เซียนข้างกระดานขออ่านใจแฟนผี
การจะสมัครใจเชียร์ฟุตบอลทีมไหนคิดว่ามีปัจจัยอยู่ 2 ประการคือ หนึ่ง).สโมสรนั้นอยู่ช่วงรุ่งเรือง และ สอง).ทรงบอลเล่นมันส์ จนคนต้องยอมกรีดเลือดสาบานตนเข้าเป็นพรรคพวก
เอาตัวเองเป็นที่ตั้งเชียร์ ลิเวอร์พูล ไม่ทันช่วงประสบความสำเร็จช่วงท้ายๆ ปลายทศวรษ'80
เพิ่งติดตามจริงๆตอนตั้งไข่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มา 3-4ซีซั่น ซึ่งมักมีเทปการแข่งขันฉายทางช่อง 7 สี ตอนสายๆจันทร์-ศุกร์
เรื่องเสพติดความสำเร็จสำหรับเราจึงไม่มีตั้งแต่แรก
ส่วนคุณสมบัติทรงบอลเร้าใจ - จัดให้ว่า 'หงส์แดง' ตอนนั้นสอบผ่าน เพราะนอกจากจุดขายคือ 'สไปซ์ บอยส์' ก๊วนแข้งหน้าหล่อ ทีมที่คุมโดย รอย อีเแวนส์ ก็อยู่ในหมวดงานเอนเตอร์เทน
สไปซ์ บอยส์ และ อีแวนส์ คือขวัญใจของผู้เขียน
หลังบ้านรั่วไม่สน ขอเปิดหน้าท้าแลกหมัดไว้ก่อน เตะตาเด็กเพิ่งหัดดูบอลเหลือเกิน - ยิงมา ยิงกลับไม่โกง
เลยกรอกใบสมัครเป็น 'เดอะ ค็อป' ตามพี่ๆแถวบ้าน และเพื่อนส่วนน้อย
ด้านเพื่อนส่วนใหญ่ รวมถึงญาติมิตรอีกนับร้อยเลือกปันใจแก่อีกสีแดงที่ชื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะค่ายนั้นกำลังขึ้นเป็นมหาอำนาจแห่งยุค ล่าแชมป์เรื่อยๆ แถมทรงบอลก็น่าประทับใจ
เครื่องหมายการค้า ไม่มีนกหวีดสุดท้าย ไม่หมดหวังพังตาข่าย
เครดิตต้องมอบให้อดีต ผจก.ทีม เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พร้อมกระดูกสันหลังอย่างนักเตะ คลาส'92 ซึ่งยืนหยัดกับองค์กรในอีกทศวรรษต่อมาด้วยซ้ำ
หลายคนเลยติดบ่วงที่ท่านเซอร์ทำไว้คือ 'ปีศาจแดง' ที่ต้องเล่นแล้วได้แชมป์ แถมเตะโคตรมันส์
มาตรฐานที่ยอดคนสกอตต์สร้างนับว่า 100 ปีจะมีสักคน เมื่อท่านเล่นคว้า 13 แชมป์ลีก, 5 เอฟเอฟ คัพ, 4 ลีก คัพ, 2 แชมเปี้ยนส์ ลีก, 1 คัพ วินเนอร์ส คัพ หรือ 1 ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ไม่นับรวมรายการยิบย่อยทั้งหลายอีก
จะบอกว่าคือการสปอย, พ่อ-แม่รังแกฉัน หรือเสพสุขจนเคยชินก็แล้วแต่จะเรียก เพราะตั้งแต่ปี 2013 ที่ป๋าล้างมือในอ่างทองคำ แฟนบอล 'ปีศาจแดง' ก็ไม่เคยยิ้มกว้างได้อีกเลย
มาตรฐานที่ท่านเฟอร์กูสันตั้งไว้สูงมาก
แล้วมาดูที่ผจก.ทีม คนปัจจุบัน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นับเป็นศิษย์สายตรงของ 'เฟอร์กี้' ได้วิชาตั้งแต่ตัวเองเป็นนักเตะ ต่อเนื่องถึงฝึกงาน ระดับทีมสำรองอยู่ 2-3 ปี ดังนั้นก็ครูพักลักจำ ถ่ายทอดกึ๋นให้กันมาระดับหนึ่ง
พูดถึงความเหมาะสม รวมถึงการเป็นลูกหม้อ โอเล่ ชอบธรรมอย่างยิ่งกับตำแหน่งที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เพียงแต่เวลาที่เขาอยู่บนตำแหน่งยังสั้นไป หากแฟนบอล 'ปีศาจแดง' จะตัดสินว่าล้มเหลว!
กรณีศึกษามิสเตอร์ เฟอร์กูสัน นั่งเก้าอี้เจ้านายใหญ่ ยูไนเต็ด ก่อนฤดูกาล 1986-87 เปิดฉาก กว่าจะได้แชมป์แรกรอถึงซีซั่น 1989-90 รายการ เอฟเอ คัพ
แฟนบอล 'เร้ด เดวิลส์' และบอร์ดบริหารขณะนั้น อดทนให้เวลากว่า 3 ปี ถึงมีผลงานผลิดอกออกผล
เทียบกันกับ โซลชา เพิ่งมาเสียสละขัดตาทัพเอาเอาเมื่อ ธ.ค.2018 หรือแต่งตั้งฟูลไทม์เมื่อ มี.ค.นี่เอง
ปั้นทีมไม่ถึงปี พวกคุณจะไล่เขาออกแล้วเหรอ? - ถ้าทำจริง ยูไนเต็ด ก็คงต้องเข้าสู่วงจรอุบาทว์ตามเดิมที่ไม่เคยทนโค้ชรายไหนหลังยุคเฟอร์กูสันวางมือได้ถึง 3 ซีซั่น
นี่ไม่ใช่การปลุกปั่น แต่มองเรื่องความชอบธรรมบนตำแหน่ง หากตัดสินคุณค่าคนที่ความสำเร็จ
หรือหากองค์กรคุณตัดสินคนที่ทรงการเล่น - ข้อนี้ไม่เถียงว่ากุนซือนอร์วีเจี้ยน ไร้ความชัดเจนจริงๆ
วัดกันพวกโค้ชในกลุ่ม 'มหาอำนาจทั้ง 6' โซลชา ยังดูเป็นรอง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่เพิ่งทำงาน ผจก.ทีม เต็มรูปแบบเข้าปีที่สองเท่านั้น
โซลชาถูกดิสเครดิตตามหน้าสื่อฯ
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า - นิยามคือ - ลูกหนังหัวก้าวหน้า เน้นครองบอล
เจอร์เก้น คล็อปป์ - คำจัดความ - เกเก้น เพรสซิ่ง
อูไน เอเมรี่ - ติดภาพ - ปรัชญาต่อบอลจากแดนหลัง โต้กลับเนี้ยบ
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ - ถูกมองว่า - โค้ชนักทดลอง
แลมพาร์ด - มาพร้อมเป้าหมายปฏิวัติองค์กร - ให้โอกาสเด็กเล่นบอลปรู๊ดปร๊าด แทงทะลุแนวลึก
ภาพจำของ โซลชา คืออะไร?
- ต่อบอลเชื่องช้าสปีดเต่า, อาศัยลูกโต้กลับของ แดเนี่ยลส์ เจมส์ กับ อองโตนี่ มาร์กซิยาล -
แน่นอนกระทาชาย เหล่าเร้ด เดวิลส์ ที่ถูก เฟอร์กี้ เลี้ยงมาแบบคาบช้อนเงินช้อนทอง กดไม่ถูกใจสิ่งที่ โอเล่ สรรค์สร้างอยู่หรอก
ทรงบอลดีๆช่วงรับงานพาร์ทไทม์ เริ่มโดนดิสเครดิตว่าเพราะได้ เฟอร์กูสัน ชี้แนะ ครั้นพอทำงานเองก็ไปไม่เป็น
มันก็เลยย้อนกลับไปถึง เอ็ด วู้ดเวิร์ด ผู้บริหารระดับสูง/รองปธ.สโมสร คนมีอำนาจแต่งตั้งให้ โซลชา รับสัญญาคุมทัพนานถึง 3 ปี - ว่าเวลานั้นไม่ทราบเหรอ เรื่องที่ โอเล่ ได้คำแนะนำจากลูกพี่เก่า หาใช่เพราะกึ๋นตัวเอง 100%
ประเด็นผู้อำนวยการกีฬา จึงถูกยกมาถกเถียงตามหน้าวิจารณ์ว่าถึงเวลาหรือยังที่ วู้ดเวิร์ด ต้องเลิกหวงก้าง แล้วปล่อยคนมีความรู้ ความสามารถเชิงนโยบายลูกหนัง มาทำหน้าที่จริงๆจังๆ เพราะเมื่อดูโมเดลของ 'บิ๊ก 6' อื่น เขามีคนทำงานนี้ทั้งสิ้น เพียงแต่ชื่อเรียกขานอาจต่างออกไป
แมนฯ ซิตี้ วางใจ ชิกี้ เบกิริสไตน์ นั่งตำแหน่ง ผู้อำนวยการฟุตบอล
ลิเวอร์พูล มอบอำนาจเต็มแก่ ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการกีฬา
ท็อตแน่ม อาจใช้ระบบสภาโดยมี 4 คนลงความเห็นร่วมกันคือ โปเช็ตติโน่ ฐานะเฮดโค้ช, หัวหน้าแมวมอง, ผอ.อะคาเดมี่ และ ปธ.สโมสร แดเนี่ยล เลวี่ เคาะสุดท้ายเอาใคร-ไม่เอาใคร
อาร์เซน่อล ได้มือดี ราอูล ซานเยอี นั่งเก้าอี้หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการฟุตบอล
เชลซี เพิ่งตั้ง ปีเตอร์ เช็ก ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาฟุตบอล ซึ่งตามเนื้องานคือฝึกบริหารเตรียมถูกโปรโมทขึ้นแทนเจ๊คนสวย มาเรียน่า กรานอฟสเคีย ในอนาคต
ส่วนที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ใช้ใครกำหนดนโยบายซื้อ-ขาย ผู้เล่น รวมถึงวางแผนสำหรับอนาคตเรื่องฟุตบอล?
มองว่า ฟาน เดอ ซาร์ คุณสมับติดีสุดกับ ผอ.กีฬา ยูไนเต็ด
คำตอบคือยอดนักธุรกิจ ที่ไม่เข้าใจธรรมชาติวงการฟุตบอลอย่าง วู้ดเวิร์ด และลิ่วล้อ!!!
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกศิษย์เก่า 'ปีศาจแดง' ถึงกระสันแอยากมาทำงานตำแหน่ง ผู้อำนวยการกีฬากันเหลือเกินทั้ง ปาทริซ เอวร่า ที่ขายของเสนอตัวทางโซเชี่ยล มีเดีย หรือ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ซึ่งสนิทกับสื่อฯหลายสำนัก จึงเล่นกับหน้าข่าว
มองแบบผีข้างบ่อน - ทั้งคู่ไม่มีทางได้งานนี้แน่ๆ เพราะหาก วู้ดเวิร์ด อยากเรียกใช้คงแต่งตั้งไปตั้งแต่ฤดูกาล 2019-20 เปิดฉาก
แคแร็คเตอร์เรียกแขกให้มาด่า และภาพลักษณ์ที่ปรากฎต่อหน้าสาธารณะคือสิ่งที่ เอวร่า กับ ริโอ สอบตก
กองหลังฝรั่งเศสอย่างที่ทราบกันเป็นคนห่ามๆเพี้ยนๆ เคลื่อนไหวทางโซเชี่ยล มีเดีย พร่ำเพรื่อ ไม่เหมาะกับงานความผิดชอบสูง เพราะความน่าเชื่อถือบวกวิสัยทัศน์จำเป็นมากหากจะมาวางยุทธศาสตร์ระยะยาวแก่องค์กรใหญ่แบบ ยูไนเต็ด
เฟอร์ดินานด์ ดูสุขุมมาดดีกว่า แต่ที่บอร์ดไม่โอเคน่าจะมาจากการทำงานวิจารณ์ลูกหนังออกจอตู้ - สร้างโจทก์เยอะไปในวงการ
ชื่อของ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ อดีตแข้ง 'ปีศาจแดง' น่าจะเข้าท่าที่สุดเพราะประสบการณ์ด้านงานบริหารฟุตบอลเติบโตต่อเนื่องกับ อาแจ็กซ์ นับจากตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายการตลาด, ซีอีโอ ด้านกีฬา กระทั่งไต่เต้าสู่หัวหน้าฝ่ายบริหารระดับสูง ในปัจจุบัน
แต่อดีตโกลร่างโย่งจะมาหาเรื่องใส่ตัวที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด หรือ? ในเมื่องาน ผอ.กีฬา มันเหมือนลดชั้นตัวเองลงมาหนึ่งขั้นจากเดิม แถมต้องรับนโยบายจาก วู้ดเวิร์ด อีกทอด?
... นั่งคิดกี่ตลบก็ไม่มีทางที่ เอ็ดวิน จะยอม
ดังนั้น 2-3 ปี จากนี้หาก ยูไนเต็ด ขาดความกล้าในการผ่าตัดองค์กร มันก็พายเรือในอ่างเช่นเดิม
วัฏจักรปลดโค้ช-ตั้งโค้ชใหม่-ปลดโค้ช คงมีให้เห็นเรื่อยๆ
https://twitter.com/AnfieldIndex/status/1175869461469040646
ถ้า โจนส์ พูดแบบที่โดนอ่านปากจริงๆ นับเป็นเรื่องไม่งามเลย
เลยอยากแนะนำเพื่อนๆที่เป็นแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ให้ใจเย็น ยอมลำบากให้โอกาส โซลชา สักหนึ่งปี เพราะจะปลดตอนนี้ หรือหลังจบฤดูกาล ผลลัพธ์ซีซั่น 2019-20 ก็เละ ... สู้วัดดวงจนสุดทางดีกว่า
กำลังใจจากคนในสำคัญสุดเมื่อเผชิญวิกฤติ การบ่อนทำลายกันเองไม่ใช่แนวทางของผู้เจริญแล้ว
อย่าเอาเยี่ยง ฟิล โจนส์ ที่นั่งเลียไข่อยู่ด้านหลัง เอ็ด วู้ดเวิร์ด ในเกมที่ ลอนดอน สเตเดี้ยม พร้อมกระซิบกระซาบบอก - ปลดไอ้ โอเล่ มันพรุ่งนี้เช้าเลย -
เพราะเมื่อถูกจับภาพออกมาเผยแพร่ต่อสาธาณะ ... มันไม่งามเลยจริงๆ ที่ถูกคนบ้านเดียวกัน หยิบมีดมาแทงข้างหลัง
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT