ทัฟฟาเรล: วอลเล่ย์บอล, กาลาตาซาราย และ มาราโดน่า

ว่ากันว่านี่คือหนึ่งในผู้รักษาประตูชาวบราซิลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งการันตีโดยตำแหน่งแชมป์โลกเมื่อปี 1994

นอกจากนั้นยังมีแชมป์ต่างๆ ที่ประดับบารมีทั้งในนามทีมชาติและสโมสร ซึ่งไฮไลต์สำคัญของเขา (นอกเหนือฟุตบอลโลก 1994) คงหนีไม่พ้นช่วงเวลาที่ลงเล่นให้กับ กาลาตาซาราย

มือกาวชาวแซมบ้าถูกยอดทีมของตุรกีดึงตัวไปใช้งานในปี 1998 พร้อมกับเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จทั้งในประเทศและเวทียุโรป

เมื่อย้อนรำลึกไปถึงอดีตอันหอมหวาน ทัฟฟาเรล ได้เอ่ยถึงจุดเริ่มต้นในอาชีพ และเส้นทางความสำเร็จของตนเอง รวมไปถึงแสดงความเห็นถึงนักเตะทั้งในอดีตและปัจจุบัน ... 

คุณลงแข่งขันวอลเล่ย์บอลตอนสมัยเป็นเด็ก บอกได้หรือไม่ว่าคุณมาเล่นฟุตบอลได้อย่างไร?

"วอลเล่ย์บอลเป็นกีฬาชนิดแรกของผม ผมรักมันและทำได้ดีด้วย ผมเล่นวอลเล่ย์บอลอย่างจริงจังในทุกๆ วัน ส่วนฟุตบอลเป็นกีฬาที่ผมเอาไว้เล่นกับเพื่อนๆ ในวันหยุดถ้าหากมีเวลาว่าง ถ้ามีโอกาสที่จะได้เล่น (วอลเล่ย์บอล) อาชีพ ผมก็อาจจะสนใจ แต่ฟุตบอลเป็นอาชีพที่ฟังดูมีเหตุผล เมื่อมองย้อนกลับไป ผมดีใจที่ผมไม่ได้มีโอกาสเล่นวอลเล่ย์บอล (อาชีพ) เพราะผมสูง 1.82 เมตร ผมไม่สามารถสูงไปได้มากกว่านั้น (หัวเราะ) ผมเริ่มเล่นฟุตบอลแบบจริงจังตอนอายุได้ 18 ปี  ผมได้ทดสอบฝีเท้าที่ อินเตอร์นาซิอองนาล และผ่านไปได้ จริงๆ แล้วผมเริ่มในตอนที่อายุมากแล้ว ผมต้องเรียนรู้อย่างมาก เรียนให้เร็ว แต่ผมโชคดีมากๆ ที่มีโค้ชผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยม (เบนีเตซ โค้ชชาวปารากวัย) ผมสอนผมทุกๆ อย่าง ผมเชื่อว่าการเล่นวอลเล่ย์บอลช่วยผมได้มาก ปฏิกิริยาตอบสนอง, การยืนตำแหน่ง ซึ่งผมเป็นหนี้ เบนีเตซ สำหรับเส้นทางอาชีพของผมเพราะการเริ่มต้นในตอนอายุ 18 ปี และทำให้มันเป็นความท้าทายอย่างแท้จริง"

คุณกลายมาเป็นผู้รักษาประตูต่างชาติคนแรกที่ได้ลงสนามในลีกสูงสุดของอิตาลี รู้สึกอย่างไรบ้างกับเรื่องนี้?

"ผมรู้สึกภูมิใจจริงๆ ก่อนอื่นเลย เพราะว่าอิตาลีเป็นดินแดนของผู้รักษาประตู ที่มีผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมมากมาย อันดับต่อมา เพราะแต่ละทีมสามารถมีนักเตะต่างชาติได้เพียง 3 ราย ดังนั้นพวกเขาต้องเลือกเฟ้นอย่างดี ผมถูกเลือกพร้อม โทมัส โบรลิน จากสวีเดน และ จอร์จส์ กรุน ของเบลเยียม สองนักเตะที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นสำหรับผมแล้วมันรู้สึกเหมือนกับว่าสมหวัง ฝันที่มหัศจรรย์ มันเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในตอนที่อยู่ที่ ปาร์ม่า แต่หลังจากนั้น 2 ปีพวกเขาคว้าตัว (ฟาอุสตีโน่) อัสปรีย่า เขารวดเร็ว, ทักษะสูง, เป็นตัวจบสกอร์, อีกหนึ่งนักเตะที่ยอดเยี่ยม แต่เขาแย่งตำแหน่งผมไป เพราะคุณสามารถส่งนักเตะต่างชาติลงสนามได้เพียง 3 ราย มันเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยม แต่แย่สำหรับตัวผม"

คุณยังได้อยู่กับ กาลาตาซาราย ในช่วงเวลาที่น่าจดจำในประวัติศาสตร์ของสโมสร อาร์เซน่อล เป็นตัวเต็ง ที่จะคว้าชัยในรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า คัพ ปี 2000 แต่คุณเป็นฮีโร่ช่วยให้ กาลาตาซาราย ชนะจุดโทษ คุณจำอะไรกับเหตุการณ์นั้นได้บ้าง?

"ผมจำได้ทุกๆ อย่าง เรามีทีมที่ยอดเยี่ยม นักเตะทุกๆ คนดีจริงๆ เรามีโค้ชที่ดี นักเตะต่างชาติของพวกเราก็ยอดเยี่ยม ฮาจี้ ก็คือ ฮาจี้ และยังเรายัง (จอร์จี้) โปเปสคู บวกกับนักเตะบราซิล คาโปเน่ ตอนนั้น อาร์เซน่อล ยิ่งใหญ่ในยุโรป แต่เราลงสนามในเกมนั้นด้วยความมั่นใจมากๆ ไม่มีความกลัว ถ้าเราลงสนามไปพร้อมความกลัว เบิร์กแคมป์, อองรี, เปอตีต์, วิเอร่า, โอเวอร์มาร์ส, คานู จะฉีกเราเป็นชิ้นๆ จริงๆ แล้วพวกเรากดดันพวกเราได้อย่างมาก แต่เราป้องกันได้ดีจริงๆ มีโอกาสของพวกเราเองด้วย มันไปตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ และขอขอบคุณพระเจ้า เราชนะ มันเป็นชัยชนะที่จารึกลงไปในประวัติศาสตร์ของ กาลาตาซาราย และเราสมควรได้รับ มันไม่ใช่เกมที่ อาร์เซน่อล เล่นได้แย่ พวกเขาพยายามทุกอย่างเท่าที่ทำได้ แต่ไม่สามารถผ่านพวกเราไปได้ และเราเล่นได้ดี มันเป็นสิ่งที่บรรดานักเตะและแฟนๆ กาลาตาซาราย ภูมิใจกับมันเป็นอย่างมาก"

และหลังจากนั้นพวกคุณเอาชนะ เรอัล มาดริด 2-1 ในศึก ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ...

"มันคือ เรอัล มาดริด หนึ่งในทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก เต็มไปด้วยดาวดัง แต่ความรู้สึกของพวกเราคือ 'ลงสนามและจัดการพวกเขา' 11 ต่อ 11 สนามกลางในโมนาโก ผมคิดว่าวันนั้นเราทำได้ดีกว่า เรอัล มาดริด และมันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมจริงๆ กับการคว่ำทีมที่ยอดเยี่ยมในรูปแบบที่เราทำได้"

คุณพูดถึง ฮาจี้ แล้วคุณคิดกับเขาอย่างไรบ้าง?

"นักเตะที่แสนพิเศษ คนที่สมควรอยู่ในกลุ่มของหนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ ผมไม่เคยเห็นนักเตะไหนที่ยิงได้แบบเขา ความแม่นยำ, พลัง วิสัยทัศน์ของเขาและการผ่านบอลอยู่ในระดับที่แตกต่าง เขาเขียนประวัติศาสตร์อันสวยงามที่ กาลาตาซาราย เหมือนกับที่เขาทำได้กับสโมสรอื่นๆ เขาเป็นรากฐานสำคัญต่อความสำเร็จของพวกเรา และผมคิดว่าแฟนบอลพิจารณาให้เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดเท่าที่เคยเล่นให้กับ กาลาตาซาราย"

กองเชียร์ของ กาลาตาซาราย เป็นแบบไหน?

"แสนวิเศษ แสนวิเศษอย่างมาก พวกเขาสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ ในตอนที่ทีมต้องการพวกเขา พวกเขาจะมอบแรงกระตุ้นมาให้อยู่เสมอ ในตอนที่คุณออกไปเยือน พวกเขาก็จะอยู่กับพวกคุณเสมอ ผมต้องเห็นมันถึงจะเชื่อ คุณรู้สึกเหมือนกับว่าคุณได้เล่นในรัง ผมจะไม่มีวันลืมเกมที่ออกไปเยือน ดอร์ทมุนด์ ในศึก ยูฟ่า คัพ ทุกๆ คนทราบกันดีว่าแฟนบอลของ ดอร์ทมุนด์ เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น แต่ดันมีแฟนบอล กาลาตาซาราย มากกว่าแฟนบอล ดอร์ทมุนด์! มันน่าเหลือเชื่อมากๆ มันกระตุ้นเราได้อย่างมาก และคุณได้ยินเสียงพวกเขาอยู่เสมอ"

คุณคิดอย่างไรกับ เนย์มาร์?

"นักเตะที่ยอดเยี่ยม เขาเล่นฟุตบอลด้วยวิธีการที่สวยงาม เขาเป็นนักเตะที่เลี้ยงบอลได้อย่างน่าเหลือเชื่อ, สร้างจังหวะทำประตู, ทำประตูที่แสนวิเศษ เขาเป็นนักเตะที่มีความสำคัญกับพวกเราอย่างมาก เราหวังว่าจะอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดและช่วยให้ บราซิล คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้อีกสมัย เขาคือซูเปอร์สตาร์"

คุณคิดว่าใครคือผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดของโลกในตอนนี้?

"อาลีสซง ทาง ฟีฟ่า เองก็มอบรางวัล (Best FIFA Men) ให้กับเขา และมันเป็นรางวัลที่สมควรเป็นอย่างยิ่ง เขามีเทคนิคอย่างไม่มีที่ติ เขาเป็นผู้รักษาประตูที่อยู่ในช่วงเวลาสำคัญ เขาเล่นได้ดีจริงๆ และช่วยให้ทีมของเขาคว้าผลการแข่งขัน มันเป็นช่วงเวลาของเขา ต่อจาก อาลีสซง ผมคิดว่ามีผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยมมากมาย - เอแอร์ซอน, (มาร์ก-อันเดร) แทร์ ชเตเก้น, (ติโบต์) กูร์กตัวส์ คนที่ผมประเมินไว้สูงมากๆ, (ยาน) โอบลัค"

แล้วใครคือนักเตะที่ดีที่สุดเท่าที่คุณเคยเห็นมาในชีวิต?

"มาราโดน่า ผมเป็นแฟนตัวยงของ มาราโดน่า วิธีการที่เขาเล่นเป็นสิ่งที่น่าดูชมอย่างมาก วิธีการที่เขาสู้เพื่อทีมของตนเองในสนาม เทคนิคอันน่าเหลือเชื่อของเขา เพื่อนร่วมทีมของเขาชอบที่จะเล่นเคียงข้างกับเขา ผมจำได้ว่า กาเรก้า พูดชมเชยเขาเอาไว้อย่างมาก"

คุณคิดว่าเขาดีกว่า ลีโอเนล เมสซี่ หรือไม่?

"ถ้าคุณพูดอะไรที่ขัดแย้งกับ เมสซี่ คุณต้องเอาปืนมายิงหัวตัวเองแล้วล่ะ ดูสิ่งที่เขาทำให้กับ บาร์เซโลน่า สถิติของเขามันน่าอัศจรรย์ เขาคือปรากฏการณ์ แต่ผมไม่ชอบการเปรียบเทียบ ทั้งสองคนมีช่วงเวลาของพวกเขา มาราโดน่า คือเป็นที่สุดและตอนนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เมสซี่ คือที่สุดของโลก เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มีระดับที่แตกต่างออกไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาลงเล่นในยุคที่แตกต่างออกไป ฟุตบอลได้เปลี่ยนไป ดังนั้นผมไม่ชอบการเปรียบเทียบ แต่ผมสนุกกับการได้ชม มาราโดน่า"