กว่าจะออกผล
หลังจากทีมมีผลงานอันย่ำแย่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง นิโก้ โควัช ย้ายเข้ามาที่ โมนาโก พร้อมความคาดหวังในการยกระดับผลงานของสโมสร
ช่วงแรกในถิ่น สต๊าด หลุยส์ II ไม่เป็นตามที่ต้องการ ผลงานของเขากับสโมสรเหมือนยังจูนกันไม่ติด ฟอร์มการเล่นในสนามไม่แน่นอน ส่งผลให้เกิดคำถามตามมา
เป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะกุนซือชาวโครเอเชียเข้ามาพร้อมกับการจับจ้องของแฟนบอล รวมไปถึงสื่อที่พยายามเพ่งเล็งผลงานในสนามของเขา
ถึงจะโดนจับจ้องและถูกพูดถึงเมื่อทำไม่ได้ตามที่คาดหวัง กระนั้น โควัช ค่อยๆ ใส่ปรัชญาของตนเองลงไปในทีมทีละนิด วันเวลาผ่านไปจนในที่สุดการทำงานที่เขาลงแรงไปก็ออกผลไปในทิศทางที่ต้องการ
นับตั้งแต่ชัยชนะเหนือ ดิฌง 1-0 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2020 หลังจากนั้น โมนาโก เดินหน้าทำผลงานอันยอดเยี่ยมแพ้นัดเดียวจาก 19 เกมในทุกรายการ ที่สำคัญด้วยผลงานดังกล่าวส่งผลให้ตอนนี้พวกเขาก้าวมาเป็นหนึ่งในทีมที่มีโอกาสลุ้นแชมป์ ลีก เอิง เช่นเดียวกัน
ผลงานอันกระท่อนกระแท่นจับทางตนเองไม่เจอ แต่หลังจากนักเตะทุกๆ คนเข้าใจสิ่งที่ โควัช ต้องการ โมนาโก กลายมาเป็นเสือติดปีกและทำผลงานได้ดีดีที่สุดนับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2021
35 คะแนนและผลงาน 36 ประตูนับตั้งแต่ย่างเข้าสู่ปีใหม่ ถึงตรงนี้ โมนาโก ไต่มารั้งที่ 3 ตามหลัง ลีลล์ จ่าฝูง 4 คะแนน แม้ โควัช จะย้ำหนักแน่นว่าเป้าหมายของเขากับทีมคือการไปเตะบอลยุโรปโดยเฉพาะ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ด้วยผลงานและอันดับในตอนนี้ทำให้แฟนบอลแอบหวังไปไกลกว่านั้น
สำหรับ โควัช มันคือพัฒนาการที่รุดหน้า อย่างที่เรียนไปว่าเขาต้องการใช้เวลาในการปรับตัวร่วมกับลูกทีม นั่นคือสิ่งที่เขาเคยลั่นว่าจาตั้งแต่การทำงานวันแรกๆ ใส่ปรัชญาลงไปให้ทุกๆ คนเดินไปในทิศทางเดียวกัน และอย่างที่เห็น เมื่อสิ่งที่เขาคาดหวังสำแดงผล มันทำให้ โมนาโก ไต่มาสูงจนถึงตอนนี้
สิ่งเหล่านั้นอาจจะมาจาก 'ดีเอ็นเอ' ส่วนตัวของ โควัช เขาย้ำเสมอว่าตนเองคือนักสู้ในสนาม มันเหมือนกับนิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่ตอนเป็นนักฟุตบอล ซึ่งไม่ต่างกันเมื่อเขาผันตัวมาเป็นโค้ชที่ต้องเรียนรู้ปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะสิ่งแวดล้อมต่างๆ
ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้เขาเป็นคนเปิดกว้าง ทำงานหนัก และที่สำคัญพร้อมเรียนรู้จากความผิดพลาดเพื่อนำมาแก้ไขและยกระดับผลงานให้ดีกว่าที่ผ่านมา
นอกจากผลงานในสนามที่ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก โควัช ยังคงให้ความสำคัญกับรากเหง้าของสโมสร ชัดเจนว่าเขาไม่ใช่กุนซือมือเติบที่พร้อมเคาะห้องทำงานของเจ้านายเพื่อขอเบิกงบเสริมทีมก้อนโต
การทำงานของเขาสอดประสานกับฝ่ายบริหารที่มีทั้งการดึงนักเตะใหม่และให้โอกาสบรรดาดาวรุ่งเข้ามาทำผลงานในทีม
แข้งหนุ่มฝีเท้าดีมากมายที่เขาขัดเกลายกระดับให้ดีกว่าเดิม หลายๆ คนสร้างผลงานโดดเด่นกว่าที่ผ่านมา นั่นคือสิ่งที่ต้องยกความดีความชอบให้กับ โควัช
หากจะบอกว่านี่คือทิศทางที่ โควัช อยากให้ โมนาโก เป็นไปก็คงไม่เกินเลย แม้แผนงานของเขาคือการใส่ปรัชญาลงไปในทีม ค่อยๆ ยกระดับผลงานร่วมกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่ามาไกลกว่าที่เขาคาดหวังไว้
แต่สัญญาณที่ถูกส่งออกมาจาก โมนาโก ถือเป็นเรื่องที่ทำให้แฟนบอลมีความหวังหลังจากทีมต้องสะดุดในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา
แม้เป้าหมายจะมาไกลกว่าที่ โควัช คาดหวังไว้ในตอนแรก แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่ากุนซือวัย 49 ปีพอใจกับทุกๆ อย่างที่เป็นไปอย่างมาก มันมาจากการลงแรงทำงานอย่างหนัก และแสดงให้เห็นว่าทุกๆ คนในสโมสรหนุนการทำงานของเขาอย่างเต็มที่
ทิศทางของ โมนาโก ภายใต้การนำของ โควัช หลังจากนี้น่าสนใจ ด้วยเป้าหมายการเล่นบอลยุโรปฤดูกาลต่อไปกำลังดำเนินไปได้สวย ผลงานในสนามน่าจับตาโดยเฉพาะระบบการเล่นที่สามารถหมุนเวียนได้อย่างลงตัว ซึ่งนั่นคือจุดแข็งของทีมในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม โควัช ไม่ติดเหลิงหรือได้ใจมากเกินไป เขาทราบดีว่าหากวัดกันที่ศักยภาพนักเตะ พวกเขายังคงเป็นรองคู่แข่งในหัวตารางทีมอื่นๆ ซึ่งเขาพยายามทดแทนมันด้วยทีมเวิร์ก สมดุลภายในกลุ่มนักเตะ และที่สำคัญคือแบบแผนที่เขาเพียรพยายามฝังลงไปในความคิดนักเตะตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับตำแหน่ง
7 นัดที่เหลือของ โมนาโก ในฤดูกาลนี้คงไม่ต่างจากการลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ ทุกๆ ชัยชนะของพวกเขามีความหมายกับการเข้าใกล้สิ่งที่วางไว้
จากทีมที่ถูกมองข้ามและถูกมองว่าต้องใช้เวลาอีกพอสมควรกว่าจะกลับมาเข้าที่เข้าทาง แต่ตอนนี้ โควัช แสดงให้เห็นแล้วว่าการทำงานที่เขาลงแรงไปเริ่มออกผลผลิตไปในทิศทางที่เขาต้องการ
แต่จะไปถึงตรงจุดไหน เวลาจะให้คำตอบด้วยตัวมันเอง
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT