:::     :::

บทความสั่งลา'โรโบเคร้าช์'

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ปีเตอร์ เคร้าช์ อดีตกองหน้าของ ลิเวอร์พูล เรา และอีก 10 ค่ายลูกหนังอื่น ประกาศแขวนสตั๊ดเรียบร้อยในวัย 38 ปี โดยโอกาสนี้เขาได้ร่ายบทความลงยัง เดมี่ เมล ทั้งเรื่องความในใจต่างๆ รวมถึงคัดเลือกดรีมทีมส่วนตัวมาให้ด้วย ฐานะศิษย์เก่าไปร่วมเลี้ยงส่งเขากัน

ผมมีเวลากว่า 23 ปีในวงการเพื่อเตรียมตัวก่อนถึงโมเมนต์นี้ แต่เมื่อมาถึงจริงๆ คุณจะตระหนักเลยว่าจัดแจงมาแค่ไหนก็ไม่ดีพอ 

ถึงเวลาที่จะนิยามตัวเองว่าเป็น 'อดีตนักฟุตบอล' ได้เสียที - นับเป็นการเดินทางอันน่าทึ่งนับตั้งแต่เข้าวงการตอนอายุ 16 ขวบ 

เอาจริงความตั้งใจคืออยากเล่นถึงอายุ 40 กะรัต คงเพราะกลัวที่ต้องกล่าวคำว่า - รีไทร์ - เพราะมันทำให้ผมอารมณ์อ่อนไหว รวมถึงรู้สึกแปลกเนื่องจากยังไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับบทบาทใหม่ ยิ่งสภาวะการตลอด 2-3 ซีซั่นหลัง มันทำให้ผมแน่วแน่ว่าการแขวนสตั๊ดคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว  


เบิร์นลี่ย์ ทีมสุดท้ายอาชีพ เคร้าช์

เพราะจากเคยเป็นผู้เล่นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ กลับโดนจำกัดเวลาลงสนามราว 10-15 นาที โดยต้องรอโอกาสข้างสนาม มันเป็นเรื่องยากที่จะทำใจยอมรับได้ อีกทั้งมกราคมนี้ก็จะอายุ 39 ปีแล้ว แม้ร่างกายเราจะยังฟิตพอ ประคับประคองให้ลงแข่งเต็มๆไหว  

แต่ก็ไม่อยากให้ตัวเอง เป็นไอ้ผู้เล่นคนหนึ่งที่ถูกส่งลงไปแข่งแล้วทำเสียบอล

ดังนั้นการประกาศรีไทร์มันจึงความรู้สึกเหลือเชื่อมาก ยิ่งเมื่อเราเพิ่งได้ทายาทคนที่สี่อย่างเจ้าหนูแจ็คมาสู่ครอบครัว ความโกลาหลอันเปี่ยมสุขกำลังมาเยือนเมื่อมีเด็กแรกเกิด แล้วหมายความว่าก็ยากจะปลีกตัวให้กลับไปซ้อมปรีซีซั่น  - ชีวิตก็คงวุ่นวายขึ้นในอีกแบบ 

อนึ่งก็ทราบว่ามันต้องมีจุดที่ทำให้เราสะอึก เพราะฟุตบอลมันเปิดโลกใหม่ที่ผมไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ ย้อนไปตอนพังสกอร์แรกในเมือง เฮย์ส กับทัวร์นาเมนต์รากหญ้าขณะอายุไม่ถึง 10 ขวบ แล้วก็เพราะการหวดลูกหนังนี่เองสานฝันของเราให้เป็นจริง  


กับภรรยาคนสวยมีลูกด้วยกัน 4 หน่อแล้ว

มีโอกาสหวนนึกถึงเมื่อ 17 ขวบ เป็นนักเตะฝึกหัดที่ ท็อตแน่ม แล้วมีกองหน้าอีก 10 คน แย่งชิงโอกาสอยู่เหนือผม ขวางเส้นทางก้าวขึ้นชุดใหญ่ ทางต้นสังกัดจึงส่งออกไปเล่นยืมตัวกับ ดัลวิช แฮมเล็ต จากนั้นผจญภัยสู่สโมสร ไอเอฟเค แฮสเซิ่ล โฮล์ม ในสวีเดน - ด้วยความสัตย์จริงกล้าพนันเลยว่าไม่มีใครเชื่อจากตัวพเนจรจะสามารถมายืนจุดนี้ได้  

หากคุณมาบอกผมตอนนั้นว่าแกจะติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ 42 นัด กดไปถึง 22 สกอร์, ได้เล่นนัดชิงฯ แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นแชมป์ เอฟเอ คัพ ฐานะ ลิเวอร์พูล และยิงประตูช่วย ท็อตแน่ม กลับไปเล่นรายการ ยูโรปเปี้ยน คัพ อีกครั้งในรอบ 4 ทศวรรษ ก็คงคิดว่าไอ้นั่นมันเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ  

กระทั่งเรื่องเหล่านั้นมาถึง แล้วมันดันเกิดขึ้น ยังจำได้ว่ามีโอกาสนั่งคุยกับคุณพ่อตอนติดธงทีมชาติอังกฤษ ถึงเรื่องราวต่างๆประดังเข้ามา พูดถึงเสื้อแข่ง 'สิงโตคำราม' เบอร์ 9 ซึ่งเด็กทุกคนที่เล่นฟุตบอลในประเทศนี้ต่างอยากสวมใส่แล้ววันหนึ่งได้ผมรับมอบมัน 

มันเกิดขึ้นจริง! ผมสวมเจอร์ซี่ย์เบอร์ 9 ในช่วงเที่ยงวันเดียวกับที่เพิ่งคุยกับคุณพ่อจบ


ลีลา 'โรโบเคร้าช์' อันเป็นเอกลักษณ์

บอกเลยว่าตัวเองวาสนาดี ถูกผู้คนจำจำมากแค่ไหน สนุกมาแค่ไหนตลอดอาชีพในทุกๆค่าย ซึ่งมีโอกาสร่วมงาน เป็นที่รัก สนิทสนนกับแฟนบอล แถมเมื่อเราพังตาข่ายแก่ต้นสังกัดซึ่งพวกเขาหนุนหลัง ก็ยิ่งมีความสุข 

ไล่มาเลยตั้งแต่ คิวพีอาร์ ถึง นอริช, แอสตัน วิลล่า, เซาธ์แฮป์ตัน, ท็อตแน่ม, ลิเวอร์พูล, สโต๊ค และ  เบิร์นลี่ย์ - อยากบอกไว้ว่าที่กล่าวเรายังไม่ได้ตัดกันขาด จะหาทางอยู่ในวงการลูกหนังต่อไป แล้วหาโอกาสไปดูเกมของทุกๆทีมให้ครบในฤดูกาลหน้า

อนึ่งกับ เบิร์นลี่ย์ เป็นสังกัดที่ทำให้ตัวเองต้องมาคิดจริงจังเรื่องยุติเส้นทาง เนื่องจากแทบไม่มีบทบาทนับตั้งแต่ไปร่วมงานเมื่อ ม.ค.2019 แต่ผมก็ยังรู้สึกดีที่เลือกซบ เพราะ ผจก.ทีม ฌอน ไดซ์ คือระดับท็อปของวงการ เพื่อนๆร่วมทัพก็เปี่ยมคุณภาพ มีการตระเตรียมทำงานอย่างน่าทึ่ง สนุกทุกครั้งเมื่อไปซ้อม นับเป็นองค์กรอันยอดเยี่ยม 

ลำดับต่อไปคือการเปลี่ยนผ่านจากสนามฟุตบอลมาเป็นคนปกติ ก็คิดว่าคงง่ายดายสำหรับตัวเอง เพราะมีหลายโปรเจคต์รออยู่แล้วคงยุ่งทีเดียว เชื่อมั่นได้เลยไม่หายหน้าไปไหนเพราะอย่างน้อยก็มาเขียนคอลัมน์สิ่ง 'สปอร์ตเมล' ในทุกๆสัปดาห์ตลอดซีซั่นอยู่แล้ว  

ต้องขอบคุณทุกโอกาสที่มอบให้ จนสามารถตัดสินใจปิดเส้นทางลูกหนังลงได้ เพราะเคยเห็นเพื่อนร่วมวงการฟุตบอลคนอื่นพอเลิกเล่นแล้วไม่มีอะไรทำ จนชีวิตติดหล่มยากปรับตัว 

นั่นเพราะโลกของฟุตบอลมันช่างดีเหลือเกิน จึงเข้าใจว่าพอต้องตัดขาดส่งผลให้บางคนเกิดภาวะซึมเศร้าเมื่อแขวนสตั๊ด 

ฐานะมืออาชีพไม่มีวันไม่เลิกลา ก็นับว่าประสบการณ์ตลอด 23 ปีที่ผ่านมาคุ้มแล้ว ณ บัดนาวผมกำลังตกแต่งห้องทำงานอยู่ กำลังคิดว่าจะจัดวางรูปในละช่วงเวลาส่วนไหนของผนังดี แล้วแต่ละภาพก็มีความหมายทั้งสิ้น 


เกียรติยศแชมป์เอฟเอ คัพ

ไม่ว่ารูปเมื่อครั้งเล่นกับ ลิเวอร์พูล ในรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก 2007, ภาพตัวผมเล่นนามทีมชาติอังกฤษ ในเวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย, สกอร์แรกที่ทำได้ฐานะนักเตะ คิวพีอาร์ เกมพบ จิลลิ่งแฮม เมื่อ ก.ย.ปี 2000 หรือ ตอนได้แชมป์ เอฟเอ คัพ

สำหรับการสะสมเสื้อแข่งไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองสนใจแต่แรก แต่สิ่งที่ผมทำคือสะสมความทรงจำ แล้วก็มีเรื่องเอาไว้เล่าให้ลูกๆได้ฟังมากมาย 

อดีตนักฟุตบอลคนนี้จะไปใช้ชีวิตของตัวเองแล้ว มันถึงเวลาเขียนบทต่อไปเสียที  

..................................

5 ประตูสุดโปรดตลอดกาล

1 – วอลเล่ย์ตุงตาข่ายใส่ แมนฯ ซิตี้ ครั้งเป็นผู้เล่น สโต๊ค ( 24 มี.ค. 2012)  

2 – จักรยานอากาศพังประตู กาลาตาซาราย เมื่อสวมเครื่องแบบ ลิเวอร์พูล ( 27 ก.ย. 2006 ) 

3 – ฐานะ ลิเวอร์พูล ยิงบอลเท้าซ้ายเป็นสกอร์แฮตทริกใส่ อาร์เซน่อล ต่อหน้าอัฒจันทร์ เดอะ ค็อป เอนด์ ( 31 มี.ค. 2007)


พังตาข่ายพา ท็อตแน่ม ไปเตะ แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้งรอบ 40 ปี

4 – จักรยานอากาศพังประตู สโต๊ค ซิตี้ โดยขณะนั้นเล่นให้ ปอร์ทสมัธ ( 5 ต.ค.2008 ) 

5 – ยิงประตู แมนฯ ซิตี้ มีส่วนพา ท็อตแน่ม กลับไปเตะ แชมเปี้ยนส์ ลีก ( 5 ม.ค. 2010) 

..................................

ดรีม ทีม : ผู้เล่นที่เคยเป็นทีมเมต ( 4-3-3) 

เปเป้ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, แล็ดลี่ย์ คิง, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - ลูก้า โมดริช, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ชาบี อลอนโซ่ - เวย์น รูนี่ย์, เฟร์นานโด ตอร์เรส, แกเร็ธ เบล  


ดรีมทีมของ เคร้าช์

คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด