เส้นทาง (นักฟุตบอล) ที่ยังไม่จบ
ย้อนกลับไปเมื่อมกราคม 2019 อดีตกองกลางทีมชาติสเปนย้ายมายัง สต๊าด หลุยส์ II ด้วยความคาดหวังว่าจะช่วยให้ทีมดีขึ้นจากสถานการณ์ตอนนั้น และแน่นอนทุกๆ อย่างผ่านไปด้วยดี
แต่ส่งหนึ่งที่ถือเป็นภัยคุกคามและเกิดขึ้นอย่างเงียบๆ คืออาการบาดเจ็บที่เล่นงานแข้งสเปนรายนี้ และหลังจากนั้นเส้นทางของเขากับโมนาโกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
แม้จะยังมีส่วนกับทีมชุดใหญ่ แต่ขวบปีหลังด้วยอาการที่เล่นงานต่อเนื่องส่งผลต่อสภาพร่างกาย ฟาเบรกาส อย่างชัดเจน เอาแค่สถิติลงสนามซีซั่นล่าสุดทำได้แค่ 6 เกมจากทุกรายการเท่านั้น
อาการบาดเจ็บในเกมกีฬาของคนอายุ 35 ปีถือเป็นเรื่องที่หนักหนา ทั้งในแง่ของสภาพร่างกายและการฟื้นฟูที่ช้ากว่าคนอายุน้อยๆ และนั่นเป็นสิ่งที่เล่นงาน ฟาเบรกาส ตลอด 2 ปีหลัง จนในที่สุดก็ต้องยอมแพ้
อย่างไรก็ตาม อดีตดาวเตะ อาร์เซน่อล และ บาร์เซโลน่า ยังคงวาดฝันพร้อมคาดหวังว่าจะลงเล่นบนสนามหญ้าต่อไป แม้เส้นทางในอนาคตอาจจะต้องย้ายไปยังทีมที่ลดระดับลงมา แต่มันคือความตั้งใจและปณิธานของนักเตะที่อยากจบพร้อมฉากที่สวยงาม
ส่วนหลังจากนั้น ฟาเบรกาส ไม่ปฏิเสธว่าตนเองพร้อมหันเหเข้าสู่วงการโค้ชเพื่อสานฝันและความปรารถนาที่กำลังปะทุคุกรุ่นอยู่ในตัว
ย้อนกลับไปถามถึงความรู้สึกตอนย้ายมาเมื่อเดือนมกราคมปี 2019 (ผ่านข้อเสนอของ เธียร์รี่ อองรี) แต่หลังจากนั้นไม่ถึงเดือนเทรนเนอร์ใหญ่ต้องลาทีมไป?
"ในตอนนั้น ผมเซ็นสัญญามาร่วมทีมด้วยจุดประสงค์เดียว เพื่อช่วยเหลือสโมสร ซึ่งตอนนั้นทีมรั้งที่ 19 มีแค่ 13 คะแนน ถือว่าผมเสี่ยงครั้งใหญ่เลยล่ะ เพราะมีโอกาสตกชั้น ผลงานในเกมแรก พวกเราเสมอ มาร์กเซย (1-1 ในเกมนัดที่ 20) จากนั้นผมทำประตูในเกมดวล ตูลูส (ชนะ 2-1 เกมที่ 23) ซึ่งเป็นชัยชนะนัดสำคัญต่อเกมที่เหลือของฤดูกาล พวกเราพอใจที่ช่วยเหลือทีมในการรักษาสถานะสโมสรบนลีกสูงสุดเอาไว้ได้ ผมภูมิใจกับผลงานที่ผมทำให้กับทีมตลอดช่วง 6 เดือนนั้น"
ปีต่อมาเป็นฤดูกาลที่ไม่ดีเท่าไหร่ ...
"ทีมเริ่มต้นได้แย่มาก (ชนะแค่เกมเดียวจาก 7 นัดแรก) รวมไปถึงตัวผมด้วย การมาของ โรเบิร์ต โมเรโน่ ในเดือนมกราคมทำให้มีความเป็นไปได้ว่าจะดีกว่าเดิม พวกเราทำได้ดี โดยเฉพาะเกมที่ ปารีส (เสมอ 3-3 ในนัดที่ 20) แต่ฤดูกาลต้องหยุดลงเพราะโควิด ระหว่างเกมที่พบ นีซ (แพ้ 1-2 เมื่อเดือนมีนาคม 2020) และเกมแรกของซีซั่นใหม่ที่เกมดวล แร็งส์ (เสมอ 2-2 เมื่อ 23 สิงหาคม) 6 เดือนผ่านไปพร้อมการเปลี่ยนตัวโค้ชอีกครั้ง หลังอาการบาดเจ็บช่วงพรีซีซั่น ผมลงเล่นอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องภายใต้ นิโก้ โควัช (กุนซือในตอนนั้น)"
หมายความว่าอย่างไร?
"ผมลงเล่นไปประมาณ 30 เกม (ในลีก เอิง 20 นัด และ เฟร้นช์ คัพ 5 นัด) เป็นตัวสำรองที่ถูกส่งลงสนามก็เยอะ ผมจำได้ถึงเกมกับ ปารีส, แบรสต์, ลีลล์ ที่ผมมีผลกระทบต่อเกมเป็นอย่างมาก การส่งผลต่อเกมแบบนี้คือสิ่งที่ผมคาดหวังไว้อยู่เสมอ พวกเราเคยขึ้นไปนำจ่าฝูง สำหรับผมช่วงเวลา 2 ปีครึ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีมากๆ ในอีกมุมหนึ่ง ช่วงพรีซีซั่นผ่านพ้นไปพร้อมเรื่องแย่ๆ ถือว่าแย่ที่สุดในอาชีพของผม ผมไม่เคยพบเจอประสบการณ์อะไรแบบนั้นเลยจนผ่านมาถึงตอนนั้น"
คุณมีส่วนสำคัญในห้องแต่งตัว โมนาโก หรือไม่?
"ตอนที่ผมมาที่นี่ เธียร์รี่ อองรี และ วาดิม วาซิลเยฟ ร้องขอให้ผมช่วยเหลือพัฒนาบรรดานักเตะหนุ่มอายุน้อย นั่นคือจุดที่สำคัญ วันนี้ ผมมีความรู้สึกว่าผมได้รับความเคารพและเห็นใจจากเด็กๆ รุ่นนี้ ผมหวังว่าตนเองจะได้รับการช่วยเหลือ พวกเราชอบพอกัน (ยิ้ม) ผมจะติดตามพวกเขาต่อไป คุยกับพวกเขาต่อไปเช่นกัน"
แม้แต่การได้เป็นโค้ชของพวกเขาด้วย?
"ผมได้บอกพวกเขาไปแล้ว พวกเขาทราบเรื่องนี้ (หัวเราะ) แต่ก่อนอื่นเลย ผมยังคงต้องการลงเล่นต่อไป ผมไม่อยากให้เรื่องจบลงแบบนี้ จบแบบนี้ทำให้มันเป็นปีที่แย่มากๆ ผมต้องการสนุก จบพร้อมกับความรู้สึกที่ดี ผมได้รับการติดต่อมากมาย ยังไม่ได้ตัดสินใจ ผมกำลังรับฟัง ผมเปิดรับทุกๆ อย่าง บางทีระดับสโมสรต่อไปอาจจะลดลงมา แต่ก็ยังมีทีมในระดับที่ต่ำลงมาได้ลงเล่นใน แชมเปี้ยนส์ ลีก สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ ผมจะไปยังสโมสรที่ผมได้ลงเล่น ไปยังที่ที่พวกเขาเชื่อในตัวผม"
คุณจะลงเล่นไปอีกนานแค่ไหน?
"ผมไม่ทราบ เวลาจะให้คำตอบเอง หลังจากนั้น ผมกำลังคิดถึงการเข้าไปสู่การทำหน้าที่โค้ชให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ผมลุ่มหลงกับอาชีพนี้มากๆ ผมต้องการเรียนรู้มากกว่านี้ขึ้นไปอีก เพื่อเป็นการเตรียมตัวที่ดี ผมจะทำการทดสอบคุณสมบัติที่สเปน อันเดรส อีเนียสต้า ได้หารือกับผมไปแล้วถึงความเป็นไปได้ในการเข้าอบรมหลักสูตรพร้อมกัน"
พร้อมกับความต้องการนำ ดีเอ็นเอ ของ บาร์เซโลน่า มาสู่ชีวิต?
"ผมมีปรัชญาในเกมการเล่นของตนเอง รูปแบบของทีมขึ้นอยู่กับคุณภาพและบุคลิกเฉพาะของนักเตะเสมอ คุณไม่สามารถหมกมุ่นกับรูปการเล่นของตัวเอง มิฉะนั้นคุณจะไม่ชนะ"
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT