จะลงเอยแบบไหน?

หลายปีที่ผ่านมาข่าวคราวการย้ายทีมของ เคน มีขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อมาถึงช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเปิดทำการ บรรดาทีมใหญ่ๆ ถูกโยงกับแข้งวัย 27 ปีรายนี้ แต่ทาง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สามารถรั้งนักเตะและถือสัญญาไปจนถึงปี 2024

สำหรับ เคน แล้ว ไก่เดือยทอง เปรียบได้กับเวทีแห่งโอกาสที่ทำให้เขาได้แสดงผลงาน ทั้งสองฝ่ายต่างตอบแทนกันและกัน สเปอร์ส ให้โอกาสกับเด็กหนุ่ม 'โนเนม' มอบเส้นทางให้กับนักเตะได้เติมเต็มความฝัน เช่นเดียวกับกองหน้ารายนี้ที่คว้าโอกาสพร้อมกับตอบแทนสโมสรด้วยการสร้างฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม

เรื่องราวดำเนินไปด้วยดีไม่มีสัญญาณอะไรที่บ่งชี้ความผิดปกติ จนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเมื่อบรรดาสื่อเมืองผู้ดีเริ่มปล่อยข่าวว่า เคน ไม่มีความสุขในถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็ฮตสเปอร์ สเตเดียม อีกต่อไปแล้ว

ส่วนหนึ่งมาจากความสำเร็จที่จับต้องได้ของสโมสรที่ไม่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว หรือตลอดช่วงเวลาที่ เคน รับหน้าที่หน่วยทะลวงตาข่ายให้กับทีม ไก่เดือยทอง ไม่สามารถพุ่งชนความสำเร็จได้เลย มีเพียงการเข้าชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก (2019) และ คาราบาว คัพ (2015 และ 2021) ซึ่งจบลงด้วยการเป็นแค่ 'พระรอง' เท่านั้น

เดาว่าเรื่องเหล่านี้คงจะกวนใจ เคน ไม่น้อย เพราะหากมองหรือเทียบกับหอกระดับโลกคนอื่นๆ ที่พุ่งชนความสำเร็จกับต้นสังกัดเป็นว่าเล่น นี่คือสิ่งที่แข้งวัย 27 ปีเป็นรองและยังไม่ได้ถูก 'ยอมรับ' อย่างสมบูรณ์

บวกกับความผิดหวังหนล่าสุดที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิ่งน่าจะเป็นตัวกระตุ้นให้ เคน เริ่มคิดถึงอนาคตในวัย 27 ปีว่า 'อาจจะ' ถึงเวลาในการมองหาทางเลือกใหม่ๆ ให้กับตนเองเสียที

"สำหรับผม ผมไม่ต้องการจบเส้นทางอาชีพของผมโดยหลงเหลือความเสียใจเอาไว้ ดังนั้นผมต้องการเป็นนักเตะที่ดีที่สุดเท่าที่ผมสามารถจะเป็นได้ อย่างที่ผมเคยพูดไปก่อนหน้านี้ว่าผมไม่เคยพูดว่าตนเองจะอยู่ที่ สเปอร์ส ไปตลอดอาชีพของผม  

"ผมไม่เคยพูดว่าผมจะจาก สเปอร์ส คนอื่นๆ อาจจะพูดกันว่า 'โอ้ เขาหมดวังกับการคว้าแชมป์ เขาต้องการได้ถ้วยรางวัล'"

นั่นคือบางช่วงบางตอนที่ เคน ให้สัมภาษณ์กับ แกรี่ เนวิลล์ ในรายการ 'The Overlap' ซึ่งฉากหลังเป็นสนามกอล์ฟเขียวขจีพร้อมสายลมที่พัดกระทบกองหน้าทีมชาติอังกฤษ

แน่นอนว่า เคน ไม่อยากแตกหักกับสโมสร เพราะสำหรับเขาแล้ว สเปอร์ส ไม่ต่างจากบ้านหรือในฐานะผู้มีพระคุณที่มอบโอกาสให้ได้เฉิดฉายในวงการฟุตบอล แต่เมื่อมันมาถึงจุดหักเหของชีวิต ทางออกของปัญหาที่เกิดขึ้นต้องได้รับการแก้ไขให้กระจ่าง

หนึ่งในนั้นคือการเข้าไปพุดคุยกับ แดเนียล เลวี่ ประธานสโมสร ซึ่งคงจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ เปิดอกคุยถึงความต้องการของแต่ละฝ่ายพร้อมกับมองหาทางออกที่ดีที่สุดในเรื่องโดยให้เกิดความขัดแย้งน้อยที่สุด

