ในสายตาพี่เด็กคนนี้มีของ
สุดสัปดาห์ที่ 'หงส์แดง' ไร้คิวแข่งทางอดีตกัปตัน 'ภูผาน้ำแข็ง' พร้อมด้วย ซาลีฟ ดิเยา ได้ชวนเอาอดีตแข้ง เอซี มิลาน มาฟาดเกือกเพื่อระดมทุมจากบัตรค่าผ่านประตูสมทบกองทุน 'แอลเอฟซี' ช่วยเหลือกิจกรรมการกุศลในละแวกชุมชน
ฮูเปีย ยังได้พูดถึง โกเมซ เซนเตอร์ฮาล์ฟชาวอังกฤษ ซึ่งเขามองแล้วหน่วยก้านดีมากๆ ศักยภาพโดยรวมก็แจ่ม พร้อมก้าวมาเป็นกระดูกสันหลังแก่ทีมสำหรับทศวรรษต่อไป
"เชื่อว่า โจ โกเมซ จะสามารถเติบโตเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟในสไตล์บัญชาการเกมรับ โลดแล่นบนลีกอังกฤษไปอีกนาน" อดีตแข้งฟินแลนด์ เริ่มกล่าว
ฮูเปีย (กลาง) ชื่นชมฝีเท้า โกเมซ
"หมอนั่นยังหนุ่มแน่น สามารถเรียนรู้ได้อีกเพียบ ซึ่งความเก๋ามันต้องใช้เวลาสั่งสม แต่ศักยภาพทั้งหลายมีอยู่ในตัวแล้ว"
"ก็ทราบว่า เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ยังไม่ได้แก่หงำเหงือก ( 27 ปี) แต่ที่เห็นคือ โกเมซ (21 ปี) เหมือนร่างโคลนแข้งดัตช์ในรูปแบบหนุ่มกว่า เขามีคุณภาพแบบเดียวกับ 'วีวีดี' - ทั้งปราดเปรียว ขณะเดียวกันก็แฝงความแข็งแกร่งในทุกการปะทะ ทักษะฟุตบอลก็แจ่ม"
"อนึ่งตัวผมเองก็ไม่ได้ติดตามผลงานทีมข้างสนามตลอด จึงไม่สามารถบอกว่าทั้งคู่สื่อสารระหว่างกันได้ดีเพียงใด แต่ตราบใดที่ โจ สามารถเรียนรู้จากคู่ขามากเท่าไหร่ มันยิ่งช่วยยกระดับผลงานของเขามากเท่านั้น"
"กล้าพูดว่า โกเมซ จะเป็นผู้เล่นชั้นดีสำหรับ ลิเวอร์พูล แต่สิ่งสำคัญสุดคือต้องรักษาร่างกายให้ฟิตสม่ำเสมอ แล้วอนาคตอันสดใจคอยท่าอยู่"
- ร่างกายอันสมบูรณ์คือประตูสู่ความก้าวหน้าอาชีพ - คำนี้สำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับ โกเมซ
ตลอด 3 เดือนหลังมานี้ แข้งเลือดผู้ดีไม่ได้ลงสนามเลยเพราะอาการบาดเจ็บข้อเท้าหักในเกมพบ เบิร์นลี่ย์ เมื่อต้น ธ.ค.2018
ทั้งที่พูดตามผลงานหมอนี่คือคู่ขาอันแกร่งสุดเมื่อประสานงาน ฟาน ไดค์
โกเมซ (ขวา) คือคู่ขาที่ผลงานดีสุดเมื่อประสานงาน ฟาน ไดค์
13 เกมซึ่ง โจ ออกสตาร์ตบนเวทีพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018-19 ลิเวอร์พูล เสียประตูแค่สี่ลูก (ไม่นับเกมเยือน เบิร์นลี่ย์ เนื่องจากทีมโดนส่องหลังจากเขาถูกเปลี่ยนออก) ผลงานก็ชนะถึง 10 แมตช์, เสมอสาม
ขณะที่ 16 เกมลีกเมื่อไร้ โกเมซ ระหว่างฟื้นฟูกระดูกขาหัก'หงส์แดง' โดนล่อไป 12 สกอร์ ส่วนผลการแข่งขันทีมชนะ 11, เสมอ 4 และแพ้หนึ่งนัด
จะเห็นเลยว่าเมื่อคู่ขาของ ฟาน ไดค์ เปลี่ยนหน้าสู่ เดยัน ลอฟเรน หรือ โฌแอล มาติป ความแข็งแกร่งในเกมป้องกันลดลไปกว่าเดิม
ครั้งจะกล่าวโทษ มาติป กับ ลอฟเรน ก็มองว่าใจร้ายเกินไป เนื่องจากมีหลายนัดโชว์ฟอร์มเด่นเช่นกัน แต่ครั้งไปเทียบกับสามประสาน โกเมซ, ฟาน ไดค์ และนายด่าน อาลีสซง เบ็คเกอร์ มันเข้าขามากกว่า
น่าสนใจว่าโปรแกรมแข่งในลีกอีก 7 นัดสุดท้าย ผจก.ทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ จะตัดสินใจกับตำแหน่งสำคัญนี้อย่างไร
เมื่อทั้ง โกเมซ หรือ ลอฟเรน ฟื้นร่างกายกลับมาพร้อมเป็นตัวเลือกอีกครั้ง
สามปราการหลังชิง 1 โควตาตัวจริงโค้งสุดท้ายฤดูกาล
ถ้าเอาตามสถิติหนุ่ม โจ สมควรได้โอกาสทันทีในเกมพบ ท็อตแน่ม ( 31 มี.ค.) แต่หากเพลย์เซฟ มาติป อาจยังได้ลงแข่งไปก่อน โดย ลอฟเรน เป็นแค่ตัวสอดแทรก
รายละเอียดเล็กน้อยนี้ ถ้าจัดสรรดีๆทีมจะสามารถคงผลงานอันเหนียวแน่น ควบคู่มอบโอกาสแก่ทุกตัวเลือกงัดฟอร์มมาอวด ช่วงก่อนเข้าเส้นชัย
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT