ชนะ3นัดแรกแล้วได้อะไร?
ฤดูกาล 1993-94
ผลงาน 3 นัดแรก
'หงส์แดง' เปิดตัวต่อหน้าแฟนบอลที่สนาม แอนฟิลด์ ในฤดูกาลแรกที่ฟุตบอลระดับสูงสุด อังกฤษ เปลี่ยนมาใช้ชื่อ พรีเมียร์ลีก - พวกเขาส่ง ไนเจล คลัฟ ผู้เล่นค่าตัวแพงสุดช่วงซัมเมอร์ที่ซื้อจาก ฟอเรสต์ มูลค่า 2.75 ล้าน ปอนด์ ลงสนามใต้เครื่องแบบเบอร์#7
ซึ่งก็ไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวนาน คลัฟ คนลูกเหมากดเบิ้ลในเกมชนะ เชฟฯ เว้นส์เดย์ 2-0, จากนั้น คลัฟ ก็โป้งตาข่ายอีกเกมอัด คิวพีอาร์ 3-1ส่วนนัดถัดไปที่ถล่ม สวินดอน 5-0 ดาวเด่นคือ สตีฟ แม็คมานามาน ทำคนเดียวสองสกอร์ มองไปทางไหนก็มีแต่เรื่องดีๆ
นี่เป็นหนที่ 4 ในยุคพรีเมียร์ลีกที่ ลิเวอร์พูล คว้า 9 คะแนนเต็มจากสามนัดแรก
เกิดอะไรขึ้นนัดที่ 4
คลัฟ ร้อนต่อเนื่องพังตาข่ายเบิกร่อง นัดเปิดบ้านพบ ท็อตแน่ม ตั้งแต่นาที 18 ทว่าเกมรับ 'หงส์แดง' มาพลาดเสียสองสกอร์ให้ เท็ดดี้ เชอริงแฮม จนเจ้าถิ่นตามหลังเมื่อจบครึ่งแรก 1-2 แล้วผลการแข่งขันเมื่อครบ 90 นาที ก็เหมือนเดิม
เหตุการณ์ลำดับถัดไป
จากนั้นก็นิยามว่าวุ่นวาย ขายปลาช่อน
มีแพ้ติดๆกันสี่นัด หรือภาพรวมสามารถเก็บชัย 9 จาก 24 แมตช์ ในลีกและฟุตบอลถ้วย ทั้งนี้มีความพ่ายแพ้แบบน่าอายต่อ บริสตอล ซิตี้ คารัง แอนฟิลด์ รายการ เอฟเอ คัพ รอบสาม ช่วงมกราคม 1994 กระทั่ง ผจก.ทีม แกรม ซูเนสส์ รับผิดชอบด้วยการลาออก
อีแวนส์ (กลาง) เข้ามารับงานต่อจาก ซูเนสส์
เผือกร้อนหล่นเข้ามือ รอย อีแวนส์ ทว่าสัญญาณชีพจรทีม ลิเวอร์พูล ปั๊มไม่ฟื้น แพ้ถึง 9 จาก 16 นัดสุดท้ายพรีเมียร์ลีก จบอันดับแปดารางเมื่อจบฤดูกาล - เป็นอันดับทีมแย่สุดตลอดกาลร่วมยุคพรีเมียร์ลีก
ฤดูกาล 1994-95
ผลงาน 3 นัดแรก
ตลาดซื้อ-ขาย ซัมเมอร์ที่คึกคัก ออกแนวสายเปย์ดึงผู้เล่นอย่าง ฟิล บ้าบบ์, จอห์น สเกลส์ และ มาร์ก เคนเนดี้ รวมกันถึง 8.6 ล้าน ปอนด์ มากสุดประวัติศาสตร์ต่อหนึ่งตลาด
ยิ่งเมื่อขุมกำลังหน้าใหม่ผนวกกับกลุ่มผลผลิตอะคาเดมี่อย่าง แม็คมานามาน หรือ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ก็จุดไฟความหวังแชมป์ลีกให้ตำบล เมอร์ซี่ย์ไซด์
ฟาวเลอร์ (ซ้าย) กับ รัช (ขวา) เพชรฆาตต่างวัยทีม ลิเวอร์พูล กลางทศวรรษ '90
เปิดหัวสุดหรูไล่ถล่ม คริสตัล พาเลซ ถึงมหานครลอนดอน 6-1 กลุ่มเลือดใหม่ทั้ง 'แม็คก้า' หรือ ร็อบบี้ สลับหน้ายิงกับรุ่นใหญ่ แยน โมลบี้ และ เอียน รัช
จากนั้น ฟาวเลอร์ ก็สร้างผลงานแฮตทริกว่องไวระหว่างนาที 26-31 สิริรวมพังตาข่ายสามหนด้วยเวลาสี่นาที 33 วินาที ต้อนตือ อาร์เซน่อล 3-0
เรคคอร์ดทำแฮตทริกด้วยเวลา 273 วินาที ของดาวยิงเลือดผู้ดี อยู่ยั้งตั้งแต่ปี 1994 ยาวนานเกินสองทศวรรษ กระทั่งมาโดน ซาดิโอ มาเน่ สมัยค้าแข้งกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ทุบลงเมื่อ พฤษภาคม 2015 ( 2 นาที 56 วินาที)
กลับมาที่ ฟาวเลอร์ ในนัดสามฤดูกาล 1994-95 เขาก็มีชื่อบนบอร์ด แมตช์เชือดนิ่ม 'นักบุญ' ณ สังเวียนเก่า เดอะ เดลล์
เกิดอะไรขึ้นนัดที่ 4
แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ ผจก.ทีม เวสต์แฮม ณ ขณะนั้นทำให้บรรยากาศ 'หงส์แดง' กร่อยเมื่อมาแบ่งแต้มจากผลเสมอ 0-0 ทั้งที่ต้องเล่นด้วยนักเตะ 10 คน กว่าสามสิบหานาทีเพราะ โทนี่ ค็อตตี้ ถูกไล่ออก
โดยในแมตช์นั้นนายด่าน 'ขุนค้อน' ลูเด็ก มิคลอสโก้ เซฟอุตลุด หยุดความห้าวลูกน้อง อีแวนส์ ให้กินไข่ทั้งที่ก่อนนั้นรัวคู่แข่งยับ 11 สกอร์
ปี 1995 จบฐานะแชมป์ลีก คัพ แต่ในลีกไม่ได้ลุ้นถึงนัดท้ายๆ
เหตุการณ์ลำดับถัดไป
เหมือนอาการเกร็งเข้าครอบงำ จนไม่สามารถทำให้ ลิเวอร์พูล เหยียบคันเร่งขึ้นอีก เมื่อเก็บชัยแค่ 6 จาก 16 เกมลีกต่อมา แพ้ทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตัน
สัญญาณชีพถูกกระตุกเมื่อพวกเขาชนะต่อเนื่อง 4 นัด ช่วงคริสต์มาสต่อเนื่องปีใหม่ ทว่าก็มาสะดุดขาตัวเองพ่ายคารังต่อ อิปสวิช, โคเวนทรี และ ลีดส์ จนยากเกินขึ้นเบียดแย่งแชมป์กับ แบล็คเบิร์น หรือ แมนฯ ยูไนเต็ด ช่วงปลายซีซั่น
บทสรุปคือทีมจบอันดับ 4 ตามหลัง 'กุหลาบไฟ' แชมป์ในปีนั้นพอสมควร
รางวัลปลอบใจของซีซั่นเห็นจะเป็นแชมป์ลีก คัพ ที่เอาชนะ โบลตัน 2-1 โดยมี สตีฟ แม็คมานามาน สวมบทฮีโร่เหมายิงเบิ้ล
ฤดูกาล 2013-14
ผลงาน 3 นัดแรก
จากเสียวๆว่าปีนี้ไม่น่ามีลุ้นเพราะ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าคนสำคัญต้องชดใช้โทษแบนจากปลายฤดูกาลก่อนเพราะไปกัด บรานิสลาฟ อิวาโนวิช นักเตะ เชลซี แต่ ผจก.ทีม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ก็ปลุกปั้นขุมกำลังกลมกล่อม รับเหนียว-รุกแค่พอชนะ โดยมี แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ แบกแดนหน้า
ดาวยิงขาแดนซ์ช่วย 'หงส์แดง' เฉือนชนะ สโต๊ค แบบกระเสือกกระสน 1-0 ด้วยสกอร์ตั้งแต่ 45 นาทีแรก
ดูโอ ซัวเรซ (ซ้าย) กับ สเตอร์ริดจ์ (ขวา) ที่ช่วยกันยิงเป็นกอบเป็นกำ
อีกคนที่ได้รับคำชมไม่แพ้กันคือนายด่าน ซิมง มโญเล่ต์ โดยคว้ามาจาก ซันเดอร์แลนด์ ค่าหัว 9 ล้าน ปอนด์ โชว์ซูเปอร์เซฟจุดโทษท้ายเกมของ จอน วอลเตอร์ส สร้างความตื่นตะลึงไม่ต่างจาก อาลิสซอน เบ็คเกอร์ ตอนนี้
ขณะที่เหยื่อรายต่อไปคือ แอสตัน วิลล่า กับ แมนฯ ยูไนเต็ด จนเด็กหงส์กระหยิ่มยิ้มย่อง
เกิดอะไรขึ้นนัดที่ 4
จอนโจ้ เชลวี่ย์ ศิษย์เก่าที่ถูก ลิเวอร์พูล ลอยแพไปให้ สวอนซี ตอนซัมเมอร์ทำแสบใส่ตั้งแต่ 2 นาที แรกของเกม ณ ลิเบอร์ตี้ สตเดี้ยม แม้ 'หงส์แดง' จะได้ สเตอริดจ์ ตีเสมอในเวลาไม่กี่อึดใจ รวมถึงประตูจากหน้าใหม่ วิคเตอร์ โมเซส แซงนำเมื่อผ่านครึ่งทาง ทว่าท้ายสุดเกมจบเจ๊า 2-2 ด้วยสกอร์ของ มีชู
เหตุการณ์ลำดับถัดไป
มีครบทุกรสชาติ
บิ๊กบอส เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ต้องพ่ายคารังต่อ เซาธ์แฮมป์ตัน ในนัดต่อมาด้วยสกอร์ 0-1 จากการพังตาข่ายของ เดยัน ลอฟเรน ซึ่งอนาคตถอดเครื่องแบบ 'นักบุญ' มาสู่ 'หงส์แดง'
เจอร์ราร์ด กับนัดที่อยากลืมสุดในอาชีพ
ความห่อเหี่ยวเรื่องตำแหน่งแชมป์ ถูกสูบลมไปใหม่เพราะความฉกาจของ หลุยส์ ซัวเรซ และพลานุภาพเกมบุก เมื่อช่วยทีมชนะ 14 จาก 16 เกมลีก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2014
สถานการณ์ขณะนั้น 'หงส์แดง' มีเปรียบ แมนฯ ซิตี้ คู่แข่งแย่งแชมป์ ขอเพียงสามนัดสุดท้ายเก็บ 7 จาก 9 คะแนน ก็จะปลดล็อคความสำเร็จที่รอคอยเสียที
ทว่าก็มีดราม่า! เกมที่ แอนฟิลด์ กัปตัน สตีเว่น เจอร์ราร์ด ลื่นล้ม เสียบอลให้ เดมบ้า บา กองหน้า เชลซี ลากบอลไปยิงตุงตาข่าย บอกลูกปิดกล่องนาทีทดเจ็บ 'หงส์แดง' พังคารัง 0-2 จนสถานการณ์เป็นรอง 'เรือใบสีฟ้า'
ว่ากันว่ามันไม่ใช่แค่ลื่นเสีย 3 แต้มเท่านั้น แต่คือสะดุมหัวทิ่มจนถ้วยหลุดมือ
อาฟเตอร์ช็อกตามมาเพราะได้แค่เจ๊า คริสตัล พาเลซ 3-3 โดยแม้สุดท้ายชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1 ทว่าทาง ซิตี้ ก็ไม่พลาดให้ บทสรุปคือพระรองทั้งที่พังตาข่ายกว่า 101 ลูก เก็บแต้มอีก 84 คะแนน
ฉะนั้นจงอย่าประมาทกับแมตช์เยือน คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม สุดสัปดาห์ที่จะถึง
จากคลีตชีตกว่า 270 นาที, ยิงประตูได้ตลอด บางทีอาจมีวันแย่ๆให้ได้พิสูจน์หัวจิตหัวใจ ทีมซึ่งหวังจะก้าวมาเขย่าบัลลังก์แชมป์ลีกของ ซิตี้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT