กัปตัน 'บั๊ปเป้'
จะว่าไปแล้วหลายคนยังคงไม่ลืมบรรยากาศ เวิลด์ คัพ 2022 เมื่อปลายปีที่แล้ว แม้จะผ่านมา 3 เดือนเศษ แต่ภาพแห่งความทรงจำยังคงตราตรึงเพราะเป็นนัดชิงชนะเลิศสุดมันและมีเหตุการณ์อันมากมายในเกมดังกล่าว
แต่ทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อไปและตอนนี้เป็นภารกิจของทีมแถบยุโรปจะหันหน้าไปเน้นในเวที ยูโร 2024 รอบคัดเลือกที่จะเปิดฉากเกมแรกคืนนี้
ที่น่าสนใจคือชาติยักษ์ใหญ่ถูกจับมาอยู่กลุ่มเดียวกัน อาทิ เนเธอร์แลนด์ ต้องดวล ฝรั่งเศส หรือ อิตาลี ที่อยู่ร่วมสาย อังกฤษ
แม้โควตาเข้ารอบในแต่ละกลุ่มคือ 2 ทีมอันดับแรก แต่อย่าลืมว่าตัวแปรหรือปัจจัยจากทีมอื่นๆ ในสายอาจจะทำให้งานของบรรดายักษ์ใหญ่หนักหนาสาหัสกว่าที่คาดไว้ ซึ่งทุกอย่างอยู่ที่พวกเขาว่าจะสามารถรักษามาตรฐานและทำได้อย่างที่ทุกคนคาดหวังได้หรือไม่
หลังจากนี้เส้นทางรอบคัดเลือกจะยิ่งน่าสนใจเพราะทุกเกมล้วนแล้วแต่มีความสำคัญที่จะกำหนดชะตาของแต่ละทีม โดยเฉพาะเมื่อเกมดำเนินไปเรื่อยๆ ทุกอย่างจะกลายเป็นรูปเป็นร่างที่ชัดเจนขึ้น และหลังจากนี้มันจะเป็นตัวกำหนดเส้นทางของแต่ละทีม
สิ่งอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจก่อนลงสนามคือการเปลี่ยนแปลงของหลายทีมทั้งในส่วนกุนซือเพราะหลายชาติเปลี่ยนตัวผู้นำหลังจบฟุตบอลโลก หรือกรณีทีมชาติฝรั่งเศสที่บรรดาแกนหลักหลายคนอำลาทีมไปแล้ว
จุดที่น่าสนใจของ ตราไก่ คือเลือดใหม่ที่จะเข้ามาแทนกำลังหลักก่อนหน้านี้ รวมถึง 'กัปตันทีม' ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ต่อจาก อูโก้ โยริส
อย่างที่ทราบไปแล้วว่า ดีดีเย่ร์ เดส์ช็องส์ เตรียมมอบปลอกแขนผู้นำทีมให้ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ซึ่งกองหน้าวัย 24 ปีจะเดินนำคนอื่นๆ ลงปะทะ เนเธอร์แลนด์ คืนวันศุกร์นี้ ที่ สต๊าด เดอ ฟร้องซ์
กระแสข่าวของ เอ็มบั๊ปเป้ ในฐานะ 'กัปตันทีม' คนใหม่ดังขึ้นมาก่อนหน้านี้พอสมควร โดยบรรดาสื่อแดนน้ำหอมเปิดประเด็นและไล่สอบถามความเห็นซึ่งส่วนใหญ่ยกมือเห็นด้วยว่ากองหน้าจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง สมควรรับไม้ต่อจาก โยริส
แม้อายุเพิ่ง 24 ปี แต่อย่าลืมว่าหมอนี่เป็นนักเตะอาชีพมาแล้วถึง 7 ปี ประสบการณ์ก็หาใช่น้อยๆ ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ (ติดทีมไปแล้ว 66 นัด) ที่สำคัญคือลงเล่นรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกมาสองหนติดต่อกัน
แน่นอนว่า เอ็มบั๊ปเป้ หาใช่นักเตะนอนมาที่จะได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งนี้ เพราะสื่อฝรั่งเศสเปิดประเด็นใหม่สอดแทรกโดยระบุ อองตวน กรีซมันน์ ก็สมควรได้รับการพิจารณาเช่นกัน
กรณีดังกล่าวทำให้สื่อพยายามจี้ถาม 'เดเด้' เกี่ยวกับความพึงพอใจของ กรีซมันน์ เพราะในส่วนนี้เหมือนว่าแข้งวัย 32 โดนรุ่นน้องข้ามหัว
"เขา (กรีซมันน์) รู้ดีว่าตนเองมีโอกาสในส่วนนั้น (การเป็นกัปตันทีม)" เดส์ช็องส์ กล่าว
