่างมากในช่วงก่อนหน้านี้
สำหรับคนที่ชอบสถิติเรายังมีตัวเลขที่น่าสนใจของ โจนาธาน เดวิด มาฝากอีกสักเล็กน้อย นั่นคือจำนวนเปอร์เซ็นต์การยิงประตูของเขาที่อ่านได้ 66.1 % ในลีก และ 60 % ในยูโรปา รวมไปถึงค่าเฉลี่ยการยิงในลีกที่ตก 2.6 ครั้งต่อเกม
ในฤดูกาล 2019/20 ที่ถือเป็นฤดูกาลแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวของแข้งหนุ่มวัย 20 ปี เพราะสถิติต่างๆ พุ่งเป้าไปที่เขาอย่างชัดเจน ทั้งในแง่ของการเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง 2.7 ครั้งต่อเกม รวมไปถึงเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จที่มากที่สุพด (54.1%) นอกจากนั้นยังมีในส่วนของเปอร์เซ็นต์การผ่านบอลที่ออกมาดีเช่นกัน
นี่อาจจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเด็กหนุ่มที่ลืมตาดูโลกหลังจากผ่านปี 2000 ไปเพียงแค่ 14 วัน แค่หากดูจากผลงานและสถิติที่เกิดขึ้น มันคือการเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมและเป็นการเปิดโอกาสให้กับเขาบนเส้นทางฟุตบอล
กับการย้ายมาเล่นให้กับ ลีลล์ แน่นอนว่าความคาดหวังและกดดันมีสูงมากกว่าเดิม แต่นั่นคือสิ่งที่นักเตะต้องก้าวข้ามผ่านไปให้ได้หากว่าอยากไปอยู่ในระดับที่สูงขึ้น และเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง
สำหรับการยืนตำแหน่งในทีมของ กัลติเย่ร์ แน่นอนว่าอย่างที่เรียนไปก่อนหน้านี้เดวิด สามารถรับบทบาทตำแหน่งไหนก็ได้ในแนวรุกไมว่าจะริมเส้น, เพลย์เมกเกอร์หรือกองหน้าตัวจบสกอร์ และยิ่งกับระบบที่ปรับเปลี่ยนและหมุนเวียนทั้ง 4-2-3-1 และ 4-4-2 ก็จะส่งผลให้ทีมมีอาวุธและทางเลือกมากกว่าที่ผ่านมา
แน่นอนว่าสิ่งสำคัญอย่างแรกคือการที่เขาต้องเอาชนะใจกุนซือและก้าวมาเป็นทางเลือกอันดับแรกของทีม แต่นั่นคืองานที่ เดวิด ทราบดีว่าเป็นเรื่องที่เขาต้องแสดงออกมาให้ทุกๆ คนได้เห็น
ถึงตรงนี้ ... กับเวทีที่ใหญ่ขึ้น สายตาที่จับจ้องมากกว่าที่ผ่านมา มันจะเป็นบททดสอบสำคัญของ โจนาธาน เดวิด ว่าจะสามารถผลักดันตนเองให้ไปยังระดับที่สูงกว่าได้หรือไม่
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT