โควตา 1 ที่นั่ง
เป็นอีกซีซั่นที่การแข่งขันสนุกสนานทำให้แฟนบอลตื่นตาตื่นใจมาจนถึงตอนนี้ ไม่เพียงการลุ้นแชมป์ เพราะยังมีทั้งการไล่ล่าพื้นที่ แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือหนีตายท้ายตารางที่สูสีได้ลุ้นจนหยดสุดท้าย
แต่วันนี้จะขอโฟกัสไปที่ลีกรองฝรั่งเศสหรือ ลีก เดอซ์ ที่เพิ่งได้ทีมเลื่อนชั้นเป็นสโมสแรกอย่าง ตูลูส กลับคืน ลีก เอิง อีกครั้งหลังจากร่วงหล่นไปเมื่อฤดูกาล 2019–20
การเดินทางของสโมสรจากลุ่มแม่น้ำกาโรน 'เกือบ' จะได้โอกาสกลับคืนลีกสูงสุดแดนน้ำหอมตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว ทว่าต้องมาพ่าย น็องต์ ในรอบเพลย์ออฟแบบน่าเจ็บใจ และมันยิ่งเจ็บช้ำกว่าเดิมเพราะพวกเขาพลาดโอกาสจากกฎประตูทีมเยือน (นัดแรกแพ้คาบ้าน 1-2 ก่อนบุกชนะ 1-0 ในเกมต่อมา)
ความคับแค้นใจกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้ ตูลูส ซึ่งฤดูกาลนี้ได้ตัว ฟิลิปป์ มงตานิเย่ร์ เข้ามาทำหน้าที่กุนซือ เดินหน้าสร้างผลงานที่ดีตั้งแต่ต้นซีซั่น
เทรนเนอร์วัย 57 ปีเข้ามาปรับเปลี่ยน เลอ เตเฟเซ ให้เป็นทีมที่คงเส้นคงวามากขึ้น แม้มีบางช่วงหลุดฟอร์มแต่มันก็เป็นเพียงเวลาไม่นาน พวกเขากลับมาสู่เส้นทางได้ทันทีและนั่นคือกุญแแจสำคัญในการคว้า 'โควตา' เลื่อนชั้นกลับมาทีมแรก หลังจากเปืดบ้าน สอย นิออร์ 2-0 ในเกมล่าสุด
ถึงตรงนี้เหลืออีก 1 ที่นั่งสำหรับทีมที่จะได้เลื่อนชั้นอัตโนมัติ และการขับเคี่ยวแข่งขันสนุกสูสีและอาจจะพลิกไปมาได้ทุกเมื่อ เพราะมีถึง 4 ทีมที่กำลังไล่ล่าโควตาดังกล่าว
สถานการณ์ก่อนเกมนัดที่ 36 วันเสาร์นี้ อฌักซิโอ้ อีกหนึ่งสโมสรที่ห่างหายจากเวที ลีก เอิง ไปนานกำลังนำหน้าผู้ไล่ตามด้วยการมี 68 คะแนน
สโมสรจากเกาะคอร์ซิก้ามีคิวเปิดบ้านดวล เลอ อาฟร์ ในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่ง 3 คะแนนจะยิ่งช่วยให้พวกเขาได้เปรียบทีมตามมากขึ้น และยังทำให้ความมั่นใจมีมากกว่ากว่าเดินก่อนจะพบ เกอน็อบ (ย) และ ตูลูส (ห) ใน 2 นัดสุดท้าย
ทีมที่ตามหลังมาติดๆ คือ โอแซร์ อดีตทีมดังลีกน้ำหอมที่หล่นไปเล่น ลีก เดอซ์ 9 ฤดูกาลติดต่อกัน ซึ่งซีซั่นนี้เป็นโอกาสอันดีในการกลับไปลีกสูงสุด
ทีมดังจากแคว้นบูร์กอญ เก็บไป 65 คะแนนจาก 35 นัดที่ผ่านมา โดย 3 เกมตัดสินโควตาเลื่อนชั้นอัตโนมัติหลังจากนี้ต้องดวล เดิงแกร์ก (ห), เลอ อาฟร์ (ย) และ อาเมียงส์ (ห)
อันดับ 4 คือ โซโชซ์ (64 คะแนน) อีกหนึ่งสโมสรที่เคยโลดแล่นและทำผลงานบนเวทีลีก เอิง แต่ไม่สามารถกลับขึ้นไปได้อีกเลยตั้งแต่หล่นชั้นเมื่อซีซั่น 2013/14
ทีมตราสิงห์ทำผลงานแรงขึ้นมาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม คว้าชัย 5 จาก 6 เกมหลังสุดทำให้ยังคงมีลุ้นโควตาเลื่อนชั้นอัตโนมัติ
โปรแกรมการลงสนามหลังจากนี้ของลูกทีม โอมาร์ ดาฟ คือการดวลกับทีมครึ่งล่างของตารางทั้ง บาสเตีย (ห), วาล็องเซียนส์ (ย) และ ดิฌง (ห) ซึ่งหากมองแง่ดีถือว่างานไม่หนัก และหากทีมที่นำหน้าดันพลาดขึ้นมา โซโชซ์ ก็มีโอกาสพลิกสถานการณ์เช่นเดียวกัน
ทีมสุดท้ายที่กำลังไล่ล่าการเลื่อนชั้นไปเล่นบนเวที ลีก เอิง นั่นคือ ปารีส แอฟเซ สโมสรที่ถือว่ามีพัฒนาการที่ดีตั้งแต่เลื่อนมาเล่นใน ลีก เดอซ์ ฤดูกาลที่ผ่านมาได้สิทธิ์เพลย์ออฟ แต่ต้องตกรอบเพราะ เกรอน็อบ
มาซีซั่นนี้พวกเขายังคงทำได้ดีเกาะกลุ่มโซนเลื่อนชั้น แต่หากพิจารณาโดยรวมแล้วก็น่าเสียดายแทน เธียร์รี่ โลเรย์ และลูกทีมเพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่พวกเขาทำอันดับดีกว่านี้ แต่จากการที่ผลงานแกว่งไปมาส่งผลให้กลายมาเป็นผู้ตาม
โอกาสยังถือว่ามีอยู่แต่หากดูองค์ประกอบก็นับว่างานหนักไม่น้อยกับการไล่ตามอันดับ 2 ถึง 5 คะแนน นอกจากต้องเอาชนะ 3 นัดที่เหลือกับการดวล วาล็องเซียนส์ (ห), อาเมียงส์ (ย) และ เกรอน็อบ (ห) นอกจากนั้น เดอะ บลูส์ ต้องแช่งให้ทีมด้านบนพลาดท่าเป็นใจอีกด้วย
การแข่งขันกำลังใกล้ถึงเส้นชัยทุกขณะ แต่ละทีมหวังทำผลงานที่ดีที่สุดเพื่อคว้าโอกาสของตนเอง กับโควตาการเลื่อนชั้นอัตโนมัติที่เหลืออีกเพียง 1 ที่นั่ง โดยมี 4 ทีมกำลังพยายามยื้อแย่งให้มาเป็นของตน
3 เกมสุดท้ายพร้อมเกมการแข่งขันที่น่าจับตามอง แม้จะเป็นลีกรองที่หลายคนอาจจะไม่ให้ความสนใจ แต่สำหรับแฟนบอลแดนน้ำหอมถือเป็นการลุ้นที่น่าติดตามเพราะหลายทีมที่ห่างหายจากลีกสูงสุดไปนานกำลังทำตามฝันเพื่อให้แฟนบอลได้ชื่นใจ และทีมอย่าง ปารีส แอฟเซ ที่หวังพลิกสถานการณ์ให้มาอยู่ในมือตนเองก็น่าเชียร์ไม่น้อย
4 สโมสรแต่จะมีเพียง 1 เดียวที่ได้สิทธิ์ไปเล่น ลีก เอิง ในฤดูกาล 2022/23 แบบอัตโนมัติ
แม้อีก 3 ทีมที่อกหักยังคงมีลุ้นในรอบเพลย์ออฟ กระนั้นหากเลือกได้พวกเขาเหล่านั้นอยากเลื่อนชั้นทันทีเสียมากกว่า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT