ฝันร้ายที่ปาแลร์โม่
บุก นอร์ทมาซิโดเนีย ตลอด 90 นาที แต่กลับมาโดนประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ก่อนจะพลาดโอกาสไปฟุตบอลเป็นหนที่ 2 ติดต่อกัน
'หายนะ' แฟนบอลอัซซูรี่บางรายกล่าวไว้เช่นนั้น หลายคนยังคงพูดไม่ออกหลังจบเกมที่ ปาแลร์โม่ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และมีอีกหลายคนที่ยังไม่เข้าใจว่าทำไม อิตาลี ถึงพ่ายแพ้ในนัดล่าสุด
นับตั้งแต่เสียงนกหวีดแรกดังขึ้น ณ สตาดิโอ เร็นโซ่ บาร์เบร่า เป็นทางขุนพลอัซซูรี่ดาหน้ากดดัน นอร์ทมาซิโดเนีย ทันที รูปเกมที่เกิดขึ้นเป็นไปตามที่แฟนบอลหรือนักวิจารณ์มากมายคาดหมายไว้ว่าจะออกมาเช่นนั้น
ไม่ต่างจาก นอร์ทมาซิโดเนีย ที่คาดคิดไว้แล้วว่าจะต้องเจอรูปเกมเช่นนี้ แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือทีม สิงโตแดง เตรียมตัวมาเพื่อการนั้นตั้งแต่แรกแล้ว
อิตาลี อยากครองบอลก็ทำไป อยากคุมเกมหรือขึงอยู่ในแดน นอร์ทมาซิโดเนีย มากแค่ไหนก็ทำได้ตามสะดวก อยากบุกกดดันเท่าไหร่ก็ทำไป แต่สิ่งที่ห้ามเด็ดขาดคือ 'การทำประตู'
นั่นคือสิ่งที่ นอร์ทมาซิโดเนีย ทำได้ดีในการปฏิเสธหรือปิดกั้นจังหวะสุดท้ายของ อิตาลี ไม่ว่าขุนพลอัซซูรี่จะบุกมากแค่ไหน จะเข้ากรอบเขตโทษเพื่อสร้างความอันตรายมากี่ครั้ง แต่ทั้งหมดจบลงที่ไม่ยิงหลุดกรอบก็ต้องติดบล็อกแนวรับเสียทั้งหมด
หรือ ... เมื่อโอกาสทองมาถึง นอร์ทมาซิโดเนีย ก็รอดพ้นทุกครั้งไป โดยเฉพาะจังหวะพลาดของ สโตเล่ ดิมิตรีเยฟสกี้ ผู้รักษาประตูที่จ่ายบอลเข้าเท้า โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ ทว่ากองหน้าจากซาสซูโอโล่ยิงเหมือนส่งคืนหลังให้นายด่านทีมเยือน
ตลอดทั้งเกมเราจะเห็นแต่เสื้อสีน้ำเงินที่ครองบอลกดดันใส่ฝ่ายสีแดงอย่างต่อเนื่อง ทีมเยือนทำได้เพียงลงไปกองกระจุกในแดนตนเองพร้อมมองหาโอกาสสวนกลับแบบจังเบอร์สักครั้ง
แม้ตลอด 90 นาทีแทบจะไม่มีโอกาสเล่นงาน จานลุยจิ ดอนนารุมม่า แต่ความมุ่งมั่นตั้งใจของ นอร์ทมาซิโดเนีย ยังคงไม่แปรเปลี่ยน พวกเขาเล่นแบบเดิมไปเรื่อยๆ จนในที่สุดโอกาสที่รอคอยก็มาถึง
มันคือการเล่นบอลยาวในช่วงท้ายเกมซึ่งจังหวะสองเป็นใจอย่างมากที่มาเข้าทาง อเล็กซานดาร์ ตรายคอฟสกี้ พลิกตัวกดด้วยขวาส่งบอลเสียบเสาไกลหมดจด
วินาทีนั้นแฟนบอลอัซซูรี่เงียบกริบทั้งสนาม มีเพียงนักเตะ ทีมงาน และแฟนบอล นอร์ทมาซิโดเนีย ที่ดีใจสุดเสียง บรรดาผู้เล่นและทีมงานในสนามวิ่งกรูเข้าไปกอดกันกลมเพราะมันคือช่วงเวลาที่พวกเขารอคอย
รับทั้งเกม ยอมโดนกระทำตลอด 90 นาที เป็นรอง อิตาลี ทุกอย่าง แต่พวกเขาไม่สนใจ เพราะสิ่งที่ต้องการได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญ
บรรยากาศแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง อิตาลี แทบทรุดตัวลงไปนอน เหตุการณ์ทุกๆ อย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนหลายคนไม่สามารถประมวลผลได้ทันท่วงที
สิ้นเสียงนกหวีด พร้อมชัยชนะของ นอร์ทมาซิโดเนีย ที่ถีบ อิตาลี หลุดวงโคจรฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายอีกครั้ง และมันคือฝันร้ายที่เกิดขึ้นซ้ำสองกับผองชนชาวอิตาเลียน
ความมึนงงสงสัย อาการเหม่อลอย หรือท่วงท่าที่ไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแสดงออกมาทางสีหน้าบรรดาผู้เล่นทีมชาติอิตาลีได้เป็นอย่างดี บางคนยังคงไม่เชื่อเลยว่าแชมป์ยูโรหนล่าสุดจะต้องมาหยุดเพียงรอบเพลย์ออฟ และอดไปรอบสุดท้ายเป็นหนที่ 2 ติดต่อกัน
แต่หากลองย้อนกลับไปดูผลงานตั้งแต่เถลิงเจ้ายุโรปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า อิตาลี ดิ่งลงอย่างชัดเจนโดยเฉพาะผลงานในรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก
พวกเขาขับเคี่ยวจ่าฝูงมากับ สวิตเซอร์แลนด์ อย่างสูสี โดยตอนนั้นเหลือเกมรอบแบ่งกลุ่มอีก 5 นัด ซึ่งสัญญาณไม่ดีส่งออกมาตั้งแต่ผลเสมอ บัลแกเรีย ในบ้าน 1-1 ช่วงต้นเดือนกันยายน
หลังจากนั้น อัซซูรี่ บุกเสมอ สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งแน่นอนหากมองว่าเป็นผลที่ไม่เสียหายอะไรมากมายก็ยังถือว่าโอเค เพราะให้หลังลูกทีมของ โรแบร์โต้ มันชีนี่ ถล่ม ลิทัวเนีย ได้ตามคาด
จุดชี้วัดการแย่งตั๋วรอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งแฟนบอลมองว่าทุกอย่างอยู่ในมือ อิตาลี เนื่องจากต้องเปิดบ้านรับมือ ขุนพลสวิส หากชนะเส้นทางไปยัง กาตาร์ 2022 เปิดกว้าง
กระนั้นทุกอย่างกลับกลายเป็นว่า อัซซูรี่ ทำได้เพียงเสมอแค่เสมอเท่านั้น ก่อนจะพุ่งชนความผิดพลาดซ้ำสองหลังจากไม่สามารถบุกคว่ำ ไอร์แลนด์เหนือ ลงได้ ส่งผลให้ สวิตเซอร์แลนด์ ที่ชนะ บัลแกเรีย 4-0 คว้าแชมป์กลุ่ม ซี ไปครอง
ไม่ต่างไปจากรอบเพลย์ออฟที่หลายคนมองข้ามไปล่วงหน้าแล้วว่าลูกทีม มันชีนี่ (อาจจะ) ต้องเข้าไปแย่งตั๋วรอบสุดท้ายกับ โปรตุเกส อย่างแน่นอน แต่ในเกมฟุตบอลไม่มีอะไรแน่นอน ซึ่งทาง นอร์ทมาซิโดเนีย แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงคำพูดดังกล่าว
หลายคนอาจจะมองข้าม นอร์ทมาซิโดเนีย ว่าเป็นเพียงบันไดหรือสะพานให้ อิตาลี ฝึกซ้อมก่อนเจอศึกใหญ่กับ โปรตุเกส แต่เป็นอีกครั้งที่บรรดาเซียนทั้งหลายต้องหน้าแหก
มันคือความล้มเหลวของ อิตาลี ตรงกันข้ามกับ นอร์ทมาซิโดเนีย ที่พลิกสถานการณ์เข้าไปชิงตั๋วรอบสุดท้ายทั้งที่เกมเป็นรอง
หากมองในมุม บลาโกย่า มิเลฟสกี้ เทรนเนอร์นอร์ทมาซิโดเนีย ชัยชนะนัดที่ผ่านมาเกิดขึ้นจากแผนการที่เขาได้เตรียมไว้ ชนิดที่ต้องบอกว่าหนามยอกเอาหนามบ่ง
"พวกเราเอาชนะอิตาลีด้วยวิธีการของอิตาลี ได้ประตูจากโอกาสการยิงแค่สองครั้ง ผมมีความสุขกับชัยชนะเกมนี้อย่างมาก ผมภูมิใจกับเด็กๆ เหล่านี้
"ผมมีความสุขกับประตูของ ตรายคอฟสกี้ อย่างมาก รูปเกมถูกเตรียมให้เล่นออกมาในทิศทางนั้น พวกเรารู้ว่า อิตาลี เป็นทีมที่ยอดเยี่ยมพร้อมกับคว้าแชมป์มาได้อย่างมากมาย แต่พวกเราเล่นแบบที่ควรจะเล่น พวกรารู้จุดแข็งของตนเอง ก่อนเกมผมบอกกับนักเตะไปว่าให้สนุกและพวกเราก็แค่ทำแบบนั้น"
ก็อย่างที่ มิเลฟสกี้ ว่าไปนั่นแหละ นอร์ทมาซิโดเนีย ไม่ได้คิดอะไรมากมาย แค่ลงไปตั้งรับ รับ แล้วก็รับแบบนั้น ใช้ความอดทน เล่นตามแผนการที่จัดวางไว้ บวกกับโชคเล็กน้อยเพื่อยัน อิตาลี ให้อยู่ ก่อนจะฉวยโอกาสที่มีเพียงน้อยนิดเอาไว้ได้
ทำเอา อัซซูรี่ ที่ถนัดเกมรับหรือถูกยกย่องว่าเป็นเจ้าตำรับการเล่นรับรอสวนกลับแทบไปไม่เป็น ก่อนจะมาโดนลงโทษแบบเจ็บแสบอย่างที่เห็น
ฝั่ง อิตาลี ยังคงอยู่ในภวังค์ของความไม่เข้าใจและยังไม่ตื่นจากฝันร้ายที่ตามมาหลอกหลอนอีกครั้ง ทั้งกุนซือและนักเตะต่างไร้คำพูดมาอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
เป็นใครก็คงอยู่ในอารมณ์ไม่เข้าใจถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น เพราะตลอดทั้งเกม อิตาลี ครองบอลเหนือกว่าชัดเจน มีโอกาสยิงมากกว่าเป็น 10 เท่า แต่สิ่งที่ขาดหายไปคือความเด็ดขาดและแน่นอน และสิ่งนั้นคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้พวกเขาต้องตกรอบ
ไม่ต้องไปโทษการเล่นของ นอร์ทมาซิโดเนีย หรือลูกยิงผีจับยัดของ ตรายคอฟสกี้ แต่มันคือความผิดพลาดและไร้ประสิทธิภาพของ อิตาลี ที่ทำให้พวกเขาต้องกระเด็นตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกอีกครั้ง
จากแชมป์ยูโร 2022 กลายมาเป็นทีมที่ต้องอดไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (อีกครั้ง) มันคือขวบปีที่สถานการณ์พลิกกลับไปมาหลายตลบ สำหรับแฟนบอลทีมอื่นๆ มันคือสีสันและเหตุการณที่น่าสนใจ แต่สำหรับ อิตาลี มันคือหายนะและความล้มเหลวของพวกเขา
เป็นอีกครั้งที่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจะไม่มี อิตาลี ไปร่วมโม่แข้ง แน่นอนว่าสีสันหรือความสนุกอาจจะลดลงไปพอสมควรเพราะขึ้นชื่อว่า อัซซูรี่ เมื่อถึงรอบสุดท้ายรายการใหญ่ พวกเขามักสร้างความสนุกสนานและเหตุการณ์สำคัญให้เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง
ถึงตรงนี้ก็คงทำได้เพียงยอมรับความจริง กลับไปทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นมาเดินหน้ากันใหม่ เพราะอย่างน้อยๆ พวกเขาก็ได้บทเรียนราคาแพง (อีกครั้ง) เพื่อที่จะยกตัวและก้าวไปข้างหน้า
อิตาลี คงไม่สามารถหลีกหนีฝันร้ายที่เกิดขึ้น ทำได้เพียงยอมรับเพื่อที่จะเริ่มต้นใหม่เหมือนที่ผ่านมา
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT