5 เหตุผลที่ เยอรมัน จะป้องกันแชมป์โลก!
ฟุตบอลคือเกมกีฬาที่เล่นเพื่อเป้าหมายในการคว้าชัย และการเป็นที่ 1 ในการเสริมสร้างเกียรติยศให้กับทีมและตนเอง
โดยเฉพาะศึก ฟุตบอลโลก ที่วนเวียนมา 4 ปีครั้ง ยิ่งเป็นรายการที่นักฟุตบอลทุกคนอยากลงเล่นสักครั้งในชีวิต
นอกเหนือไปจากนั้น ทุกคนมีความฝันที่จะได้ชูถ้วยอันทรงเกียรติที่เปรียบเสมือนเกียรติยศอันสูงสุดของการเป็นนักฟุตบอล
บางทีมได้ไปแล้วหลายสมัย แต่นั่นก็ยังไม่พอกับสิ่งที่พวกเขาต้องการ เพราะการเป็นมืออาชีพทำให้ 'ดีเอ็นเอ' ของการแข่งขันและชิงชัยเป็นที่ 1 อยู่ในสายเลือดของพวกเขา
สิ่งเหล่านี้ไม่ต่างไปจาก เยอรมัน แชมป์เก่าเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา และเจ้าของแชมป์โลก 4 สมัย ที่หวังจะทำให้ได้อีกครั้งในปีนี้
เอาล่ะ อย่าเสียเวลา ... มาดู 5 เหตุผลที่ว่าทำไม เยอรมัน จะป้องกันแชมป์โลกได้อีกครั้ง ซึ่งมาจากการวิเคราะห์ของ บุนเดสลีกา กันได้เลย ...
1. ประสบการณ์
นักเตะอินทรีเหล็กชุดนี้ 9 ราย (ที่ถูกเรียกมาในขั้นต้น) เคยมีประสบการณ์ชูถ้วยฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา (มานูเอล นอยเออร์, มัทธีอัส กินเทอร์, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, เยโรม บัวเต็ง, ซามี เคดิร่า, เมซุต เออซิล, โทนี่ โครส, ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ และ โธมัส มุลเลอร์) และนั่นคือจุดที่สำคัญ
หลายคนอาจจะมองว่านักเตะเหล่านี้อาจจะไร้ความกระหาย แต่ไม่เลยทุกคนต้องการที่จะครองตำแหน่งแชมป์โลกอีกครั้ง บวกกับหน้าใหม่ที่ต้องการเดินตามรอยรุ่นพี่
นอกจากนี้ โยอาคิม เลิฟ ถือเป็นไม้เด็ดเพราะเขามีประสบการณ์กับทีมชาติเยอรมันมายาวนานและรู้ทุกจุดของทีมที่เขาสร้างขึ้นมา ซึ่งการผสมผสานของสองสิ่งที่ว่าจะทำให้ อินทรีเหล็ก ทีมนี้แข็งแกร่งกว่า 4 ปีที่ผ่านมา
2. คุณภาพเชิงลึก
เมื่อมาวิเคราะห์ถึงนักเตะในทีม ต้องบอกเลยว่า เยอรมัน มีนักเตะระดับโลกและมีฝีเท้าที่ทัดเทียมกันมากมายหลายคน
มันทำให้ โยอาคิม เลิฟ มีทางเลือกอย่างมากมายในการคัดสรรนักเตะที่ดีที่สุดในการพาเดินทางไปยัง รัสเซีย
ทำไมเราถึงเห็นนักเตะฝีเท้าดีอย่าง มาริโอ เกิทเซ่, อันเดร เชือร์เล่, เบเนดิค เฮอเวเดส และ เอ็มเร่ ชาน หลุดออกจากทีมไปโดยที่แฟนบอลต่างไม่รู้สึกเสียดาย นั่นเป็นเพราะพวกเขามีนักเตะที่สามารถทดแทนแบบลงตัว
นักเตะชุดนี้มีการเสริมเพิ่มเข้าด้วยนักเตะที่กำลังมีผลงานยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น โจชัว คิมมิค, มาร์-อันเดร แทร์ ชเตเก้น, ทิโม แวร์เนอร์ และ เลรอย ซาเน่ ที่พร้อมก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักของทีม ซึ่งต้องบอกว่า 'คุณภาพเชิงลึก' ของ อินทรีเหล็ก ไม่ธรรมดาจริงๆ
3. ทักษะของนักเตะ
แม้จะไม่ได้เหมือนบรรดานักเตะในอดีตอย่าง โรนัลโด้ ของ บราซิล, ดีเอโก้ มาราโดน่า ของ อาร์เจนติน่า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เยอรมัน เป็นหนึ่งในทีมที่อุดมไปด้วยนักเตะฝีเท้ายอดโดยเฉพาะในแนวรุก
แดนกลางถือเป็นจุดเด่นเช่นกัน โทนี่ โครส และ ซามี เคดิร่า คือหัวใจหลัก ขยับขึ้นไปในแนวรุกมีทั้ง เมซุต เออซิล, มาร์โค รอยส์, ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์, เลรอย ซาเน่, ทิโม แวรน์เนอร์, ยูเลี่ยน บรันด์ท, เลออน โกเร็ตซ์ก้า และ โธมัส มุลเลอร์
นักเตะเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีทักษะชั้นยอด ซึ่งสิ่งที่สำคัญคือพวกเขาเล่นร่วมกันได้อย่างลงตัวอีกด้วย
4. เจ้าแห่งการยิงจุดโทษ และ ดีเอ็นเอของผู้ชนะ
จุดแข็งอีก 1 อย่างของ เยอรมัน ที่มีมาทุกยุคทุกสมัยคือหัวจิตหัวใจอันห้าวหาญยามดวลจุดโทษ
นักเตะอินทรีเหล็กถูกสอนมาให้มีจิตใจที่แข็งแกร่งและสามารถรับมือกับแรงกดดันที่ถาโถมมายังพวกเขาได้เป็นอย่างดี
สิ่งเหล่านี้ยืนยันด้วยตัวมันเอง เพราะมันถูกแสดงออกมาจากผลงานที่ผ่านมาในอดีต ซึ่งพวกเขาไม่เคยแพ้การดวลจุดโทษในรายการสำคัญมาตั้งแต่ปี 1976 นู่นเลย (ไม่เหมือนอังกฤษที่แพ้การดวลเป้า 6 ครั้งติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 1990)
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือส่งต่อถึง 'ดีเอ็นเอ' แห่งความสำเร็จ ทั้ง ฟุตบอลโลก และ ศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) เราจะเห็นได้ว่า เยอรมัน สามารถผ่านเข้ารอบลึกๆได้อยู่เป็นประจำ
นี่คือการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น และนักเตะทุกคนมักจะมีพลังแฝงยามที่ได้สวมเสื้อทีมชาติของพวกเขา
5. โธมัส มุลเลอร์
นักเตะรายนี้ถูกโฉลกกับฟุตบอลโลก เพราะ 2 ครั้งที่ผ่านมาไอ้หมอนี่ทำไปได้ถึง 10 ประตู (2010 และ 2014 อย่างละ 5 ลูก)
นอกจากนี้สถิติการทำประตูของ มุลเลอร์ ก็ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก 38 ประตูจาก 90 เกม โดยจำนวน 31 ลูกที่เกิดขึ้นมาจากการลงแข่งขันรายการอย่างเป็นทางการ (ไม่รวมเกมกระชับมิตร)
สถิติที่ว่าแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ มุลเลอร์ กับทีมอินทรีเหล็กของ โยกี้ เลิฟ
นอกจากนั้น แฟนบอลก็คงทราบดีว่ายามที่เด็กหนุ่มวัย 28 ปีรายนี้ลงเล่นให้อินทรีเหล็ก น้อยครั้งมากที่เขาจะทำผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ...
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT