:::     :::

ของดีลีก เอิง: โรแม็ง แปร์โรด์

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2563 คอลัมน์ ฟุตบอลข้างถนน โดย โกสุ่ย
1,606
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ในยุคที่ 'ฟูลแบ็ก' ถูกคาดหวังไว้มากกว่าการเล่นเกมรับ พวกเขาต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการเติมเกมรุกและเป็นตัว 'โจ๊กเกอร์' ที่คอยสอดแทรกหรือช่วยทีมยามจำเป็น

หลายปีที่ผ่านมาตำแหน่งฟูลแบ็ก หรือ วิงแบ็ก ถูกยกระดับความสำคัญขึ้นมาอย่างมากมาย นักเตะในตำแหน่งดังกล่าวหลายๆ คนกลายมาเป็นที่รู้จักในระดับโลก และก้าวมาเป็นนักเตะที่แฟนบอลติดตามผลงานอย่างใกล้ชิด

สิ่งเหล่านี่กระจายไปยังนักเตะรุ่นใหม่ที่ก้าวขึ้น โดยเฉพาะบรรดาฟูลแบ็กที่ต้องเพิ่มอาวุธให้กับตนเอง ไม่เพียงแค่การเล่นเกมรับที่ต้องมาเป็นอันดับ 1 แต่พวกเขาต้องสามารถเติมเกม เปิดบอล หรือแม้แต่ทำประตูให้กับทีม

มันคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในฟุตบอลสมัยใหม่ เพราะมันจะช่วยให้ฟูลแบ็กคนนั้นๆ เป็นที่น่าสนใจและเพิ่มโอกาสในการย้ายไปยังสโมสรที่ใหญ่กว่าเดิม หรือย้ายไปในระดับที่ใหญ่กว่าที่พวกเขาอยู่ ณ ตอนนั้น

คงไม่ต่างกันสำหรับกรณี โรแม็ง แปร์โรด์ แบ็กซ้ายสังกัดแบรสต์สโมสรในเวที ลีก เอิง ฝรั่งเศส ที่พัฒนาผลงานของตนเองจนกลายมาเป็นหนึ่งในนักเตะที่น่าจับตามองในเวลานี้




จากเด็กหนุ่มที่เกิดในเมืองตูลูส เขาค่อยๆ พัฒนาผลงานไต่ระดับจากทีมท้องถิ่นก่อนจะไปเข้าตา นีซ ที่ดึงไปร่วมทีมตั้งแต่ปี 2014 

ชีวิตที่ ริเวียร่า เต็มไปด้วยความหวังและรอโอกาสในการก้าวขึ้นมาบนทีมชุดใหญ่ แต่ด้วยการแข่งขันที่สูงส่งผลให้ แปร์โรด์ ต้องมองหาเวลาลงสนาม และตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม ปารีส แอฟเซ ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี

การตัดสินใจไปยังเมืองหลวงฝรั่งเศสเมื่อปี 2018 คือเส้นทางที่ดูเหมือนจะถูกต้อง เพราะที่นั่นเขาสร้างผลงานยอดเยี่ยมด้วยการลงสนามบนเวที ลีก เดอซ์ ไป 33 เกมพร้อมผลงาน 5 ประตู แถมยังพาทีมเข้าเล่นเพลย์ออฟเลื่อนชั้น แม้จะพลาดท่าตกรอบแต่ผลงานที่เกิดขึ้นก็ส่งผลให้ แปร์โรด์ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลีกลำดับสองแดนน้ำไปครอง (รางวัลจาก ฟร้องซ์ ฟุตบอล)

เมื่อหมดสัญญายืมตัว หลายคนมองไปถึงอนาคตที่สดใสของเด็กหนุ่มจากทางตอนใต้รายนี้ กระนั้นการแข่งในทีมนีซยังคงสูงมาก และการที่เขาเป็นแค่ทางเลือกลำดับสาม ส่งผลให้ แปร์โรด์ ต้องมองหาการย้ายทีมอีกครั้ง




ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า กลาสโกว์ เซลติก จับตามองแข้งหนุ่มชาวฝรั่งเศสรายนี้รวมไปถึง ดิฌง อีกหนึ่งสโมสรในลีกสูงสุดแดนน้ำหอม แต่นักเตะตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม แบรสต์ สโมสรที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ

หลายคนแปลกใจกับการย้ายไปร่วมทีมน้องใหม่ของลีกที่เพิ่งเลื่อนชั้นกลับมาเมื่อปี 2019 ที่แต่ที่นั่นสามารถตอบโจทย์และมอบสิ่งที่ แปร์โรด์ ปรารถนา นั่นคือการลงสนามอย่างต่อเนื่อง

แม้ฤดูกาลแรกจะยังไม่สามารถปรับตัวได้ดีและลงสนามไปเพียง 20 เกมก่อนลีกจะหยุดแข่งเพราะสถานการณ์โควิด-19 แต่เมื่อเริ่มต้นซีซั่นใหม่ มันกลายมาเป็นเวทีแจ้งเกิดของแข้งวัย 23 ปี

ฤดูกาลนี้ แปร์โรด์ ลงสนามไปทั้งหมด 10 นัด (ยังไม่รวมโปรแกรมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา) และทำได้ 3 ประตูในการดวลกับ ดิฌง, ลอริยองต์ และ ลีลล์ ซึ่งเกมที่ดวลกับ 'ตราหมา' ถือเป็นจุดสนใจของแฟนบอลและสื่อ เพราะทาง แปร์โรด์ สร้างผลงานยอดเยี่ยมทั้งยิงและจ่ายให้กับทีม

นั่นทำให้หลายๆ คนจับตามองพัฒนาการของ แปร์โรด์ และเชื่อว่าหากนักเตะยังคงทำได้ดีเช่นนี้ต่อไป เวทีที่ใหญ่กว่านี้อาจจะโบกมือรอต้อนรับเขาอยู่ในอนาคต




ด้วยวัย 23 ปี หลายๆ คนอาจจะมองไปถึงการก้าวกระโดดในเส้นทางอาชีพของตนเอง และพยายามมองหาโอกาสที่ดีกว่าในอนาคต แต่สำหรับ แปร์โรด์ เขามองทุกๆ อย่างแบบค่อยเป็นค่อยไป

"ทุกวันนี้ ฟุตบอลให้ความสนใจในเรื่องของสถิติมากกว่า ช่วยทำประตู ผมไม่สามารถโกหกในเรื่องนั้นได้ เพราะมันมีความหมายกับคุณเพื่อให้อยู่ในจุดสนใจที่มากกว่าเดิม มันน่าอับอายที่แฟนบอลต้องมาทำสิ่งนั้น แต่นั่นคือฟุตบอลสมัยใหม่ บางทีมันทำให้กองหลังอย่างเราๆ ต้องบุกมากขึ้น แม้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผม สถิติช่วยให้มั่นใจอย่างมาก เมื่อมันเป็นทั้งความมั่นใจและความเสี่ยง

"การอยู่ในเวทีลีก เอิง เป็นเรื่องที่มาก่อน ผมไม่ต้องการมองล่วงหน้าและพูดว่า 'นี่คือฤดูกาลที่ฉันสามารถพัฒนาได้อย่างยอดเยี่ยม' เพราะผมไม่ใช่คนแบบนั้น ผมไม่ใช่คนที่โอ้อวดว่านี่คือฤดูกาลของผม มันเกี่ยวกับการให้ความสำคัญกับทีมก่อน

"โอลิวิเย่ร์ ดัลล์โอกลิโอ (กุนซือแบรสต์) ช่วยผมวิเคราะห์เกมอยู่เสมอ ผมจำได้ดีถึงการพูดคุยหลังเกม เฟร้นช์ ลีก คัพ กับ ลียง เมือต้นปี 2020 ช่วงเวลาที่ผมยังไม่ได้ลงสนามมากนัก เขาบอกกับผมว่า 'โรแม็ง นั่นคือเกมที่ชัดเจนและฉันชอบมันนะ' นั่นทำให้ผมมีความมั่นใจและหลังจากผมได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในลีก มีช่วงเวลาในฤดูกาลที่คุณต้องการโค้ช"




ทัศนคติ การทุ่มเท ความมุ่งมั่น และความต้องการที่จะแสดงผลงานให้ดีกว่าเดิมคือสิ่งที่มีอยู่ในตัว โรแม็ง แปร์โรด์ และหวังว่าทุกๆ สิ่งจะหล่อหลอมให้เขากลายมาเป็นนักเตะที่ดีกว่าเดิมในอนาคต

หากจะพูดว่านี่คือช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของ แปร์โรด์ ก็คงไม่ผิด ตอนนี้เขาถูกแสงไฟสาดส่องให้ความสนใจ และมันอยู่ที่ว่าเขาจะสามารถพาตัวเองไปยังจุดที่แสงไฟสว่างไสวกว่าเดิมได้หรือไม่


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด