ประสบการณ์ใหม่ของ 'จอช คิง'

แฟนบอลพรีเมียร์ลีกรู้จักกันดี โดยเฉพาสาวก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เป็นทั้งอดีตลูกหม้อและ 'ไอ้แสบ' ในเวลาเดียวกัน

แต่ตอนนี้กองหน้าวัย 32 ปีเริ่มต้นการผจญภัยของตนเองกับเวที ลีก เอิง ฝรั่งเศส แม้จะเป็นหน้าใหม่ของลีกแดนน้ำหอม แต่เขาปรับตัวได้อย่างรวดเร็วจนกลายมาเป็นกำลังหลักในเวลาไม่นาน

คุณทำได้ 3 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ ในช่วง 4 เกมที่ผ่านมา (สถิติก่อนดวล เปแอสเช) ดูเหมือนคุณปรับตัวได้แล้ว

"เมื่อคุณย้ายมาอยู่ทีมใหม่ โดยเฉพาะในช่วงท้ายตลาดซื้อขาย คุณก็ต้องการเวลาในการปรับตัว มันเป็นเรื่องปกติและผมพูดแบบนั้นก่อนทำประตูแรกได้ไม่กี่วัน ผมรู้สึกดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งเรื่องของเกมการเล่นและสภาพร่างกาย เข้าใจวิธีการเล่นของเพื่อนร่วมทีมได้ดีกว่าเดิม และพวกเขาก็เข้าใจผมมากขึ้น ทุก ๆ อย่างกำลังไปได้ดี แต่เราต้องไม่หยุดแค่ตรงนั้น ต้องทำงานกันต่อไปเพื่อสร้างสิ่งเหล่านี้ให้เป็นไปแบบอัตโนมัติ"

แล้วการปรับตัวให้เข้ากับเมืองตูลูสเป็นอย่างไรบ้าง?

"ที่นี่ ทุก ๆ อย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น มันอาจจะเป็นเมืองที่ผมปรับตัวได้ง่ายที่สุดตั้งแต่เล่นฟุตบอลอาชีพมา ผมได้คุยกับ มุสซ่า ซิสโซโก้ (อดีตเพื่อนร่วมทีมที่ วัตฟอร์ด) ก่อนเซ็นสัญญากับที่นี่ เขาแนะนำให้ผมย้ายมา เขายังบอกด้วยว่าเมืองนี้ยอดเยี่ยม บรรยากาศผ่อนคลายและครอบครัวผมจะชอบที่นี่ เขาไม่ได้โกหกผม"

ความท้าทายด้านใดที่คุณต้องก้าวข้ามตั้งแต่ย้ายมาที่นี่?

"เรียนตามตรง ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องยากลำบากแบบเจาะจง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทุก ๆ คนพูดภาษษอังกฤษ ความท้าทายเดียวคือทำให้แน่ใจว่าต้องปรับสภาพร่างกายอยู่ในจุดที่ดีที่สุดอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตอนนี้ผมสามารถลงเล่นเต็มเกมได้แล้ว ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นกับผมมานานจนผมจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นตอนไหน มันอาจจะเป็นหนึ่งปีหรือหนึ่งปีครึ่งก่อนหน้านั้น นั่นเป็นสิ่งเดียวที่สำคัญสำหรับผม ทำให้สภาพร่างกายกลับมาอยู่ในจุดี่ดีที่สุด"

คุณใช้เวลาในอาชีพส่วนใหญ่ที่อังกฤษ แล้วสำหรับ ลีก เอิง อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้คุณประหลาดใจมากที่สุด

"ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรเป็นพิเศษ ผมรู้จักลีก เอิง อยู่แล้ว และรู้ว่าเป็นลีกที่เน้นพละกำลังทางร่างกาย และมีความเร็วในเกมที่สูงมาก มันแตกต่างจากรูปแบบที่ผมรู้จักในตุรกีและพรีเมียร์ลีก มันเป็นลีกที่รับมือยากแต่ผมไม่ได้แปลกใจอะไรเลย"

ในทีมตูลูส มีหลายอย่างแตกต่างจากทีมชาติ และมีนักเตะหนุ่มมากมาย ระหว่างเส้นทาวอาชีพของคุณ คุณเคยทำหน้าที่เป็นพี่ใหญ่มาบ้างหรือไม่?

"ก็มีบ้างเล็กน้อยตอนเล่นให้นอร์เวย์ เพราะมีนักเตะหลาย ๆ คนที่อายุยังน้อย แต่ถึงผมจะอายุ 32 ปี ในหัวของผมก็ยังคิดว่าตนเองอายุ 27 หรือ 28 ปี ผมพยายามช่วยนักเตะอายุน้อยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ผมไม่อยากไปยุ่งกับนักเตะที่ไม่ต้องการความช่วยเหลือ หากมีเพื่อนร่วมทีมหรือคนจากสโมสรอยากได้คำแนะนำ ผมก็พร้อมช่วยเหลือ เป็นเรื่องจริงที่ว่าผมเป็นหนึ่งในคนที่มีประสบการณ์มากที่สุดในทีมรวมภึง จีบริล ซีดีเบ้ แต่ผมไม่ค่อยพูดอะไรเยอะเท่าไหร่ในห้องแต่งตัว มันไม่ใช่นิสัยของผม ผมชอบพูดในสนาม โดยเฉพาะเป็นคนกระตุ้นให้ทีมเพรสซิ่งและช่วยทีมป้องกัน เพราะพวกเราในฐานะแนวรุกคือด่านแรกของเกมป้องกัน มันขึ้นอยู่กับพวกเราในการวางแนวทางกรเล่นที่เหลือ"

แล้วมีนักเตะคนหนเข้ามาหาคุณบ้าง

"มี วาร์เรน คามานซี่, ยานน์ โบโอ, อารอน เดินนุม เข้ามาพูดกับผม แต่ผมก็พูดกับทุก ๆ คนนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็น วินเซนต์ เซียร์โร่ ที่มีประสบการณ์มากมาย หรือ อูมิต อักดัก แม้ว่า (ฝ่ายหลัง) จะเป็นแนวรับก็ตาม แต่ผมไม่ได้พูดคุยกับเด็ก ๆ เหล่านี้เหมือนกับว่าตนเองเป็นโค้ช หากพวกเขาอยากได้คำแนะนำก็ได้เลย แต่ถ้าไม่อยากได้ก็ไม่เป็นไร"