"ผมได้คุยกับเขาไปแล้ว แต่ถึงแม้ตำแหน่งจะตกเป็นของ คีลียัน มันก็ไม่ได้ลดคุณค่าในตัวของ อองตวน ออกไปแต่อย่างใด เขามีบางสิ่งที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาเช่นกัน เขาเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมเสมอ ผมเชื่อมั่นในตัวเขาอยู่ตลอดไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงก่อนหน้านี้ก็ตาม
"สำหรับ อองตวน กับสิ่งที่เขาทำให้ทีมในสนาม เขาเป็นนักเตะคนสำคัญในแง่ของการเป็นตัวขับเคลื่อนและพลังให้ทีม เขาเป็นแบบนั้นและจะยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไปในอนาคต"
อันที่จริงสื่อแดนน้ำหอมก็แปลกๆ ก่อนหน้านั้นเพิ่งเชียร์ให้เอ็มบั๊ปเป้เป็นกัปตันทีม และพอมีการยืนยันอย่างที่ต้องการ พวกเขาก็ดันไปเปิดประเด็นใหม่พยายามหาทางสร้างความบาดหมางให้นักเตะในทีมเสียเอง
จะว่าแปลกก็แปลก จะว่าว่างก็ว่าง แน่นอนหน้าที่สื่อคือการหาประเด็นมานำเสนอ แต่กรณีของ เอ็มบั๊ปเป้ กับ กรีซมันน์ มีแต่จะสร้างภาพจำที่ไม่ดีออกมา แน่นอนว่าไม่ใครรู้เบื้องหลังแท้จริงแต่กรณีนี้ควรเป็นเรื่องที่พูดถึงในอนาคตหลังจากเห็นการทำหน้าที่ของกองหน้าวัย 24 ปีไปแล้วมากกว่า และอย่าลืมว่าทีมกำลังจะเปิดสนามรอบคัดเลือกเจองานหนักรับมืออัศวินสีส้ม จึงแปลกที่ดันมาเล่นประเด็นละเอียดอ่อนในช่วงเวลาแบบนี้
เหมือนเป็นการโยนความกดดันไปให้ทีมชาติฝรั่งเศส หากพวกเขาชนะก็ถือว่าเสมอตัวไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หากเกิดกรณีแพ้ขึ้นมาเชื่อว่าสื่อแดนน้ำหอมพร้อมสับตราไก่อย่างละเอียดและจ้องไปที่ประเด็น 'เอ็มบั๊ปเป้' แบบไม่ต้องสงสัย
มันคือสิ่งที่ ตราไก่ เผชิญหน้ามาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สื่อท้องถิ่นไม่ว่าเจ้าเล็กเจ้าใหญ่พยายามหาประเด็นแง่ลบมาโจมตีหรือสอบถามนักเตะและกุนซือตลอดเวลา ยิ่งไปกว่านั้นคือพวกเขาพร้อมกระทืบซ้ำเมื่อทีมผิดพลาด
ประเด็นที่ว่ามันขายได้ดีกว่าการเขียนอวยหรือยกย่อง เพราะสามารถเรียกแขกหรือคนเข้ามาแสดงความเห็นได้มากกว่าเป็นไหนๆ
ถึงตรงนี้ผลงานในสนามเท่านั้นที่จะทำให้สื่อลืมรื่อง 'กัปตันทีม' และการผูกโยงความไม่พอใจของ กรีซมันน์ ที่พลาดตำแหน่งดังกล่าวให้ซาลงไปได้สักระยะ แต่หากออกมาน่าผิดหวังเชื่อว่าหลังจากนั้นบรรดาสื่อพร้อมละเลงออกมาแบบไม่ขาดสาย
ฝั่งนักเตะทั้ง เอ็มบั๊ปเป้ หรือ กรีซมันน์ คงไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เพราะทุกคนทราบดีว่าหน้าที่สำคัญคืออะไร และต้องมองไปยังเป้าหมายใดเป็นอันดับแรก หากมาวอกแวกหรือแสดงความไม่พอใจก็หาใช่มืออาชีพที่ต้องให้ความสำคัญและทำเพื่อทีมเป็นอันดับแรก
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมาถึงช่วงเริ่มต้นยุคใหม่ภายใต้ผู้นำทีม เอ็มบั๊ปเป้ ซึ่งหลายคนโดยเฉพาะนักเตะปัจจุบันมองว่าแข้งวัย 24 ปีจะเป็นตัวเชื่อมระหว่างแข้งหนุ่มและอาวุโสให้หลอมหลวมเป็นหนึ่ง นอกจากนั้นกองหน้าเปแอสเชยังเป็นคนที่เข้ากับผู้เล่นรายอื่นๆ ได้ดี แถมได้รับการยอมรับจากทุกคน
ทั้งปัจจัยฝีเท้าที่ได้รับการยอมรับหรือแม้แต่ประสบการณ์ที่สั่งสมมาตลอด 7 ปีในฐานะนักเตะอาชีพ ทุกอย่างที่กล่าวมาจึงทำให้ 'เดเด้' มอบความไว้วางใจแก่ เอ็มบั๊ปเป้ และตอนนี้คือการทำหน้าที่ที่ได้รับมอบมาให้ดีที่สุด
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT