รู้จักชารีฟโซมาลี-สเกาเซอร์
อนึ่งกว่าจะลงตัวกันได้ก็เหงื่อตกกีบเพราะเจ้าหนุ่มตกลงรายละเอียดสัญญาไม่ลงตัว จนเกือบโดนขับพ้นองค์กรเหมือน บ็อบบี้ อเดคานเย่ หรือ เอ็ดเวิร์ด แท็กเซ็ธ ที่หมดข้อผูกมัด ยังดีว่าท้ายสุดคุยลงตัว
ทีนี้เราก็ไปทำความรู้จักคร่าวๆว่ามิดฟิลด์หนุ่ม มีทรงดีพอขึ้นสอดแทรกถึงทีมชุดใหญ่หรือไม่?
อับดี้ ชารีฟ
อายุ : 18 ปี
ตำแหน่ง : กองกลาง
ชารีฟ เกิดที่ประเทศโซมาเลีย ก่อนจะย้ายมายังเมอร์ซี่ย์ไซด์เมื่ออายุได้ 6 ขวบ มีโอกาสเตะบอลแถวบ้านพักจนผลงานเข้าตาแมวมอง ลิเวอร์พูล
เขาเติบโตที่ย่านที่เรียกว่า ท็อกซ์เทค จนถึงปัจจุบันก็สิบกว่าปีจนสามารถเรียกได้ว่าเป็นสเกาเซอร์ในรายชื่อผู้เล่นองค์กรปัจจุบันร่วมกับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อดัม ลูอิส และ เลียม คอยล์
"ก็เหมือนกับเด็กถิ่น ที่เติบโตแถวนี้ ผมคิดว่าคงดีมากๆหากสามารถก้าวขึ้นไปเล่นทีมชุดใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จ คงไม่มีเรื่องไหนดีไปกว่านั้นอีก" อับดี้ สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ สโมสรเมื่อปี 2018
ชารีฟ กับความฝัน
พัฒนาการเด่นเกินวัยเพราะเพียงอายุ 15 ปี ก็ได้เดบิวต์กับทีมชุด ยู-18 แล้ว เริ่มต้นในตำแหน่งแบ็กขวา เกมเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-1 เมื่อ ค.ค.2016
ซีซั่นนั้นลงสนามให้ทีมของหัวหน้าโค้ช นีล คริตช์ลี่ย์ ไปทั้งสิ้น 13 แมตช์ด้วยกัน รวมถึงตัวจริงตลอด 4 นัด ที่ทีมไร้พ่ายเดือนมีนาคม แล้วรักษาไลน์อัพแรกมาตลอดบนตำแหน่งกองกลาง
กระทั่งซีซั่น 2017-18 ได้ประสบการณ์ร่วมงานตำนานผู้เล่นอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด มาลองวิชาอยู่ 1 ปี ได้คำแนะนำดีๆเพียบ
"ความได้เปรียบของเขาคือหน่วยก้าน วิ่งขึ้น-วิ่งลงไม่บ่น อึดมาก" นิยามที่ 'สตีวี่จี' มอบให้
กระทั่งจบฤดูกาลนั้นก็ถูกดันมาเล่นให้ทีม ยู-23 ได้ร่วมเก็บตัวปรีซีซั่น แล้วรออีกครึ่งปีถึงได้เดบิวต์ระดับสูงขึ้นเกมชนะ สวอนซี 2-0 เดือนมกราคมที่ผ่านมา
ผลงานแมตช์นั้นแอสซิสต์ให้ เกล็น แม็คออลี่ย์ โขกปิดกล่อง นับว่าเป็นยิ่งกว่าเปิดตัวในฝัน ขณะที่ภาพรวมทั้งฤดูกาล 2018-19 ทำไป 3 ประตู, 6 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 28 นัด
ได้รับถ่ายทอดความรู้จาก เจอร์ราร์ด 1 ปี
เครื่องหมายการค้าเรื่องความฟิต นอกจากเข้าตา เจอร์ราร์ด ไปแล้ว ยังโดนใจ แบร์รี่ ลูว์ทาส ผจก.ทีม ยู-18 คนปัจจุบันด้วย
"หมอนั่นทำลายทุกสถิติด้านความฟิตที่เคยบันทึกไว้ของเรา เนื่องจากมีหน่วยก้านดีเป็นต้นทุน ทั้งนี้เราจับตัวดูเขาเป็นพิเศษเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เพื่อให้เจ้าตัวพัฒนาไปข้างหน้ามากสุด" ลูว์ทาส ให้สัมภาษณ์ไว้
"สำหรับบทบาทในทีมให้เขาเป็นตัวไล่บอล ใช้จุดเด่นเรื่องความอึดเป็นประโยชน์"
"นอกจากนั้นเขาก็ถือว่าเป็นเด็กท้องถิ่น ต่อให้ไม่ได้เกิดที่นี่ นิสัยก็ดี, ฟิตไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งสามารถรู้แท็คติคแผนการเล่น"
สาเหตุที่สามารถรู้ระบบเพราะเล่นมาหลายตำแหน่ง เริ่มจากกองน้าตัวเป้า, จากนั้นเปลี่ยนสู่แบ็กขวา กระทั่งมาเป็นกองกลาง
เท่าที่ประเมินแล้วตำแหน่งซึ่งสามารถเล่นได้ดีสุดคือกองกลางที่วิ่งสอดมาช่วยเกมบุกสนับสนุนกองหน้าไม่ว่าจะเป็น พอล แกล็ทเซิ่ล หรือ บ็อบบี้ ดันแคน
ถ้าตัวชุดใหญ่ขาดอาจเห็นเจ้าหนุ่มมาช่วยชุดใหญ่ซ้อม
ซึ่งด้วยความสารพัดประโยชน์ เล่นได้หลายตำแหน่ง หลายแท็คติคนี่เอง เชื่อว่าฤดูกา 2019-20 จะได้โอกาสกับชุด ยู-23 เต็มตัว
เนื่องจากกองกลางของทีมจะหายไปหลายรายเพราะ เอ็ดวาร์ด แท็กเซ็ธ โดนปล่อยออกไปแล้ว ส่วน เฮอร์บี้ เคน, โอวี่ เอยาเรีย, เบน วู้ดเบิร์น หรือ เคอร์ติส โจนส์ จะไปเก็บประสบการณ์แบบยืนตัวกับทีมอื่น ส่วน เปโดร คิริเวลล่า โดนขายขาดไปไหนสักแห่ง
จึงไม่น่าพลิกโผว่า โซมาลี-สเกาเซอร์ พร้อมขึ้นมาเป็นตัวเลือกแดนกลางของทีม ยู-23 ร่วมกับ เลียม คอยล์, อิซัค คริสตี้-เดวิส และ เอลิย่าห์ ดิ้กสัน-บอนเนอร์ นอกจากนั้นอาจมีสมาชิจากทีมเยาวชนเช่น เลห์ตัน คล้าร์กสัน หรือ เจ้ก เคน ตามมาด้วย
แล้วถ้าฟอร์มดี กล้าเล่น ประจวบเหมาะชุดใหญ่ขาดตัวซ้อม ไอ้หนุ่มจากแอฟริกา อาจถูก เจอร์เก้น คล็อปป์ เรียกไปช่วยซ้อมก็เป็นได้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT