วิถีเปแอสเช
กลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญสำหรับสาวก เลส์ ปารีเซียงส์ ที่เจอการเปลี่ยนกุนซือแทบทุกปี (มีบางรายอยู่นานหน่อยถือว่าโชคดี) โดยทุกอย่างถูกโยงไปยังผลงานบนเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก เสียส่วนใหญ่
ตัวอย่าง คริสโตฟ กัลติเย่ร์ ที่เพิ่งตกงาน แม้ว่าพาทีมได้แชมป์ ลีก เอิง แต่ผลงานในเวทียุโรปล้มเหลวไม่เป็นท่าจนในที่สุดเพิ่งโดนปลดอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ว่าไปแล้วกรณีของ กัลติเย่ร์ พอเข้าใจได้เพราะผลงานช่วงครึ่งซีซั่นหลังเป๋ไม่เป็นท่าดีที่ผู้ตามในลีก เอิง พลาดท่ากันเองเช่นกันทำให้ เปแอสเช เข้าป้ายในช่วงโค้งสุดท้ายแบบหืดขึ้นคอ
แถมบรรยากาศในทีมดูไม่สู้ดี นักเตะหลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยทั้งในตัวเทรนเนอร์และท่าทีสโมสร ร้อนถึงบอร์ดบริหารต้องเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
อย่างที่ทราบไปแล้วว่าคนที่เข้ามารับเผือกร้อนรายล่าสุดคือ หลุยส์ เอ็นรีเก้ เทรนเนอร์มือดีชาวสเปนที่จะต้องแบกรับความกดดันและคาดหวังจากทั้งสโมสรรวมถึงแฟนบอล
เป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลยเพราะปัจจัยต่างๆ กำลังมาคุโดยเฉพาะสถานการณ์ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่ไม่ทราบเลยว่าจะอยู่หรือไม่ นอกจากนั้นฟากฝั่ง เอ็นรีเก้ ก็แทบไม่มีเวลาในการพักหายใจต้องเร่งทำความคุ้นเคยลูกทีมใหม่พร้อมส่งต่อแนวคิดให้ทุกๆ คนปฏิบัติตามทันที
นั่นคืองานหลักและเป้าหมายแรกที่เทรนเนอร์วัย 53 ปีต้องเร่งลงมือทำในช่วงพรีซีซั่น เพราะเมื่อถึงเวลาฤดูกาล 2023/24 เริ่มต้นอย่างเป็นทางการทุกอย่างต้องมาพร้อมผลงานที่เป็นรูปธรรมในทิศทางบวก
เวลาหนึ่งเดือนเศษต่อจากนี้จึงเป็นความท้าทายแรกที่ เอ็นรีเก้ ต้องแสดงออกมาให้เห็นผ่านผลงานในสนาม
"ผมรักแรงกดดันที่มาพร้อมกับงานของตนเอง มีหลายสิบทีมที่ใฝ่ฝันจะได้แชมป์ในรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุด บางทีมก็มีประสบการณ์มากกว่าทีมอื่นๆ แต่พวกเราต้องทะเยอทะยานและมีความต้องการทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด"
เป็นคำกล่าวบางช่วงบางตอนของการแถลงข่าวเปิดตัวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีคำถามต่างๆ มากมายจากสื่อถูกโยนไปยังกุนซือชาวสเปน ซึ่งทุกการขยับตัวหลังจากนี้ล้วนแล้วแต่น่าสนใจ โดยเฉพาะแนวทางและการเสริมทีมที่ทุกฝ่ายกำลังจับตามองเป็นพิเศษ
กรณีนักเตะใหม่นั้น สื่อยุโรปรายงานตรงกันว่าเหลือแค่รอเวลาเปิดตัว 6 ว่าที่เล่นซึ่งได้ตกลงเรื่องย้ายทีมลุล่วงตั้งแต่เดือนก่อนทั้ง มิลาน ชกรีนยาร์, มาร์โก อาเซนซีโอ, มานูเอล อูการ์เต้, อี คัง-อิน, แชร์ เอ็นดูร์ หรือแม้แต่ ลูกัส แอร์กน็องเดซ ที่ เปแอสเช พยายามหาข้อสรุปสุดท้ายกับ บาเยิร์น มิวนิค
ถือเป็นกำลังเสริมที่น่าสนใจในยุคใหม่ภายใต้ หลุยส์ เอ็นรีเก้ แต่ที่สำคัญคือการจัดการเรื่องาภายในทีมโดยเพาะกรณี เอ็มบั๊ปเป้ ที่ยังลูกผีลูกคน
เรื่องนั้นอยู่ในหน้าที่รับผิดชอบของ นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธานสโมสร และ หลุยส์ คัมโปส ที่ปรึกษาด้านกีฬา ส่วน เอ็นรีเก้ มีงานของตนเองที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกนั่นคือการหลอมหลวมทีมให้เป็นไปตามทิศทางที่ต้องการ
"อัตลักษณ์การเล่นฟุตบอลเกมรุกไม่ใช่สิ่งที่ซื้อหามาได้ ปรัชญาของผมคือการเดินเกมไปข้างหน้า คุณต้องปรับตัวไปยังนักเตะที่มี และดึงสิ่งที่ดีที่สุดออกมา" เทรนเนอร์ชาวสเปนกล่าว
"เป้าหมายของผมคือการเล่นฟุตบอลเกมรุกซึ่งต้องให้ความสำคัญกับทีมก่อนเสมอ พวกเรากำลังจะมีทีมที่ยอดเยี่ยม พวกเราต้องการให้แฟนๆ มีความภาคภูมิใจ พวกเราจะทำงานเพื่อสร้างทีมที่ยอดเยี่ยมร่วมกัน
"ผมรู้ว่ามันไม่ง่าย แต่พวกเราต้องสร้างการประสานงานและการทำงานร่วมกัน"
ยุคใหม่ของ เปแอสเช ภายใต้ หลุยส์ เอ็นรีเก้ น่าสนใจว่าจะดำเนินไปในทิศทางใด
สิ่งเหล่านี้จะได้คำตอบที่ชัดเจนเมื่อฤดูกาล 2023/24 เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ และทุกอย่างจะถูกตัดสินพร้อมประเมินผ่านผลงานในสนาม
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT