ออกเดินทาง (อีกครั้ง)

จะว่าไปไม่ต่างจากการคืนสู่เหย้ากลับไปยังจุดเริ่มต้นเพียงแต่สีเสื้อในการย้ายทีมคราวนี้เปลี่ยนเป็นสีขาวของ โอลิมปิก มาร์กเซย

เส้นทางสายนักเตะของเด็กหนุ่มวัย 22 ปีเริ่มต้นจากการเป็นเด็กฝึกของ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ที่ดึงเข้าทีมตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ชีวิตการเป็นนักเตะเยาวชนสังกัด เปแอสเช ดำเนินมาเรื่อยๆ จนเจอจุดเปลี่ยนในปี 2014 

ลอริยองต์ คือทีมที่เข้ามาโอบอุ้ม เก็นดูซี่ ด้วยการนำไปดูแลต่อ และหากจะบอกว่าการย้ายไปยังภูมิภาคบริตตานี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญของแข้งรายนี้ก็คงไม่ใช่การพูดเกินเลยไปแต่อย่างใด เพราะในซีซั่น 2014/15 เก็นดูซี่ เป็นหนึ่งในขุนพลลอริยองต์ที่ฟาดแชมป์รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี แถมหลังจากนั้น 2 ปีนักเตะหัวฟูยังช่วยให้ทีมเข้าไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศในรายการยู-19 ของฝรั่งเศส

พัฒนาการของ เก็นดูซี่ น่าจับตามอง โดยเฉพาะในฝรั่งเศสที่เริ่มมีเสียงพูดถึงกองกลางรายนี้อย่างหนาหู และในปี 2016 ซิลแว็ง ริโปลล์ เทรนเนอร์ลอริยองต์ในขณะนั้นมอบโอกาสให้เขาประเดิมสนามทีมชุดใหญ่ในเกม ลีก เอิง ที่ดวลกับ น็องต์ ซึ่งเกิดขึ้นบนวัยเพียง 17 ปี 184 วัน

ชีวิตในเวที ลีก เอิง ของ เก็นดูซี่ อาจจะแสนสั้นเนื่องจากฤดูกาลดังกล่าว ลอริยองต์ ต้องตกชั้น แต่สำหรับเขาแล้วการได้โอกาสลงหวดในระดับอาชีพถึง 8 เกมนับเป็นความทรงจำที่ดี

หลังจากนั้น เก็นดูซี่ กลายมาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมบนเวที ลีก เดอซ์ แม้ว่าจะพลาดโอกาสเลื่อนชั้นกลับไปลีกสูงสุด แต่ผลงานส่วนตัวไปเข้าตา อาร์เซน่อล อย่างจัง

ถือเป็นก้าวกระโดดของ เก็นดูซี่ จากเด็กหนุ่มโนเนมกลายเป็นที่จับตามอง ที่สำคัญคือการย้ายไปเล่นให้ เดอะ กันเนอร์ส ที่หลายคนมองว่า เก็นดูซี่ คงทำได้เพียงนั่งอยู่ข้างสนามสลับกับการเล่นให้ทีมสำรอง แต่เขาสร้างผลงานเอาชนะใจ อูไน เอเมรี่ จนกลายมาเป็นนักเตะทีมชุดใหญ่เต็มตัว

อย่างไรก็ตาม เมื่อสโมสรดังของลอนดอนเหนือเกิดการเปลี่ยนแปลง มันได้ส่งผลกระทบไปยังตำแหน่งของ เก็นดูซี่ ประกอบกับผลงานและพฤติกรรมส่วนตัวที่ไม่เข้าตา มิเกล อาร์เตต้า ส่งผลให้นักเตะโดนอัปเปหิไปให้ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ในรูปแบบยืมตัว

ที่ เวทีบุนเดสลีกา ผลงานของ เก็นดูซี่ ดูดีขึ้นโดยสถิติระบุว่ากองกลางเลือดน้ำหอมผ่านบอลในพื้นที่ของฝ่ายตรงข้ามสำเร็จมากขึ้น 81.6% ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดในทีม นอกจากนั้นเขายังเป็นคนเรียกฟาวล์ได้มากที่สุดเป็นอันดับสองของสโมสร รวมไปถึงการเรียกจุดโทษได้ถึงสองครั้ง ยังมีสถิติที่บ่งชี้ว่า เก็นดูซี่ สามารถเลี้ยงบอลกินพื้นที่รวมได้ถึง 3.95 กิโลเมตร ซึ่งมาจากจำนวนการลงสนามไปทั้งหมด 24 เกม 

สถิติที่เกิดขึ้นข้างต้นถือว่าดีใช่หยอก แน่นอนว่าตัวนักเตะดูมั่นใจมากขึ้นและพร้อมกลับไปทวงตำแหน่งที่ อาร์เซน่อล กระนั้นเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงแค่การคิดฝ่ายเดียว เพราะจนแล้วจนรอด อาร์เตต้า ก็ยังคงปฏิเสธ ส่งผลให้นักเตะต้องออกเดินทางอีกครั้ง

อย่างที่เรียนไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าจุดหมายหนนี้คือ โอลิมปิก มาร์กเซย ยักษ์หลับจากเวทีลีก เอิง ที่เสริมทีมอย่างหนักในหน้าร้อนนี้ ซึ่ง โอแอ็ม กำลังพยายามล้างไพ่และสร้างทีมใหม่ให้ ฮอร์เค่ ซามเปาลี โดยมีเป้าหมายในการกลับไปทวงบัลลังก์ของแดนน้ำหอม

ไม่ต่างไปจาก เก็นดูซี่ การย้ายทีมหนนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การหา 'ที่ลง' เท่านั้น แต่มันหมายถึงโอกาสในการสร้างผลงานและพิสูจน์ตนเองให้คนอื่นๆ ได้เห็น โอกาสที่จะแสดงศักยภาพในตัวออกมารวมไปถึงการพัฒนายกระดับฝีเท้าให้สูงขึ้น

ในวัย 22 ปีของหลายๆ อาจจะอยู่เพียงแค่จุดเริ่มต้น แต่สำหรับ เก็นดูซี่ เขามาไกลเกินกว่านั้น ประสบการณ์ถือว่าโชกโชนกว่าเด็กในรุ่นราวคราวเดียวกัน กระนั้นเป้าหมายของเขาหนนี้ต่างไปจากครั้งก่อนๆ ซึ่งมันคือการทำผลงานให้เปรี้ยงปร้างจนมีคนเหลียวมอง

สำหรับ เก็นดูซี่ นี่จะเป็นโอกาสครั้งสำคัญไม่ต่างจาก โอแอ็ม ที่พร้อมเดิมพันกับเด็กหนุ่มรายนี้ 

เส้นทางของทั้งสองฝ่ายมาบรรจบกัน โดยหวังว่าต่างฝ่ายต่างจะได้ประโยชน์จากกันและกัน และหากเป็นไปตามนั้นจะถือเป็นสิ่งที่ดีอย่างมากโดยเฉพาะกับฤดูกาลที่มีความคาดหวังพุ่งสูงกว่าที่ผ่านมา

ผลงานในสนามคงเป็นเพียงคำตอบเดียวว่า เส้นทางที่ เก็นดูซี่ เลือกเดินคราวนี้จะสามารถทำให้เขาไปยังจุดหมายที่ตั้งใจไว้ได้หรือไม่