ร่วมเลี้ยงส่งชายน้อยตอร์เรส
จำได้เลยว่าก่อนจบฤดูกาล 2006-07 'หงส์แดง' เป็นข่าวกับ ตอร์เรส ซึ่งเวลานั้นกำลังห้าวมากๆ ตัวเองก็ตื่นเต้นเพราะกองหน้าที่เรามีไม่เซ็กซี่เลย
ปีเตอร์ เคร้าช์? ก็คงพอจะเห็นภาพว่าขาดความชัวร์แค่ไหน, เคร็ก เบลลามี่? ไม่คมเช่นกัน, เดิร์ค เคาท์? หนักไปทางขยันแต่ไม่ทำประตู, ร็อบบี้ ฟาวเลอร์? ก็ขาลง หรือ หลุยส์ การ์เซีย? มันไม่ใช่หอกอาชีพ
การเห็นข่าว 'หงส์แดง' แอบเจรจากับเจ้า 'เอล นินโญ่' มันปลุกความคึกคักหลังปราชัยนัดชิง ชปล.ต่อ เอซี มิลาน อักโข
กระทั่งสองสโมสรตกลงกันได้, ตอร์เรส แถลงข่าวอำลา แอต.มาดริด และปิดดีลลงที่ 20 ล้าน ปอนด์ พร้อมสลับ หลุยส์ การ์เซีย ให้ 'ตราหมี'
ทรงผมตอร์เรสหลุดมาจากแมกกาซีนปลายทศวรรษ 2000
หัวใจมันพองโตเมื่อรู้ว่าเราจะมีกองหน้าแบรนด์เนมไว้ล่าแชมป์ลีกที่รอคอยกับเขาแล้ว
ปีแรกฐานะ ลิเวอร์พูล ดาวยิงแก้มแดงก็ครองใจแฟนบอลไปทั้ง 4 ห้อง ไม่เพียงผลงานจับต้องได้ แต่ลีลาการเล่นมันสมเป็นเพชฌฆาตอาชีพ ทั้งสัมผัสบอลแรก, สัญชาตญาณกองหน้า, การยืนตำแหน่ง, ความแกร่งไว้สู้กับแนวรับเมืองผู้ดี
ที่สำคัญพี่แกเข้าขากับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด มากๆ
24 สกอร์เฉพาะในลีก หรือเอาทุกรายการก็ 33 เม็ด เป็นซีซั่นเดบิวต์ที่แจ่มสุดใต้เครื่องแบบ ลิเวอร์พูล
... น่าเสียดายปีนั้นเราเสมอเยอะเกินไป จนทำได้แค่ที่สี่ตาราง
ตลอดสามฤดูกาลครึ่งที่อยู่กับเรา ส่วนตัวปลื้มดาวยิงคนนี้เหลือเกิน มีเสื้อแข่งเบอร์#9 ของแท้ติดตู้ด้วย ต่อให้ในวันที่โดน เชลซี ซื้อไปร่วมงานกลางซีซั่น 2010-11 ก็ไม่โกรธเท่าไหร่เพราะเข้าใจว่าโค้ชผู้ปลุกปั้นอย่าง ราฟาเอล เบนีเตซ ไม่อยู่แล้ว
ทั้งข้อเสนอกว่า 40 ล้าน ปอนด์ พ.ศ.นั้นก็สูงมาก เมื่อบวกนักเตะกระหายความสำเร็จ ก็พยายามทำความเข้าใจทุกฝ่ายทั้งสโมสร ลิเวอร์พูล รวมถึง ผจก.ทีม รอย ฮอดจ์สัน ขวางไม่ไหว
เสียดายอย่างเดียวคือไอ้ 'สิงห์บลูส์' พอเอากองหน้าตัวเก่งเราไป ดันไม่มีคู่มือใช้งาน จะโค้ชหน้าไหนแป้กหมดไล่ชื่อเลย อันเช่, วิลลาส-โบอาส, ดิ มัตเตโอ หรือแม้แต่ ราฟา ก็ยากจะปลุกวิญญาณเสือร้ายตัวเดิม
ตอร์เรส (ซ้าย) กอดคอ เจอร์ราร์ด (ขวา) ไล่ล่าประตู
จน 'เอล นินโญ่' เราระเห็จพเนจรไป เอซี มิลาน ต่อเนื่องถึง แอต.มาดริด แบบหยิบยืม ต้องรอโน้นซีซั่น 2016-17 ถึงโดน 'ตราหมี' ซื้อขาดเป็นกรรมสิทธิ์
แอบคิดแทน ตอร์เรส หากเปลี่ยนใจได้เมื่อ 8 ปีก่อนคงไม่ทิ้งแอนฟิลด์ แล้วสมมุติรับโอกาสจับคู่ หลุยส์ ซัวเรซ ยืนล่าเป้า เราจะเป็นแชมป์ลีกหรือยัง?
ช่างมันอดีตมันแก้ไขไม่ได้ แล้วก็แล้วกันไป วันนี้ เฟร์นานโด แขวนเกือกแล้วกับสโมสร ซางัน โทซุ ในลีกญี่ปุ่น บนวัยวุฒิ 35 กะรัต ผลงานขาลง แรงจูงใจหลายๆอย่างหดหายไปเยอะ
เกมเมื่อวันศุกร์ นัดสั่งลาได้ดวล วิสเซล โกเบ ที่มีเกลอแก้ว อันเดรส อีเนียสต้า สวมปลอกแขน พร้อม ดาบิด บีย่า ทีมเมตสเปน ก็ไร้ความปราณีฐานะเพื่อน เมื่อไล่อัดทีมของ 'เอล นินโญ่' แพ้เละ 1-6
ยังดีที่พิธีการอำลามันจัดก่อนบอลคิก-ออฟ ให้ผู้เล่นปัจจุบันของ ซางัน โทซุ ตั้งแถวส่งเพชฌฆาตคนดังเพื่อไปจ้อผ่านไมค์เซย์กู้ดบายทุกคน
"สำหรับผมแล้ว สิ่งสำคัญสุดที่ได้มาอยู่ประเทศญี่ปุ่นคือสัมผัสถึงความรักจากแฟนบอล, ชุมชนซึ่งส่งให้ตัวเองและครอบครัว" ตอร์เรส พูดผ่านไมค์กลางสนาม
"ผมได้มีอีกครอบครัวใหญ่ - ซึ่งก็คือพวกคุณ (แฟนบอล) ทุกคนทำให้รู้สึกว่าเราคนบ้านเดียวกัน จะนึกถึงกองเชียร์ที่เมืองโทซุตลอดไป"
"นับจากวันแรกที่ก้าวมาสู่องค์กรนี้ ทำงานเคียงข้างท่านปธ.สโมสร, ผอ.กีฬา ช่วยทีมนี้ดีขึ้นๆจนถึงปัจจุบัน ก็ยิ่งทำให้เราภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วม ... สักวันหนึ่งหวังว่าพวกคุณจะได้ฉลองแชมป์ เจ-ลีก กัน"
ฉากลาของ ตอร์เรส
เป็นคำอำลาที่ดี แม้ลึกๆ ตอร์เรส จะทราบศักยภาพของทีมว่าเล่นอีก 100 ปี ก็ไม่แน่ว่าจะทำได้หรือเปล่าเนื่องจากพิกัดของเมืองตั้งอยู่ตลาดขนาดเล็ก ไม่ดึงดูดแข้งดัง-โค้ชเด่น แถมบริษัทห้างร้านที่ให้การสนับสนุนหาใช่รวยล้นฟ้าอย่างค่ายอื่น
เอาง่ายๆเวลานี้อยู่โซนท้ายตาราง ดิ้นหนีตายไม่ต้องเพลย์ออฟยังเหนื่อย
พูดถึงการอำลาฟลอร์หญ้าของ ตอร์เรส คนที่จะสรุปเส้นทางชีวิตของหอกร่วมรุ่นได้ดีกว่า อีเนียสต้า ไม่มีอีกแล้วเพราะต่างเล่นฟุตบอลระดับเยาวชนทีมชาติสเปนมาด้วยกัน เคยเขียนบนเสื้อแข่งเป็นที่ระลึกครั้งยังละอ่อนให้ด้วยว่า
- เรากับนายวันหนึ่งจะร่วมคว้าแชมป์โลก - แล้วก็ทำได้จริงๆในเวิลด์ คัพ 2010
กว่า 2 ทศวรรษที่รู้จักกันมา อีเนียสต้า ย่อมนิยามกองหน้าแก้มลูกตำลึงได้กว่าใครทั้งหมด
เกลอแก้วที่รู้จักกันมากว่า 2 ทศวรรษ
(จากบน) บีย่า กับ อีเนียสต้า เลี้ยงส่ง ตอร์เรส
"ฟุตบอลนำเราให้มารู้จักกันเมื่อกว่า 20 ปีก่อน ครั้งยังเป็นเด็ก แม้ผ่านมานานแล้วแต่นายก็ยังเป็น 'เอล นินโญ่' (หนุ่มน้อย) เสมอ เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของเราที่แกะกันไม่ออก" ตำนานแข้ง บาร์เซโลน่า ร่ายความรู้สึก
"เริ่มแรกที่เข้าวงการเราห่างไกลจากความสนใจของสื่อมวลชน กระทั่งได้ร่วมประสบการณ์นับพันนับหมื่นเรื่อง จนพาทีมชาติคว้าแชมป์โลก"
"ไว้พอกลับไปที่สเปน ฉันจะโชว์เสื้อแข่งตัวนั้นให้แกดู มันคือสมบัติที่ไม่เคยมีใครสำรวจพบมาก่อน"
"แต่เอาเข้าจริงมันไม่มีสมบัติชิ้นไหนที่ยิ่งใหญ่ไปกว่ามิตรภาพระหว่างเราสองคนแล้ว"
พูดจบน้ำหูน้ำตาก็ไหล พร้อมแว่วเสียงเพลง - เราและนาย - ของคณะ โลโซ ลอยมาตามลม
ขุนเขายังมิอาจอยู่ค้ำฟ้า แต่ความเป็นเพื่อน อยู่ยั้ง ยืนยง ... เฟร์นานโด โชคดีนะเฟ้ย
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT