ความหวัง ความฝัน และฟุตบอลโลก
เป็นเรื่องที่สาวก เลส์ เบอลส์ ต้องให้ความสนใจและแสดงความกังวลอยู่แล้ว เพราะอย่าลืมว่าทั้งคู่เป็นแกนหลักในทีม ดีดีเย่ร์ เดส์ช็องส์ แถมยังทำผลงานได้ดีเสมอยามลงเล่นให้ทีมชาติ
การขาดหายไปของ ก็องเต้ ส่งผลแน่นอนแบบไม่ต้องสงสัย ไหนจะสภาพร่างกาย ป็อกบา ที่ยังต้องประเมินอย่างใกล้ชิดว่าท้ายที่สุดแข้งวัย 29 ปีจะมีชื่อเดินทางไป กาตาร์ ร่วมกับ ตราไก่ หรือไม่ ยังเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องติดตาม
เรื่องราวที่กิดขึ้นส่งผลให้ 'เดเด้' ปวดเศียรเวียนเกล้าไม่น้อย แต่ในช่วงเวลาเหล่านี้มักจะพร้อมกับการปรากฏตัวของนักเตะรายใหม่ที่ได้โอกาสพิสูจน์ผลงาน
หนึ่งในนั้นคือ ยุสซูฟ โฟฟาน่า มิดฟิลด์วัย 23 ปีจากสโมสรโมนาโกที่ได้โอกาสประเดิมทีมชาติฝรั่งเศสไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา
ผลงานโดยรวมของ โฟฟาน่า ได้รับคำชมในทิศทางที่ดี นั่นคือสัญญาณบวกที่ทางนักเตะคาดหวังว่าจะสานต่อฟอร์มการเล่นในนามสโมรเพื่อให้โอกาสติดทีมตราไก่ไปเตะรอบสุดท้ายที่ กาตาร์ มีสูงขึ้น
มันคือความฝันของนักฟุตบอลทุกคนที่ครั้งหนึ่งอยากมีส่วนร่วมในมหกรรมลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งไม่ต่างจาก โฟฟาน่า ที่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน
เพราะหากย้อนกลับไปยังเส้นทางของหนุ่มวัย 23 ปี เขาต้องเจอกับเรื่องราวมากมายกว่าจะมีโอกาสประเดิมทีมชาติชุดใหญ่นัดแรกในสีเสื้อ เลส์ เบลอส์
10 มกราคม ปี 1999 คือวันที่ โฟฟาน่า ลืมตาดูโลกและเติบโตมาพร้อมกับความรักในเกมลูกหนัง พยายามไต่ระดับหรือควานหาโอกาสให้ตนเอง แต่ชีวิตของเขาไม่ต่างจากเด็กเมืองกรุงที่ต้องออกเดินทางตามฝันในต่างเมือง
ในวัย 13 ปี โฟฟาน่า ต้องเดินออกจากศูนย์ฝึก แกลร์กฟงเตน ที่ตัดสินใจปล่อยตัวกองกลางรายนี้ออกมา หลังจากนั้นการเดินทางได้เริ่มต้นทั้ง เรด สตาร์ และ ดร็องซี่ ก่อนที่จุดหมายสำคัญจะเกิดขึ้น ณ สโมสร สตราส์บูร์ก เมื่อปี 2017
ที่นั่นถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเด็กหนุ่มวัย 18 ปีเพราะหลังจากผ่านไปแค่ปีเดียว โฟฟาน่า มีโอกาสประเดิมชุดใหญ่ของสโมสร ซึ่งกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นในเวทีอาชีพของตนเอง
ระยะเวลาปีครึ่งที่เขาคว้าโอกาสพร้อมสร้างผลงานให้กับ สตราส์บูร์ก ฟอร์มการเล่นไปเข้าตา โมนาโก อย่างจัง ส่งผลให้ถูกดึงตัวไปเมื่อเดือนมกราคม 2020 ซึ่งตอนนั้น โฟฟาน่า ถูกคว้าไปพร้อมกับ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ ของ บอร์กโดซ์
อย่างที่ทราบกันดี คู่หู 'โฟฟา-ชูอา' ผนึกกำลังสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมให้กับ โมนาโก ซึ่งทาง โฟฟาน่า เปรียบเสมือนคนที่ปิดทองหลังพระและทำให้ ชูอาเมนี่ โดดเด่นจนได้โอกาสย้ายไป เรอัล มาดริด
แต่สำหรับ โฟฟาน่า มันคือการรอจังหวะและโอกาสอย่างช้าๆ จนในที่สุด ดีดีเย่ร์ เดส์ช็องส์ ตัดสินใจเรียกตัวไปใช้งานในทีมชาติหนแรกเมื่อเดือนที่แล้ว
"ตอนที่ผมรู้ว่าตนเองถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติ ผมพูดกับตัวเองว่า '10 ปีต่อมาฉันเดินผ่านประตูด้านหน้าของ แกลร์กฟงเตน หลังจากต้องอำลาที่นั่นผ่านทางประตูด้านหลัง' " โฟฟาน่า กล่าว
"นั่นเป็นเรื่องที่ดีมาก ตอนที่โค้ชพบกับผม พวกเขามีความสุข พวกเขาบอกกับผมด้วยว่า 'ขอบคุณที่นายพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเราคิดผิด'"
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าผลงานของ โฟฟาน่า เปรียบเสมือนคนแบกเปียโนที่คอยช่วยงานในเงา พยายามผลักดันทีมจากจุดที่คนอื่นๆ อาจจะไม่สนหรือใส่ใจ แต่หากพิจารณาในส่วนตัวเลขต้องยอมรับว่าการมีอยู่ของดาวเตะวัย 23 ปีมีประโยชน์และส่งผลต่อ โมนาโก อย่างมาก
ทั้งจำนวนลงสนามที่มากกว่ากองกลางรายอื่นๆ (ในซีซั่นนี้) ไหนจะค่าเฉลี่ยเอาชนะการปะทะตกเกมละ 3 ครั้งในเวที ลีก เอิง (ฤดูกาลที่แล้ว) นอกจากนั้นยังมีผ่านบอลที่ทำระยะได้ดีถึง 6 ครั้งต่อเกมเป็นตัวพิสูจน์ผลงานของนักเตะ
ที่สำคัญคือการเล่นที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามหน้าที่หรือคำสั่งกุนซือ แม้ตำแหน่งถนัดจะเป็นกองกลางแบบ 'บ๊อกซ์ ทู บ๊อกซ์' แต่ โฟฟาน่า พร้อมปรับเปลี่ยนเป็นนักเตะหมายเลข 6 เพื่อปักหลักเพื่อกำหนดทิศทางเกมและชะลอฝ่ายตรงข้ามตามคำสั่งเทรนเนอร์
การทำงานที่เปิดรับและการเล่นที่พร้อมพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ ยุสซูฟ โฟฟาน่า เดินทางมาถึงจุดนี้ จุดที่เขาวาดฝันว่าจะได้โอกาสครั้งสำคัญของอาชีพ ซึ่งมันคือผลตอบแทนจากการทำงานหนักตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ถึงตรงนี้ยังไม่มีใครทราบรายชื่อนักเตะทีมชาติฝรั่งเศสซึ่งจะเดินทางไปเล่นรอบสุดท้ายที่ประเทศกาตาร์ (ตามรายงานเผยว่า เดส์ช็องส์ จะประกาศรายชื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้)
แต่สำหรับ โฟฟาน่า มันคือการรักษาผลงานและลงไปทำหน้าที่ในแบบที่เขาทำมาตลอด เพิ่มเติมคือการพัฒนาผลงานพร้อมแสดงคุณค่าที่มากกว่าเดิมยิ่งขึ้นไป
โดยหวังว่าผลจากความพยายามและการทำงานหนักจะทำให้เขามีชื่อเป็นหนึ่งใน 26 ขุนพลของทีมชาติฝรั่งเศสอย่างที่วาดหวังไว้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT