เปลี่ยน 'บอสซ์'
ถือเป็นสถานการณ์กลับตาลปัตรแบบที่แฟนบอลลียงไม่คาดคิด เพราะช่วงต้นซีซั่นผลงานของทีมยังออกมาดูดีมีความหวัง แต่หลังจากแพ้ ลอริยองต์ 1-3 ในเกมตกค้าง นั่นคือจุดเริ่มต้นของหายนะ
ผลงานที่ดิ่งเหวคือสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนจาก 5 นัดที่ผ่านมา แต่หากมองลึกลงไปในบรรยากาศและความเป็นไปในรั้ว กรูปาม่า สเตเดียม ยิ่งทำให้หลายคนโดยเฉพาะสาวก โอแอล ได้แต่ส่ายศีรษะ
บรรยากาศอันมาคุที่รายล้อมสโมสร ผลงานอันย่ำแย่นำมาซึ่งแรงกดดันจากทั้งภายในและภายนอก ที่สำคัญคือเกิดคำถามขึ้นภายในใจนักเตะที่พุ่งตรงไปยัง ปีเตอร์ บอสซ์
ปัจจัยอย่างหลังคงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สื่อแดนน้ำหอมพากันตีข่าวว่าอนาคตของ บอสซ์ กับ ลียง มาถึงทางตันและกำลังจะแยกทางในเร็วๆ นี้ (ขณะปั่นต้นฉบับเวลา 21.00 น. ยังไม่มีแถลงการณ์ยืนยันจากลียง)
เมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นบรรยากาศอันตึงเครียด เทรนเนอร์พยายามกดดันนักเตะจนเกินไป บรรดาผู้เล่นไม่เข้าใจหรือเข้าถึงความต้องการของกุนซือ หลายๆ สิ่งผสมปนเปจนทำให้ทุกอย่างอึมครึมดูไม่สดใสเอาเสียเลย
อย่างที่ เลกิ๊ป ลงสกู๊ปไปเมื่อช่วงดึกวันเสาร์ (ต่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น) ว่าช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาบรรดานักเตะ ลียง เริ่มหมดความเชื่อใจ บอสซ์ และฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นหลังจบเกมล่าสุดที่เสมอ ตูลูส 1-1
แต่ดูเหมือนสโมสรจะรุดหน้าไปก่อนแล้ว เพราะสื่อดังแดนน้ำหอมระบุ ฌอง-มิเชล โอลาส และ แว็งซ็องต์ ปงโซต์ ได้หารือเป็นการภายในพร้อมติดต่อไปหาเทรนเนอร์ที่ชื่อว่า โลร็องต์ บล็องก์ ตั้งแต่เกมพ่าย ล็องส์ 0-1 เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านั้น
สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นนำมาซึ่งการตัดสินใจครั้งสำคัญ ตอนนี้มีเพียงสัญญาณจากสื่อที่เชื่อกันว่าอนาคตของ บอสซ์ กับ ลียง จบลงไปแล้ว เหลือแค่รอแถลงการณ์อย่างเป็นการเท่านั้นเพื่อยืนยันสถานะที่ชัดเจน
จะว่าไปแล้ว เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ บอสซ์ และ ลียง เป็นสิ่งเกินความคาดหมายหากพิจารณาจากฟอร์มช่วงต้นซีซั่น ใครจะคิดว่าจากสถิติชนะ 4 เสมอ 1 ใน 5 เกมแรกจะกลับกลายมาเป็นผลงานอันเลวร้ายเช่นนี้
แน่นอนว่าการเจอกับช่วงเวลาเลวร้ายเกิดขึ้นได้เสมอในเกมฟุตบอลปัจจุบัน แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือสภาพจิตใจของทีม นอกจากนี้บรรยากาศระหว่างนักเตะและตัวกุนซือที่มีแต่จะแย่ลงไปทำให้ทุกๆ อย่างเลวร้ายยิ่งขึ้น
อย่างที่ เลกิ๊ป รายงานว่าปัญหาสำคัญคือความเชื่อใจของนักเตะที่มีให้กับ บอสซ์ หมดลงไปแล้ว หลายคนสงสัยวิธีการทำงาน หลายคนไม่เข้าใจแท็กติก และหลายคนปฏิเสธที่จะทำตามเพราะมองว่าเป็นวิธีการที่พึ่งพานักเตะจนเกินไป
เมื่อทุกอย่างรวมกัน ทางออกที่ดีที่สุดคงหนีไม่พ้นการตัดสินเปลี่ยนแปลงผู้นำ และดูเหมือนว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นสิ่งที่บอร์ดบริหารต้องการเช่นเดียวกัน
ชื่อของ โลร็องต์ บล็องก์ จึงมาแรงแซงโค้งและคาดว่าสโมสรจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในอีกไม่กี่วันต่อจากนี้
เลกิ๊ป (เจ้าเดิม) เผยว่า โอแอล จะเร่งดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งหากไม่มีอะไรผิดพลาดอดีตกองหลังทีมชาติฝรั่งเศสจะตกลงเซ็นสัญญาถึงกลางปี 2024 พร้อมออปชั่นอีกหนึ่งซีซั่น
นับเป็นก้าวที่แฟนบอล ลียง กำลังจับตามองอย่างใกล้ชิด และนอกเหนือจาก บล็องก์ ที่จะเข้ามารับงานเป็นกุนซือใหญ่ ทีมงานของเขายังเป็นบุคลากรที่รู้จักฟุตบอลแดนน้ำหอมอย่างดีทั้ง ฟร้องก์ ปาสซี่ และ ฟิลิปป์ ล็อมแบร์ต ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของอดีตกุนซือบอร์กโดซ์
การเข้ามาของกุนซือคนที่ 8 หลังจากหมดยุคเรืองรองของ ลียง เป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย ซึ่งภารกิจสำคัญของ 'ว่าที่' กุนซือใหม่หาใช่การพาทีมคว้าแชมป์ในเร็ววันแต่มันคือการชุบชีวิต โอแอล ให้กลับมาเข้ารูปเข้ารอยพร้อมสร้างการเล่นที่ดูมั่นคงเป็นรูปเป็นร่างกว่าที่ผ่านมา
ณ ตอนนี้คงต้องรอความชัดเจนจากทางสโมสรเท่านั้นว่าจะเป็นไปตามที่สื่อคาดหมายหรือไม่
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT