ฟ้าผ่ากลาง 'ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์'

เท่ากับว่าสัญญาปัจจุบันระหว่างหัวหอกทีมชาติฝรั่งเศสกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง จะหมดลงกลางปีหน้า ซึ่งเรื่องดังกล่าวทำเอาเบื้องบนเปแอสเชอยู่ไม่ติด

คงเป็นเช่นนั้นเพราะก่อนหน้านี้หลายฝ่ายในทีมงานโดยเฉพาะเจ้าของสโมสรและท่านประธาน นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ มั่นใจว่า เอ็มบั๊ปเป้ จะอยู่กับทีมอย่างน้อยไปจนถึงกลางปี 2025 แต่เมื่อมีข่าวนักเตะแจ้งไปยังสโมสรถึงการไม่ใช้เงื่อนไขทำให้สถานการณ์วุ่นวายคล้ายฟ้าผ่าลงกลาง ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์

สำคัญไปกว่านั้นคือดูเหมือนเกิดขึ้นเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมหรือเป็นใจสำหรับ เปแอสเช เอาเสียเลย และเหมือนกับว่าสโมสรไม่คาดคิดจะยินหรือรับแจ้งเรื่องดังกล่าวจากฝั่ง เอ็มบั๊ปเป้

หากอิงจากรายงานจากฝรั่งเศสหรือในยุโรป ฟากฝั่ง เปแอสเช 'อึ้งกิมกี่' กับสิ่งที่ได้รับและแทบจะมองหาทางแก้ไขไม่ได้เลย ทำให้ทางเลือก ณ ตอนนี้ถูกบีบไปหานักเตะว่าจะต่อสัญญาออกไปหรือย้ายทีมในหน้าร้อนนี้ทันที

กรณีแรกดูแทบจะเป็นไปไม่ได้เพราะนักเตะแจ้งไปยังสโมสรเองบทจะมาเปลี่ยนใจทีหลังก็ดูกระไรอยู่ 

ส่วนกรณีหลังก็ยังติดปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะ เปแอสเช ที่จะไม่ยอมเสียเหลี่ยมหรือตกเป็นเบี้ยล่างในการเจรจา ซึ่งทางแชมป์ ลีก เอิง มีเกณฑ์ของตนเองสำหรับราคาที่เหมาะสม (ส่วนทีมอื่นๆ ทราบสถานการณ์ดีและคงไม่รีบร้อน พร้อมรอจนกว่าจะถึงช่วงเวลาเหมาะสม)

ณ ตอนนี้จึงอยู่ที่การเจรจาของทั้งสองฝ่าย แต่ดูเหมือนเรื่องราวต่างๆ จะมาคุกว่าเดิมเพราะสื่อแดนน้ำหอมรายงานว่าเจ้าของสโมสรตราหน้า เอ็มบั๊ปเป้ เป็น 'ไอ้เนรคุณ' หรือ 'ไอ้น่ารังเกียจ' ไปเสียแล้ว

ฝั่ง นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ไม่ต่างกันเพราะดูตกใจกับท่าทีรวมถึงพฤติกรรมของ เอ็มบั๊ปเป้ ที่ออกมา 'พยศ' อีกครั้งในหน้าร้อนนี้

เรื่องดังกล่าวจึงมาพร้อมกับรายงานมากมายทั้ง เรอัล มาดริด ที่กลับมาจับตาสถานการณ์อีกครั้ง หรือแม้แต่ทีมในอังกฤษที่ถูกโยงเข้าหากองหน้าวัย 24 ปี

 นับว่าน่าสนใจกับการผูกโยงเรื่องราวต่างๆ แม้จะเป็นเพียงรายงานจากสื่อ โดยเฉพาะกรณี แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ถูกมองว่าหากการซื้อขายสโมสรผ่านพ้นไปด้วยดี และถูกเปลี่ยนมือเป็นกลุ่มทุนจากกาตาร์ ก็มีโอกาสที่ เอ็มบั๊ปเป้ จะกลายเป็นอสูรแดงตนใหม่

สิ่งที่กล่าวมาเป็นเพียงการคาดหมายของสื่อ ซึ่งมีทั้งความเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ ยิ่งมันเกิดขึ้นในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะกำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทาง ก็ต้องยิ่งใช้วิจารณญาณพิจารณาในการเสพข่าว

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญกว่าคือการจัดการภายในของ เปแอสเช ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้เช่นไร โดยสื่อฝรั่งเศสมองว่าความชัดเจนคงเกิดขึ้นหลังจบโปรแกรมทีมชาติ และรอให้เจ้าของสโมสรกับบอร์ดบริหารหารือให้แล้วเสร็จเสียก่อน

ทำให้โอกาสยังคง 50-50 มีทั้งย้ายและไม่ย้าย หรืออาจจะออกมาในมุมอื่นๆ หากว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ต้องการเล่นเกมหรือดัดหลัง เอ็มบั๊ปเป้ ซึ่งอันท้ายต้องเกิดขึ้นพร้อมความกล้าที่จะแบกรับความเสี่ยงหลายๆ อย่าง

หลังจากนี้จึงน่าสนใจเกี่ยวกับอนาคต เอ็มบั๊ปเป้ ที่กลายมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง รวมถึงการจัดการของ เปแอสเช ที่สื่อหลายรายมองว่าหมดความอดทนกับหอกวัย 24 ปีแล้ว

ก่อนหน้านี้ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ยอม เอ็มบั๊ปเป้ หลายอยางทั้งทุ่มเงินในการรั้งตั้วให้อยู่กับทีมต่อไป รวมไปถึให้มีอำนาจในงการตัดสินใจต่างๆ แถมยังพยายามสร้างทีมโดยมีกองหน้ารายนี้เป็นจุดศูนย์กลาง

แต่ความอดทนหรือขอบเขตย่อมมีขีดจำกัด บวกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ เปแอสเช มองว่า เอ็มบั๊ปเป้ ล้ำเส้นที่สโมสรพอยอมรับได้จนเกินไป นอกจากนั้นดูเหมือนนักเตะจะไม่ให้เกียรติสโมสรเลยแม้แต่น้อย

แม้นักเตะจะออกมาปฏิเสธ แต่เหมือนกับว่าสถานการณ์ต่างๆ ไม่ได้ถูกทำให้ผ่อนคลาย รังแต่เพิ่มความตึงเครียดมากขึ้นกว่าเดิม บรรยากาศต่างๆ จึงอึมครึมและพร้อมระเบิดออกมาได้ทุกเวลา

บทสรุปหรือจุดจบระหว่าง เปแอสเช กับ เอ็มบั๊ปเป้ จะออกมาทิศทางใด เวลาเท่านั้นที่จะให้คำตอบในเรื่องนี้