หากมองไปที่สถานการณ์ปัจจุบัน สเปอร์ส ยังคงเป็นฝ่ายที่คุมเกมเพราะด้วยสัญญานักเตะที่ลากยาวไปจนถึงปี 2024 เป็นปัจจัยสำคัญที่ 'อาจจะ' ทำให้ทีมสามารถกุมความได้เปรียบในการต่อรอง ยกเว้น เคน จะงัดไม้แข็งกลับไป ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมากๆ (แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไปได้)

"ผมคิดแบบนั้น ผมคิดว่าจะต้องมีการพูดคุยกับสโมสรอย่างแน่นอน มีสนทนาแบบดีๆ อย่างตรงไปตรงมากับท่านประธาน (เลวี่) ผมหวังว่าเราจะคุยกันแบบนั้นได้ เขาอาจคิดว่า 'ถ้าได้ค่าตัว 100 ล้านปอนด์ จากนาย ทำไมจะขายไม่ได้ล่ะ?' ในอีก 2-3 ปีข้างหน้ามูลค่าของผมจะไม่อยู่ในระดับนั้น

"เขา (เลวี่) ดีกับผมมาก เขาตอบแทนผมด้วยสัญญาใหม่เสมอ ผมเซ็นสัญญาไป 4-5 ปี ตอนอายุ 21 แต่ผมเล่นได้ดีและเขาก็เพิ่มสัญญาให้ เขายุติธรรมกับผมเป็นอย่างมาก เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด"

ไม่มีใครรู้ความต้องการของตนเองได้ดีไปกว่า แฮร์รี่ เคน และอย่างที่เอ่ยไปข้างต้นแล้วว่าเมื่อเรื่องราวมาถึงทางแยกของการตัดสินใจ ทางออกที่ดีที่สุดคือการนั่งจับเข่าคุยกัน เปิดใจถึงสิ่งที่แต่ละฝ่ายต้องการ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้ง เคน และ สเปอร์ส เหมือนคนคุ้นเคย คนในครอบครัวที่อยู่ด้วยกันมาครึ่งชีวิต

การจะมางัดข้อหรือใช้อารมณ์เป็นใบเบิกทางให้ได้สิ่งที่ต้องการจึงน่าจะเป็นทางเลือกสุดท้ายในเรื่องนี้ ซึ่งสโมสรก็อาจจะยอมรับฟังและมานั่งหารือหลังจบ ยูโร 2020

"ผมรู้สึกว่าผมยังเหลือเวลาอีกเยอะให้ลงเล่น ผมเหลือเวลาอีก 7 หรือ 8 ปี เท่าๆ กับที่ผมเล่นในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว ดังนั้นผมจะไม่รีบร้อน ผมไม่ได้กระหายที่จะทำอะไรทั้งนั้น แต่ใช่ ผมต้องการอยู่ในรูปแบบที่ดีที่สุดของตัวเอง ผมยังมองสิ่งต่างๆ ได้มากกว่านี้ ผมยังทำได้ดีกว่าสิ่งที่ผมทำออกมา ผมสามารถสร้างจำนวนได้ดีกว่าที่ผมทำในตอนนี้

"ผมอยากจะลงเล่นในเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ได้อยู่โมเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เช่นในฤดูกาลนี้ ผมนั่งดูการแข่งขันแชมเปี้ยนส์ ลีก และทีมจากอังกฤษก็ทำได้น่าทึ่ง นี่คือการแข่งขันที่ผมอยากมีส่วนร่วม มันเป็นช่วงเวลาในอาชีพที่ผมต้องนึกถึงแล้วดูว่า ตัวเองอยู่จุดไหน และอะไรจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในอาชีพของตัวเอง" 

ฝั่ง สเปอร์ส ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่ต้องหาทางแก้ไขและปรับความเข้าใจกับ เคน แต่พวกเขาต้องรับมือหลายด้านโดยเฉพาะสื่ออังกฤษที่ถนัดเรื่องการเล่นข่าวแบบนี้ รวมไปถึงสโมสรอื่นๆ ที่กำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด

เราจะเห็นได้ว่าสื่อเมืองผู้ดีเริ่มรายงานข่าวเกี่ยวกับอนาคตของกองหน้าวัย 27 ปีอย่างหนัก หลายสำนักเริ่มผุดแนวคิดของทีมต่างๆ ที่พยายามกระชาก เคน ไปใช้งานไม่ว่าจะเป็น แมนฯ ซิตี้, เชลซี หรือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 

หลังจากนี้เราจะได้เห็นถึงกระแสข่าวที่เกี่ยวกับ เคน ออกมาทุกวัน ทั้งในลักษณะข่าวลือ, การวิเคราะห์ หรือบรรดาความเห็นของคนในวงการที่ให้แฟนบอลได้อ่านแบบหนำใจหรือดูจนตาแฉะ

อนาคตของ แฮร์รี่ เคน น่าสนใจมากกว่าปีที่ผ่านๆ มา เพราะด้วยบทสัมภาษณ์และความเห็นล่าสุดทำให้ทุกๆ คนคิดและโน้มเอียงไปว่าถึงเวลาที่หอกรายนี้ต้องการมองหาเส้นทางใหม่ให้กับตนเอง

เส้นทางที่พุ่งชนความสำเร็จ การคว้าแชมป์ที่ตนเองไม่เคยสัมผัสเลยตลอดการเล่นอาชีพ ซึ่งเป็น 'ตำหนิ' ที่เขายังไม่สามารถสลัดมันพ้นไปได้ และทางเลือกที่ดีที่สุด 'อาจจะ' เป็นการย้ายไปยังสโมสรที่องค์ประกอบพร้อมมากกว่า

เมื่อมองไปยังสโมสรที่มีข่าวโยงกับนักเตะ เรือใบสีฟ้า ดูจะเป็นทีมที่มีองค์ประกอบ ปัจจัย และเป็นช่วงเวลาเหมาะเจาะที่สุด เพราะแชมป์พรีเมียร์ลีกทีมล่าสุดกำลังควานหากองหน้าตัวเป้ารายใหม่ ซึ่งชื่อของ เคน ดูจะลงล็อกและเข้าท่าที่สุด บวกกับบทสัมภาษณ์ของนักเตะที่บอกว่าอยากเล่นกับ เควิน เดอ บรอยน์ ยิ่งทำให้สื่อโหมกระพือมากกว่าเดิม

"แน่นอนว่าเป็น เดอ บรอยน์ (นักเตะที่อยากเล่นด้วย)" 

"ในตอนที่ผมดู เดอ บรอยน์ เล่น เขาเป็นคนที่พิเศษ นักเตะที่พิเศษและการผ่านบอลบางจังหวะที่เขาทำให้ ซิตี้ เป็นสิ่งที่กองหน้าฝันถึง ซึ่งเรียนตามตรงว่าใช่ เขาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม

"คุณ (แกรี่ เนวิลล์) ก็ได้ดูเขาเล่น เขาเป็นนักเตะที่เล่นกับบอลได้ยอดเยี่ยมอย่างมาก รวมไปถึงตอนไม่มีบอล หรือการเพรสซิ่ง แต่ต้องบอกตรงๆ ว่าการผ่านบอลของเขาดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา"

หลายคนคิดไปไกลว่าเป็นการส่งสัญญาญอนาคตของเขาไปในตัว แต่เราก็ยังไม่สามารถกาชื่อทีมอื่นๆ อย่าง เชลซี หรือ ผีแดง ทิ้งออกไปได้เช่นกัน เพราะไม่มีใครรู้ว่าท้ายที่สุดอนาคตของ เคน จะลงเอยแบบไหน

อย่าง สิงโตน้ำเงินคราม เป็นอีกทีมที่อยากหากองหน้าตัวปิดบัญชีรายใหม่ ยิ่งชื่อของ เคน เป็นข่าวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาทำให้อริจากลอนดอนของ สเปอร์ส ทีมนี้คงไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือไป ซึ่งอย่างน้อยๆ ก็ขอมองดูสถานการณ์และมองหาช่องทางความเป็นไปได้เผื่อไว้เช่นกัน

หรือทาง ปิศาจแดง ที่มีข่าวกับกองหน้าทีมชาติอังกฤษมาอย่างยาวนาน ก็เป็นอีกทีมที่ไม่อาจจะตัดทิ้งไปได้ในกรณีที่ เคน ได้รับอนุญาตย้ายทีมจริงๆ ถึงแม้พวกเขาจะต่อสัญญากับ เอดินสัน คาวานี่ ออกไปอีกปี แต่หากแข้งวัย 27 ปีถูกแปะป้ายขาย จะมีหรือที่อดีตยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีกจะไม่ลงสนามล่าตัวเพื่อเสริมแกร่งให้กับพวกเขา

ปัจจัยต่างๆ ยังคงมีผลกับอนาคตของเขา อย่างที่เรียนไปแล้วว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องได้รับการแก้ไขจากภายในสโมสรเสียก่อน หลังจากนั้นจึงจะเห็นทิศทางอนาคตของนักเตะชัดเจนขึ้น

อาจจะเป็นเรื่องราวของอนาคตที่จะมีความกระจ่างในเร็วๆ นี้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าแฟนบอลทั่วโลกกำลังจับตาสถานการณ์ของ แฮร์รี่ เคน อย่างใกล้ชิดทุกฝีก้าว

ท้ายที่สุด 'จะอยู่ต่อ' หรือ 'ย้ายทีม' สิ่งที่เกิดขึ้นจะมีเพียงหนึ่งเดียวท่านั้น