:::     :::

โกเมซ:คนติดแฟนสาวและข้าวกล่องฟรี

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เอียน เลดี้แมน ผู้สื่อข่าวสำนัก เดลี่ เมล บุกไปสัมภาษณ์ โจ โกเมซ ปราการคนหนุ่มของ ลิเวอร์พูล ที่ฤดูกาลนี้รักษาสภาพร่างกายแข็งแกร่งจนก้าวเป็นตัวหลัก มุมมองการใช้ชีวิตหลายประการน่าสนใจทีเดียว

บรรยากาศห้อแต่งตัวหลังแมตช์ที่ทีมชนะ มักเป็นมั่วโยงที่ผู้เล่นฝันถึง - แต่สำหรับสโมสร ลิเวอร์พูล เมื่อฤดูกาลก่อน หาได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป โดยเฉพาะเมื่อคุณเล่นตำแหน่งกองหลัง 

"ผมจำได้เลยวันนั้น แมนฯ ซิตี้ มาเยือนที่นี่" โจเมซ เริ่มเปิดปากถึงเหตุที่แอนฟิลด์ในวันนั้น "เรานำห่าง 4-1 ทว่าโดนรัวในเวลาห้านาทีไล่มาเหลือ 4-3"  

"มีช็อตหนึ่งจำได้เลยคู่แข่งโหม่งเข้าข้างหน้าต่าง ผมนี่ใจตกตาตุ่มถามตัวเองว่า - จะทำหน้าอย่างไงวะถ้าลูกนั้นมันกองก้นตาข่าย -" 

"อารมณ์มันคงเหมือนถูกปล้นความสุข ... ผมจึงตระหนักว่าความประมาทคือหนทางสู่หายนะจริงๆ" 


โกเมซ ร่างกายแกร่งจนยึดกองหลังตัวหลัก

นั่นคือนิยามทีมของ ผจก.ทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ ซีซั่น 2017-18 ยืนซดแลกหมัดกับคู่แข่งจนตายไปข้าง แต่มาปีนี้ ปรัชญาสโมสรขอชนะคู่แข่งแบบง่ายๆ มากกว่าถล่มกันแหลกลาญเหมือนแต้มกีฬาเทนนิส 

มองในมุมหนึ่งบอลมันส์แบบเดิมสะใจคอซาดิสม์ แต่มันก็มาพร้อมความเปราะบาง 

หากจำได้มีเกม 'หงส์แดง' ถูก เซบีย่า ไล่ตีเสมอ 3-3 เกม ยูฟ่า ชปล. ทั้งที่นำห่างถึงสามสกอร์ หรือในรอบรองชนะเลิศ ประตูรวมเกมพบ โรม่า เหมือนไทเบรกเทนนิส 7-6 ซึ่งความจริงไม่สมควรเหนื่อยขนาดนั้น เมื่อคุณได้ฉีกคู่แข่งในเลกแรกกระจุย 5 สกอร์!

"เราก็มีบางเกมที่หัวทิ่มเอง กระทั่งหารือกันใหม่ว่าจะพลาดแบบนั้นไม่ได้อีก โดยเฉพาะกับพรีเมียร์ลีก" โกเมซ กล่าวต่อ 

"แมตช์เยือน เซบีย่า อันที่จริงควรต้องปิดเกมให้ลงแต่ดันเสียการครองบอลกระทั่งมาโดนลงโทษ ผมต้องรำพึงกับตัวเอง - เกิดอะไรขึ้นฟะเนี่ย -" 

"ยามขึ้นนำคู่แข่งมากๆแล้วโดนไล่จี้มาจนเสียวหรือแย่ถึงตีเจ๊า เปรียเหมือนลื่นตกจากที่สูง บ่อยเข้าๆก็กลายเป็นอาการวิตกจริต เหมือนเราไม่สามารถควบคุมสถานการณ์อยู่ได้ซึ่งพออาการนอยด์ถามหา ไม่ช้าก็ต้องถูกโป้งอีก" 

"จุดอ่อนปีที่แล้วยังมีเรื่องป้องกันลูกตั้งเตะ หรือพอเสียการครองบอลเมื่อไหร่เตรียมงานเข้าได้เลย" 

"โดยเฉพาะเมื่อคู่แข่งเรียกเตะมุม ผมนี่ภาวนา - อย่าให้พวกเขาพังตาข่ายในจังหวะนี้เลย สาธุ - แต่ในเรื่องแย่ๆก็มองเห็นสิ่งดี เหมือนกระตุ้นการเรียนรู้แก่ตัวเอง แผงหลังทั้งหมดมีบทเรียนเพื่อนำไปพัฒนา" 


กองหลังหนุ่ม (ขวา) ให้สัมภาษณ์ เดลี่ เมล

การกล้าพูดถึงปัญหาพื้นฐานของทีม ไม่ใช่สิ่งที่หาง่ายจากความเห็นผู้เล่นอายุ 21 ปี คนอื่นๆ ทั้งนี้แข้งผู้ดีมองว่าทางเดินของ ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2018-19 ยังอีกไกล แต่ที่แน่ๆพวกเขาได้ก้าวสู่อีกขั้นของความเติบโตแล้ว 

โกเมซ ยังกล่าวถึงผลงานในลีกเมื่อสัปดาห์ก่อน เขาถูกส่งเล่นตำแหน่งแบ็กขวา ซึ่งก็ถูลู่ถูกังกว่าจะบุกคว้าชัย 1-0 จาก ฮัดเดอร์ฟิลด์ โดยมีเสียงชื่นชมเจ้าหนุ่มว่าเล่นได้นิ่งแม้ทีมต้องเสียการครองบอลจนเกือบเอาตัวไม่รอด

"กล้าพูดว่าซีซั่นนี้เราไม่ได้ถอนคันเร่งเกมบุก เพียงแค่ตระหนักได้ว่าบางครั้งจำเป็นต้องบริหารจัดการเพื่อคว้าผลลัพธ์ ซึ่ง ผจก.ทีม อยากการันตีมัน จึงต้องสุขุมกว่าเดิม" 

"ณ จุดนี้ทุกคนภูมิใจกับทรงเกม ขณะที่โค้ชก็ไม่ต้องเปลืองแรงตะโกนด่าสุดเสียงเมื่อเกมรับสะเปะสะปะอย่างเมื่อก่อนอีก"  

"ปัจจุบันเราเลิกมุทะลุ ไม่คิดว่าต้องกดคู่แข่งไส้ไหล 3-4 อีกแล้ว ขอเพียงช่วงท้ายเป็นฝ่ายครองบอล เลือกเล่นช็อตที่ดีกว่า ประคองเข้าป้าย นั่นคือเรื่องที่ทุกคนต้องการรักษาความสม่ำเสมอเพื่อลุ้นแชมป์ลีก" 


หงส์แดง 2018-19 เล่นเน้นผลไม่เน้นความมันส์

ย้อนไปยังประวัติของเขาบ้าง โกเมซ เป็นเด็กย่าน คาร์ตฟอร์ด ทางใต้กรุงลอนดอน เมื่อก่อนจับรถเมล์สาย 160 ไปสนามซ้อม อะคาเดมี่สโมสร ชาร์ลตัน แล้วต้องกลับดึกๆดื่นๆ แน่นอนต้องมีประสบการณ์เสี่ยงเกิดขึ้นมาเล่าสู่กันฟัง 

"เอาจริงๆย่านนั้นมันไม่ใช่ที่ปลอดภัยสักเท่าไหร่ บางทีก็ตกในสถานการณ์เสี่ยงเหมือนกัน" 

"มีนักล้วงพยายามขโมยโทรศัพท์มือถือ โชคดีว่าไม่ถึงขั้นเอามีดจี้ ใครที่เคยเจอคงขำไม่ออก" 

กองหลังหนุ่มบอกว่ารถเมล์สาย 75 จากบ้านไปโรงเรียนยังน้่ประทับใจกว่า เพราะมันคือสถานที่ซึ่งทำให้ได้พบรักกับแฟนสาว ทามาร่า

"ผมเป็นคนประเภทพูดน้อย ค่อนข้างเงียบด้วยซ้ำ ตอนแรกก็จีบผ่านแช็ตแบล็คเบอร์รี่ (โทรศัพท์ที่ฮิตเวลานั้น) ส่งข้อความหากัน โทรคุย รู้จักซึ่งกันและกันมากขึ้น" 


ทามาร่า (ซ้าย) กับ โกเมซ (ขวา) สาวผู้เป็นกำลังใจเคียงข้างเสมอ

ซึ่งก็เป็นแฟนสาวของเขานี่เองเชียร์ให้กองหลังหนุ่มตอบรับข้อเสนอย้ายจาก ชาร์ลตัน มาเล่นที่แอนฟิลด์ ในยุค ผจก.ทีม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส โดยเวลานั้นวัยวุฒิแค่ 18 ปี 

นับเป็นการเผชิญโลกจริงๆจังๆ เมื่อออกจากครอบครัวใหญ่ที่มี 3 พี่สาว-น้องสาว และอีกหนึ่งพี่ชาย มาอยู่ ณ อพาร์ตเมนต์ ย่าน เซฟตัน พาร์ค เมืองลิเวอร์พูล 

"ผมกับแฟนเก็บของใส่หลังรถ แล้วขับขึ้นมาที่นี่ เธออยู่ค้างด้วยในคืนแรก จากนั้นก็ต้องกลับไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงลอนดอน ขึ้นมาเยี่ยมที่เมอร์ซี่ย์ไซด์ทุกๆสุดสัปดาห์ ส่วนเวลาอื่นผมก็ต้องว้าเหว่คนเดียว

"กลายเป็นว่าต้องช่วยตัวเองทุกอย่าง ซึ่งไม่เคยทำมาก่อน เพราะทำกับข้าวไม่เป็น เต็มที่คือละลายพิซซ่าแช่แข็ง ดังนั้นเวลาไปซ้อมก็ต้องห่อข้าวกลับมาแล้วค่อยอุ่นกิน" 

"สตาฟฟ์สาวของ ลิเวอร์พูล ทั้ง แคโรล และ แคโรลีน ก็ใจดีกับผมมาก ช่วยแพ็คอาหารมาอย่างดี หน้าที่เราก็แค่หยิบเข้าไมโครเวฟ ก็พอกล้อมแกล้มไป" 

"ถึงมันจะเป็นเมนูเดิมกับมื้อกลางวัน แต่สำหรับผมไร้ปัญหา ก็ในเมื่อมันฝรั่งหวานที่สโมสรทำเลี้ยงอร่อยขนาดนั้น" 

"นับเป็นก้าวย่างสำคัญชีวิตเลยที่ต้องออกจากครอบครัวใหญ่สมาชิก 7 คน มาอยู่ลำพัง ต้องกลับมาบ้านหลังซ้อมเสร็จ จัดการทุกอย่างเองหมดเพราะไม่ใครช่วย ก็ยอมรับว่าแรกๆติดขัดบ้าง" 

"ความจริงก็มีอารมณ์เหงา แต่เพื่อนๆพี่ๆที่นี่คอยปลอบ พร้อมให้กำลังใจว่าเราได้โอกาสดีมาเล่นกับทีมระดับนี้ แวดล้อมไปด้วยคนดีๆ เป็นสิ่งที่เด็กมากมายวาดฝันแต่ไม่ได้สัมผัส อย่างไรก็ตามช่วง 2 ปีแรกกล้าพูดว่าลำบากทีเดียว" 

ส่วนหนึ่งเพราะเจ้าตัวโชคร้ายเอ็นไขว้เข่าด้านหน้าฉีกระหว่างไปรับใช้ทีมชาติอังกฤษ ยู-21 ทั้งที่ก่อนนั้นลงแข่งรับใช้ ลิเวอร์พูล ไปแค่ 7 นัด เป็นผลให้ต้องฟื้นฟูตัวเอง ณ อพาร์ตเมนต์ระหว่าง ต.ค.2015-ม.ค. 2017 


กองหลังวัย 21 กะรัตบอก 2 ปีที่เดี้ยงเหงาสุดๆ ต้องพึ่งบาทหลวงสโมสรชี้ทางสว่าง

"เอาจริงๆไม่อยากพูดถึงการเจ็บครั้งนั้นแล้ว แต่มันก็หนักหนาจนทำให้ไม่ได้ลงสนามหรือทำกิจกรรมฟุตบอลใดๆเลย" 

"โดยเฉพาะขั้นตอนฟื้นฟูสภาพ มันโหดจริงๆ"

ทั้งนี้เจ้าตัวยังรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณบาทหลวงประจำสโมสร บิลล์ บายโกรฟส์ ที่ช่วยนำคำสอนศาสนาคริสต์มาปลอบประโลมให้คิดบวก 

"ท่านมักชวนผมไปเยี่ยมที่บ้านบ่อยๆ ช่วยให้คำแนะนำหรือส่งกำลังใจช่วงระหว่างนั้นจนผ่านมาได้" 

"ผมคิดว่าสโมสรจัดการเรื่องแบบนี้ได้ดีมาก รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ แต่ทั้งนี้กล้าพูดว่ากำลังใจสำคัญมาจากแฟนสาว ทามาร่า จำได้เลยสัปดาห์แรกที่เดี้ยงหนักก็ขอร้องให้เธอขึ้นมาเยี่ยม เชื่อไหมว่าบึ่งถึงแทบจะทันที พากันไปสงบจิต สงบใจที่หาดฟอร์มบี้ มันไม่มีอะไรให้ทำมากหรอกแต่ก็ช่วยปลอบให้ดีขึ้นบ้าง"  

"นิสัยห่อข้าวกลับบ้านของผมดำเนินมาจนถึงเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว เพราะตอนนี้เธอมาอยู่ด้วย แม้ยังทำกับข้าวได้ไม่เก่งนัก แต่ไร้กังวลเพราะทราบว่าหากวันไหนเธอขี้เกียจก็ยังฝากท้องที่ครัวสโมสรได้" 


รายได้ปีละเป็นล้านบาท แต่ยังชอบห่อข้าวฟรีกลับมากินที่บ้าน 

ช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ โกเมซ พูดถึงการชิงตำแหน่งอันเข้มข้นในหมู่กองหลัง เพราะแต่ละคนสูสีทว่ามีโควตาเพียง 4 ที่/นัด 

รวมถึงความเป็นไปได้ในการซิวแชมป์ลีกจากพื้นฐานหลังแน่น เปรียบเทียบกับฤดูกาล 1978-19 สมัย ผจก.ทีม บ็อบ เพรสลี่ย์ ที่ 'หงส์แดง' เสียแค่ 16 สกอร์ จากการเล่น 42 เกม ดิวิชั่น 1 เดิม ส่วนสถิติที่แอนฟิลด์ตลอด 21 นัด พังตาข่ายถึง 51 ครั้งแต่เสียแค่สี่ลูก 

"มันคือเรื่องดี กอ่นนี้เราแทบไม่มีการแข่งขัน ยังจำได้ตอนทีมเจอปัญหาตัวเจ็บบานถึงขึ้นต้องใช้ ลูคัส เลว่า ลงมายืนเซนเตอร์แบ็ค" 

"ส่วนเรื่องแชมป์ยังไม่อยากโม้ เพราะลีกนี้แข่งขันสูงมากๆยากจะเกิดขึ้นได้ แต่ก็ขอตั้งเป้าไว้เสียไม่เกิน 16 ประตูเหมือนกัน อย่างไรก็ตามนี่เพิ่งต้นฤดูกาลก็หวังให้รับเหนียวต่อไป เช่นเดียวรุกแจ่ม" 

"สามประสานแดนหน้าเราตอนนี้คือหัวแถวโลก ดังนั้นทีมก็ควรยกระดับเกมป้องกันขึ้นสู่จุดเดียวกัน" 

บทพิสูจน์รอดูกันค่ำนี้เลยนัดเปิดบ้านพบ คาร์ดิฟฟ์ (27 ต.ค.) เรคคอร์คทีมหลังผ่าน 9 นัด ทำไปแล้ว 16 ลูก, เสีย 3 ประตู จะดีขึ้นหรือแย่ลงคอยติดตาม

คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})