ชีวิตดั่งนิยายของ โชนาตาน โกลสส์
ด้วยนิสัยส่วนตัวที่ทุ่มเทอย่างเต็มกำลังไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าที่นั่นจะมีแสงสาดส่องลงมาหรือไม่ แต่สำหรับ โชนาตาน โกลสส์ สนามฟุตบอลคือเวทีที่เขาจะได้ปลดปล่อยตัวเองออกมา
เริ่มต้นไม่ต่างจากนักเตะคนอื่นๆ พยายามไต่เต้าในระดับเยาวชนโดยมีทีมขวัญใจวัยเด็กอย่าง สตราส์บูร์ก รับไปดูแล แต่เหมือนว่าช่วงเวลา 10 ปีที่อยู่ที่นั่นไม่ได้ทำให้เขามีโอกาสมากกว่าที่เป็นอยู่
3 ปีกับการใช้ชีวิตในทีมสมัครเล่นของสตราส์บูร์ก หลังจากนั้น โกลสส์ ตัดสินใจเก็บกระเป๋าข้ามดินแดนไปร่วมงานกับสโมสรในระดับดิวิชั่น 6 ของ เยอรมนี ซึ่งมีชื่อไม่คุ้นหูอย่าง เอสเฟา ลินซ์
เหมือนกับว่าเส้นทางสายลูกหนังของเด็กหนุ่มจากเมืองสตรส์บูร์กรายนี้ค่อยๆ ถอยหลัง เพราะไม่นานก็ต้องกลับไปที่ฝรั่งเศสระเหเร่ร่อนเดินทางไปเล่นให้ทีมนอกลีกแดนน้ำหอมทั้ง รายง เลต๊าป และ อาฟร็องช์
แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในหน้าร้อนปี 2016 ตอนอายุเข้าสู่วัย 24 ปี เพราะ โกลสส์ ได้รับสัญญาอาชีพหนแรกจากสโมสร เกอวิยี่
แม้ทาง เกอวิยี่ จะมีปัญหาด้านผลงาน แต่สำหรับ โกลสส์ มันคือเวทีที่ทำให้เขาได้แสดงตัวตนออกมา ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้รับรางวัลของความพยายาม เนื่องจาก อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ (ที่ตอนนั้นเป็นทีมในระดับ ลีกา 2 เยอรมนี) มองเห็นศักยภาพก่อนจะดึงตัวไปร่วมทีมแบบไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะนักเตะหมดสัญญากับ เกอวิยี่ พอดี
ทีแรก โกลสส์ ถูกวางสถานะเป็นเพียงอะไหล่ฉุกเฉินในตำแหน่งฟูลแบ็กเท่านั้น และเกือบจะได้ย้ายไปเล่นในลีกเบลารุส ซึ่งดีว่าการเจรจาล่มลงไป หลังจากเหตุการณ์นั้นแข้งชาวฝรั่งเศสค่อยๆ งัดศักยภาพในตัวออกมาให้เห็น
สองฤดูกาลที่ นอร์ธ ไรน์-เวสฟาเลีย ถือเป็นตัวจุดประกายผลงานของ โกลสส์ อย่างชัดเจน เพราะที่นั่นกลายมาเป็นที่บ่มเพราะฝีเท้าของนักเตะรายนี้ให้เฉิดฉายเด่นชัดกว่าที่ผ่านมา
สองซีซั่นพร้อมผลงานการลงสนามไปกว่า 65 เกม ยังมีการทำประตูอีก 8 ลูกพร้อมแอสซิสต์อีก 13 ครั้งเป็นเครื่องยืนยัน ที่สำคัญ โกลสส์ กลายมาเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพา บีเลเฟลด์ เลื่อนชั้นกลับไปเล่นบุนเดสลีกหลังจากพาทีมคว้าแชมป์ ลีกา 2 ในฤดูกาล 2019/20
34 เกม พร้อมผลงาน 5 ประตูกับ 8 แอสซิสต์ เพียงพอให้ ล็องส์ เดินหน้าเจรจาดึงไปร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัว
มันคือการย้ายทีมที่กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญอีกครั้ง เพราะการกลับมาฝรั่งเศสหนนี้ โกลสส์ มาพร้อมแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ที่ทำให้หลายๆ คนหันมาสนใจแข้งโนเนมเช่นเขา
ฤดูกาลที่ผ่านมา โกลสส์ ลงสนามไป 33 นัดและสร้างผลงาน 5 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ จนมีเสียงเชียร์เรื่องการติดทีมชาติดังออกมาเบาๆ
แน่นอนว่าส่วนใหญ่มาจากคนรอบตัวแข้งวัย 29 ปีเสียมากกว่า ผิดกับทาง โกลสส์ ที่ไม่เคยมองหรือเชื่อเลยว่าตนเองจะติดทีมชาติอย่างที่มีเสียงเชียร์ดังออกมา
"แน่นอน พวกเราอยากให้เขาอยู่ในทีมชาติฝรั่งเศส แต่เขาไม่เชื่อเลยว่าตนเองจะอยู่ในทีมนั่นได้ เขาพูดว่านั่นไม่ใช่ที่สำหรับเขา แต่หลังจากเส้นทางอาชีพที่เขามี มันจะไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย"
คำพูดดังกล่าวมาจาก โชซีอาน มารดาของ โกลสส์ ที่กล่าวไว้เมื่อปี 2021 ท่ามกลางกระแสเชียร์ให้ ดีดีเย่ร์ เดส์ช็องส์ เรียกตัววิงแบ็กรายนี้ไปใช้งาน แต่หลังจากนั้นมันก็ค่อยๆ จางหายไป
ชัดเจนว่าสำหรับ โกลสส์ มันคงเป็นฝันที่ไกลเกินไป หรือเป็นความคาดหวังลมๆ แล้งๆ ในการมองให้ตัวเองไปอยู่ในทีมชาติฝรั่งเศสของ เดส์ช็องส์ ที่สำคัญพอมีกระแสข่าวออกมามันดันไปกระทบผลงานนักเตะ ซึ่งตัวแบ็กขวารายนี้ยอมรับว่าส่งผลกับฟอร์มการเล่นไม่น้อย
กระนั้นผลงานของแข้งวัย 29 ปีมีแต่พุ่งขึ้น ทำให้กระแสเสียงเชียร์กลับมาอีกครั้ง เพราะฤดูกาลนี้ โกลสส์ ยังคงสร้างฟอร์มการเล่นที่ดีด้วยการเปิดแอสซิสต์ 9 ครั้งในลีก เอิง และทำได้ 4 ประตูจากตำแหน่งวิงแบ็กขวา
ท้ายที่สุดจากการประกาศรายชื่อนักเตะทีมชาติฝรั่งเศสที่จะลงสนามดวล ไอวอรี่ โคสต์ และ แอฟริกาใต้ ในศึกอุ่นเครื่องปลายเดือนนี้ เดสช็องส์ ได้เอ่ยชื่อ 'โชนาตาน โกลสส์' ออกมาเพื่อยืนยันการเรียกตัวแข้งวัย 29 ปีมาติดทีมชาติอย่างเป็นทางการ
วินาทีนั้น ... น้ำตาแห่งความปิติยินดีคงไหลอาบหน้า โกลสส์ เพราะมันเหมือนกับผลตอบแทนจากความพยายามของเขาที่กลายมาเป็นรางวัลซึ่งคนรอบข้างอยากให้เขาได้รับ
มันคือช่วงเวลาแห่งความยินดี แต่หลังจากนี้คือการคว้าโอกาสครั้งสำคัญและแสดงให้เห็นว่าตนเองมีดีพอเพื่อที่จะอยู่ในทีม ตราไก่ ของ 'เดเด้' ต่อไป
ด้วยอุปนิสัยของ โกลสส์ ตามคำบอกเล่าของอดีตเพื่อนร่วมทีมสมัยเล่นให้ทีมลีกล่างฝรั่งเศสอย่าง อาฟร็องช์ คงไม่มีอะไรให้กังวลใจเพราะยืนยันมาแล้วว่าแข้งวัย 29 ปีเต็มที่กับการทำงานเสมอและมองไปข้างหน้าตลอดเวลา
"เมื่อคุณรู้จักเขา เขาจะรู้ว่าเขาเป็นคนที่ทุ่มสุดตัว มองไปข้างหน้าเสมอ ชีวิตนอกสนามของเขาก็เป็นเช่นนั้นด้วย คนที่บ้าหน่อยๆ และไม่กังวลกับสิ่งต่างๆ มากนัก" อ็องโตนี่ เบิฟ อดีตเพื่อนร่วมทีม โกลสส์ ระบุ
เส้นทางที่ทอดยาวต่อจากนี้ของชายวัย 29 ปีมันคือจุดเริ่มต้นในนามทีมชาติที่ถือเป็นเกียรติสำคัญในอาชีพนักเตะ
สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นอีกด้วยว่าหากคุณพยายามมากพอ คุณก็จะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า มันไม่สำคัญหรอกว่าต้องใช้เวลากี่ปี เพียงแค่ลงมือทำและใส่ความตั้งใจลงไป ท้ายที่สุดคุณจะได้ผลตอบแทนกลับมา
สำหรับ โชนาตาน โกลสส์ มันคือสะพานที่จะพาตัวเขาไปยังก้าวต่อไป ไปยังก้าวที่สูงกว่าเดิม และที่เหลือขึ้นอยู่กับตัวของเขาเองแล้วว่าจะสามารถสานต่อและคว้าโอกาสมาไว้ในมือได้หรือไม่
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT