มองซัลซ์บวร์กโดยกูรูบอลออสเตรีย

เท้าความสักนิดว่าการประเดิมรอบแบ่งกลุ่มของเราออกไปพ่าย นาโปลี 0-2 นั่นทำให้ต้องรีบหาจุดเปลี่ยนก่อนสถานการณ์จะหนักในช่วงเกมท้ายๆ 

โดยการพบ ซัลซ์บวร์ก ต่อหน้ากองเชียร์ที่แอนฟิลด์นั้น เป็นโอกาสดีหากหวังประเดิม 3 คะแนน ว่ากันถึงศักดินาระดับทวีป ทั้งเป็นโอกาสให้ ซาดิโอ มาเน่ กับ นาบี เกอิต้า สองศิษย์เก่า 'กระทิงแดง ออสเตรีย' รำลึกความหลัง 

อย่างไรก็ตามก็ประมาทไม่ได้เพราะคู่แข่งรายนี้ฟอร์มดุมากในบุนเดสลีกา ออสเตรีย กดไปถึง 40 แล้วจากการลงสนามเพียง 9 นัด แถมแมตช์เดย์#1 ของ ชปล.ก็ไล่อัด เกงค์ 6-2 

ความเจ๋งของ ซัลซ์บวร์ก, จุดอ่อน, อาวุธลับ ฯลฯ จะถูกวิเคราะห์ผ่านสายตา แอนนา โคโนวาโลน่า (บัญชีทวิตเตอร์ @FRFussballAnna) ผู้คร่ำหวอดลูกหนังออสเตรี่ยนจาก 'ฟุตบอล เรดาร์' ร่วมกับ คาร์ล แม็ตเช็ตต์ (@karlmatchett) จาก 'ดิส อิส แอนฟิลด์'

ความคาดหวังของทีม ซัลซ์บวร์ก ก่อนการจับสลากแบ่งกลุ่ม - แล้วพอมาลงกลุ่มนี้เป็นอย่างไร? หวังจบท็อปสองเพื่อเข้ารอบน็อคเอาต์ หรือมองอันดับสามไปเตะ ยูโรปา ลีก? 

สไนเดอร์ จัดให้ซัลซ์บวร์กมาอยู่กับแชมป์เก่า

ต่อให้ผลการจับสลากออกมาแล้ว (ร่วมกลุ่ม ลิเวอร์พูล, นาโปลี และ เกงค์) สโมสร เร้ด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก ก็หวังมีส่วนร่วมรายการชิงแชมป์สโมสรยุโรป หลังเปลี่ยนปีปฏิทิน

ว่าตามความจริงสโมสรมีศักยภาพจบที่สามได้ - แต่หลังจากแมตช์เดย์#1 ที่ถล่ม เกงค์ 6-2 ทางเทรนเนอร์ของทีมก็แอบกระชุ่นเด็กมองถึงท็อป 2 

อนึ่งซีซั่น 2019-20 คือครั้งแรกที่ ซัลซ์บวร์ก สามารถผ่านมาเล่น ชปล.กรุ๊ป สเตจ หลังจากความพยายาม 11 หนก่อนนั้นล้มเหลว อารมณ์ของทุกฝ่ายในองค์กรจึงปลื้มปีติอยู่แล้ว ยิ่งได้คู่แข่งเป็น ลิเวอร์พูล แชมป์เก่า ก็เพิ่มความคึก

มองที่แฟนบอลพวกเขาปลาบปลื้มกกว่าอีก : บัตรเข้าชมการแข่งขันเกมเหย้าจำหน่ายหมดก่อนพิธีจับสลากรอบแบ่งกลุ่มด้วยซ้ำ มันคือเรื่องหายากนะที่ตั๋วจะโซลด์ เอาต์ 

ใครคือผู้เล่นสำคัญฤดูกาลนี้? ขุมกำลังเชิงลึกใหญ่พอโรเตชั่นให้ตัวหลักหรือไม่? 

ฮาแลนด์ เจ้าของตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนของทีม

การหมุนเวียนผู้เล่นคือเครื่องหมายการค้าของสโมสรอยู่แล้ว ยิ่งมีคิวต้องโม่แข้งฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรป พวกเขาจัดลำดับความสำคัญได้ ไร้ปัญหา ทั้งเตรียมใจว่าการมาเล่นยังแอนฟิลด์ ต้องเค้นผลงานดีสุดถึงมีแต้มออกไป 

เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ กองหน้าตัวเก่งเพิ่งมาเป็นพาดหัวใหญ่ : หมอนั่นเซ็นสัญญาเข้าทีมเมื่อปีก่อน ช่วงตลาดหน้าหนาว หวังแจ้งเกิดบนเวทีใหญ่ขึ้น (จากลีกนอร์เวย์) มาช่วงแรกก็ต้องอดทนรอโอกาส กระทั่งได้ปล่อยของ 

จนฤดูกาล 2019-20 แจ้งเกิดเลย ผลงาน 17 สกอร์, 5 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 10 นัดทุกรายการ โดยเฉพาะแฮตทริกบนเวที ชปล.

แต่คนอื่นนอกจากหมอนั่นก็เจ๋งๆเพียบ 

จริงอยู่นี่คือขุมกำลังผู้เล่นหนุ่มส่วนใหญ่, ขาดประสบการณ์ บางคนเพิ่งมาเล่นลีกสูงสุดหรือฟุตบอลยุโรปครั้งแรก ทว่าไม่ธรรมดาแน่ๆ ทั้ง โดมินิก โซโบซไล กองกลางจอมแอสซิสต์, ปราการหลัง มักซิมิเลี่ยน โวเบอร์ เจ้าของค่าตัวแพงสุดสโมสร ( 10 ล้านยูโร) ประสบการณ์เล่นกับ อาแจ็กซ์ และ เซบีย่า 

การได้เซนเตอร์ฮาล์ฟคนนี้มาทำให้เทรนเนอร์ใหม่ เจสซี่ มาร์ช สามารถจัดแผน 3 ปราการหลังตัวกลางอย่างลงตัว 

นอกจากนั้นก็มีกองหน้าทีมชาติญี่ปุ่น ทาคุมิ มินาโมโตะ ซึ่งว่ากันว่าเดือนนี้ผลงานกำลังเข้าฝัก - เรียกว่ามีอีกหลายคนรอให้เป็นพาดหัว

ได้ข่าวว่า ฮาแลนด์ ป่วยจนอาจพลาดแข่ง? - หากเขาไม่ลงสนามจะเป็นใครแบกเกมรุก? 

ฮวาง ฮี-ชาง (กลาง) กองหน้าอีกคนของ ซัลซ์บวร์ก

ณ ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าลงได้-หรือ-ไม่ได้ อนึ่งต่อให้ต้องชวด ซัลซ์บวร์ก ก็มีตัวเลือกสำหรับช่วยพังตาข่ายชอยส์อื่น 

อันดับแรกคู่หูแดนหน้าอย่าง ฮวาง ฮี-ชาง ดีกรีทีมชาติเกาหลีใต้ที่โดนปล่อยยืมแก่ฮัมบูร์กเมื่อฤดูกาลก่อน  ณ ตอนนี้กำลังสนุกกับฟอร์มเพราะทำ 5 สกอร์, 9 แอสซิสต์ จากการลงเตะเก้านัด 

หัวหอกที่ชื่อ แพ็ทสัน ดาก้า ก็เป็นออปชั่นที่ดี รายนั้นกดไป 6 สกอร์จากการลงเตะ 8 นัดรายการบุนเดสลีกา ออสเตรีย 

ตัวเลือกอื่นอีกเป็นกระบุง เซกู โกอิต้า เด่นจากทีมชาติ มาลี ยู-20 ทัวร์นาเมนต์ เวิลด์ คัพ ยู-20 ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา หากรับโอกาสก็ปล่อยของ ตัวอย่างเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่อัด ออสเตรีย เวียนนา 4-1 หมอนั่นทำ 2 สกอร์และสองแอสซิสต์ 

ว่ากันว่านอกจาก ฮาแลนด์ จะเป็นแข้งเนื้อหอมสำหรับตลาดซัมเมอร์ 2020 ยังมี โซโบซไล อีกคนที่ถูกจับตาเยอะ อธิบายความเจ๋งของเขาหน่อย? 

ฟรีคิกแบบสั่งได้

โซโบซไล ถูกพูดถึงสักพักแล้วตอนเล่นให้ทีม ลีเฟอริ่ง ซึ่งคือทีมสำรองของ ซัลซ์บวร์ก เล่นระดับลีกาสอง ออสเตรีย 

นิยามก็คือกองกลางทักษะดี, เล่นบอลสง่างาม, กระแดะไปทางเน้นเกมบุก, เป็นผู้บัญชาการมิดฟิลด์เมื่อเห็นว่ามีพื้นที่ว่างให้โจมตี และทีเด็ดฟรีคิก จุดนี้แหละเรียกแขก - นอกเหนือจากนั้นก็นับว่าเลือดเย็น นิ่งเกินอายุทั้งที่เพิ่ง 18 ปี 

เขายังไม่สามารถยึด 11 ตัวจริงในทีมอย่างสม่ำเสมอก็จริง แต่ก็มีข่าวว่าชื่อของหมอนั่นถูก ฟาบิโอ ปาราติซี่ ผู้อำนวยการกีฬา ยูเวนตุส ถามไถ่ถึงเมื่อมกราคมที่ผ่านมา 

มีรายงานว่า บาเยิร์น มิวนิค, อาร์เซน่อล, อินเตอร์ มิลาน ก็เล็งด้วย 

ทั้งนี้ ผอ.กีฬา ซัลซ์บวร์ก คริสตอฟ เฟรนด์ ระบุว่าซัมเมอร์ 2019 ไม่มีข้อเสนอจริงๆจังๆ แล้วมันคงดีกว่าสำหรับองค์กร หากจะใช้เวทียุโรปอัพราคา

พูดถึงเทรนเนอร์ เจสซี่ มาร์ช ได้รับการต้อนรับดีแค่ไหนเมื่อเขาถูกส่งตัวมาตามสายงานโปรโมทโค้ช ในเครือข่ายของ เร้ดบูลล์ - ประสบการณ์ที่ เมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ สหรัฐฯ, ฝึกงานฐานะผู้ช่วยเทรนเนอร์ ไลป์ซิก ในบุนเดสลีกา เยอรมัน แล้วมายังออสเตรีย? 

มาร์ช โค้ชมะกันที่พูดดอยช์ได้

ความเห็นในทีแรกเสียงแตก - เพราะฐานแฟนบอลระหว่าง ไลป์ซิก กับ ซัลซ์บวร์ก แม้มี เร้ด บูลล์ เป็นท่อน้ำเลี้ยงเหมือนกัน ทว่ากองเชียร์สองค่ายไม่ถูกกัน

คงเพราะประเด็นดราม่าว่า ไลป์ซิก อยู่บนเวทีใหญ่กว่า คนก็ติดภาพนี่คือสาขาใหญ่ที่ ซัลซ์บวร์ก ต้องขัดเกลาผู้เล่นป้อนไปให้ แม้ปัจจุบันจะแยกทีมงานบริหารชัดเจน แต่ก็ทราบลึกๆเรื่องความเป็นทีมลูกพี่-ลูกน้อง 

ดังนั้นตอยมาถึงใหม่ๆแฟนบอล ซัลซ์บวร์ก ยี้เทรนเนอร์มะกันเพราะมองว่ารับคุมทีมตามใบสั่งของนายทุน มันเหมือนการแทรกแซงองค์กรเล็กกว่า

แม้พูดถึงโพรไฟล์เทรนเนอร์วัย 45 ปีไม่ธรรมดา คุมทีมนิวยอร์ก เร้ด บูลล์ส ที่สหรัฐฯ, มาฝึกงานฐานะผู้ช่วยเทรนเนอร์ของ ราล์ฟ รังนิก ที่ ไลป์ซิก เมื่อปีก่อน 

ซึ่ง รังนิก นี่เองคือคีย์แมนผู้มีบทบาทอย่างสูงในเหล่าสโมสรพันธมิตร 'กระทิงแดง' ฐานะนักวางกลยุทธ์สร้างองค์กร ปัจจุบันมีถึง 4 ทีมในข่ายคือ ไลป์ซิก, ซัลซ์บวร์ก, นิวยอร์ก และ เซา เปาโล 

https://twitter.com/_pauljoyce/status/1178558918932467712

มาร์ช ถ่อมตัวบอกเป็นรองหลายด้าน

จำได้เลยว่ามีป้ายผ้าเขียนว่า "Nein zu Marsch” - ไม่เอา มาร์ช ในสนามด้วยซ้ำ ขณะที่โซเชี่ยล มีเดียก็โจมตีกันหนัก 

ขณะเดียวกันก็มีฝ่ายหนุนโดยมองว่าเทรนเนอร์ มาร์ช คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบของทีมในระบบ เร้ด บูลล์ เนื่องจากโค้ชหนุ่มไอเดียล้น ซึ่งผ่านประสบการณ์คุมทัพมาพอสมควรกับ นิวยอร์ก - อีกทั้งสื่อสารภาษาดอยช์ดีเลย และที่สำคัญรู้วิธีเค้นศักยภาพแข้งหนุ่ม 

กระทั่งมาทำงานจริงทุกคนก็เลิกด่า! เพราะสร้างความตื่นตาตื่นใจต่างจากที่แล้วๆมา - ซัลซ์บวร์ก เล่นบอลเพรสซิ่งแดนบอล, โต้กลับสายฟ้าเมื่อกดดันแย่งบอลสำเร็จ, สปีดเกมเร็ว, มีกึ๋นในการสร้างสรรค์เกมรุก และแม้กำลังเรียนรู้ธรรมชาติฟุตบอลยุโรป แต่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ 

2-3 สัปดาห์แรกระหว่างปรี-ซีซั่นอาจโดนวิจารณ์เยอะแต่ก็นิ่ง  เขาก้มหน้าก้มตาปรับตัวให้ได้ สร้างขุมกำลังขึ้นใหม่ในเวลาไม่กี่อาทิตย์ เสริมทัพน้อยนิดเพียงครึ่งเดียวของที่เสียไปในตลาดซัมเมอร์ 

หลายฝ่ายคาดหวังเห็น ซัลซ์บวร์ก ง่อยเปลี้ยจากปีก่อน แต่เทรนเนอร์ มาร์ช ติดเครื่องพวกขุมกำลังหนุ่มได้เร็ว ต่อให้คนที่นั่งรอโอกาสข้างสนามก็สร้างผลงานได้ รวมถึงมาผ่าตัดแท็คติคทีม ทุกอย่างดูเข้าท่าตั้งแต่วันแรกๆ 

สุดท้ายแล้วให้ฟันธงหน่อย? เกมที่แอนฟิลด์จบยังไง? 

หงส์เหนือกว่าแต่ก็อย่าประมาท

ไม่ได้ออกตัวนะ! แต่ทีม ลิเวอร์พูล เหนือกว่าทุกด้านทั้งเกรดผู้เล่น, กระดูกบอล, ประสบการณ์เวทียุโรป แต่ทั้งนี้ ซัลซ์บวร์ก พอใจกับสถานะรองบ่อน พวกเขาเตรียมตัวมาดี หาทางเล่นงานจุดแข็งเรื่องแท็คติคของแชมป์เก่า 

ครั้งล่าสุดที่ทีมจากออสเตรียมาชนะยัง แอนฟิลด์ ย้อนไปไกลถึงปี 2004 สโมสร กราเซอร์ เอเค เอฟซี เชือด 1-0 รอบคัดเลือก รอบสาม ชปล. (ฤดูกาลนั้น ลิเวอร์พูล จบด้วยตำแหน่งแชมป์)

เรื่องน่าสนใจคือ เรเน่ โอฟเฮาเซอร์ อดีตกองกลางของ กราเซอร์ เอเค เมื่อกว่า 15 ปีก่อนปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเทรนเนอร์ของ เจสซี่ มาร์ช ที่ ซัลซ์บวร์ก! 

มันคงคลาสสิคแน่ๆหาก โอฟเฮาเซอร์ ทำได้อีกครั้ง เพียงเปลี่ยนบทบาทจากนักเตะสู่ทีมสตาฟฟ์