การได้แชมป์ ชปล.เมื่อมิถุนายนที่ผ่านมาเสริมความมั่นใจแก่ขุมกำลังของ ผจก.ทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ ให้ก้าวไปปลดล็อคล็อคแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษที่รอคอยมากว่า 3 ทศวรรษ
ซึ่งทฤษฎีที่นายด่านมือหนึ่งของโลกลูกหนังยุคปัจจุบันเชื่อว่าหาก 'หงส์แดง' สามารถนำไปปฏิบัติจริง เป้าหมายสูงสุดต้องประสบความสำเร็จ
"เราไม่ต้องการที่จะมีความรู้สึกแบบเดียวกับเมื่อฤดูกาลที่แล้วอีก" จอมหนึบวัย 27 ปีกระชุ่นถึงศึกสำคัญที่รออยู่อีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า
"ฤดูกาลก่อน เรามีประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมเกือบเป็นซีซั่นที่สมบูรณ์แบบ - เราแพ้แค่เกมเดียว และนั่นเป็นเกมกับ ซิตี้ ดังนั้นการพบกันหนที่จะถึงนี้จึงทราบว่ามันยิ่งใหญ่แค่ไหนสำหรับทีมเรา, สำหรับทุกคน, สำหรับคู่แข่งด้วย และสำคัญกับแฟนบอลหงส์แดง"
"มันก็แค่สามแต้มที่เพิ่มขึ้น แต่ แมนฯ ซิตี้ คือทีมที่ยอดเยี่ยมของลีกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นเราต้องใส่ทุกอย่างเพื่อชัยชนะในเกมนี้"
"การเป็นอันดับ 2 ด้วยการมีแต้มน้อยกว่าแค่คะแนนเดียว - และเราไม่รู้เลยว่าเกมไหนที่เราพลาดจนทำให้แชมป์หลุดมือ อาจเพราะมีช่วงเสมอในเกมที่เราควรทำได้ดีกว่านี้"
"สำคัญคือแมตช์เยือน ซิตี้ แล้วเสียท่า นั่นหมายความว่าหากเราต้องการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกต้องทุ่มเททุกอย่างเต็มที่ในทุกๆเกม พยายามทำให้สำเร็จ"
แพ้ซิตี้ นัดเดียวในฤดูกาล 2018-19 ถึงขั้นแชมป์หลุดมือ
ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นอาชีพนายด่านเจ้าเสน่ห์ ให้เครดิตว่าเพราะพี่ชายอย่าง มูเรี่ยล เบ็คเกอร์ คือต้นแบบชั้นดี ครั้งเล่นให้ ฟลูมิเนนเซ่ เขาจึงเอาแรงบันดาลจนั้นมาผลักดันตัวเองฐานะนายด่านบ้าง
ซึ่งหนึ่งในเคล็ดลับหากหวังประสบความสำเร็จบนตำแหน่งนี้คือ - ใจนิ่งและซ้อมหนัก -
“โค้ชผู้รักษาประตูทุกคนที่ทำงานร่วมกับผม ต่างพร่ำสอนเสมอๆว่าให้รักษาจุดเด่นเรื่องความสุขุม-เยือกเย็นเอาไว้ เมื่อผสานกับการซ้อมหนักทุกเมื่อเชื่อวัน ทุกอย่างจะดีเอง"
เรื่องดีที่ว่าคือศักราช 2019 'อาลี' ทั้งคว้าตำแหน่งเจ้ายุโรประดับสโมสร, แชมป์โกปา อเมริกา นามทีมชาติบราซิล, รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมเวที ชปล. และจอมหนึบแห่งปีจากการประกาศของเวที ฟีฟ่า
ทั้งนี้นายด่านส่วนสัด 6 ฟุต- 3 นิ้ว บอกว่าการมาถึงหลักชัยทั้งหลายมันไม่มีทางลัด แต่เป็นผลจากการซ้อมหนักมาตลอดชีวิต
“ผมไม่คิดว่ามันคือวาสนาที่ทุกอย่างประเดประดังมาพร้อมๆกัน แต่มาจากการฝึกฝนอยากต่อเนื่องทั้งชีวิตนักฟุตบอล พอๆกับตัดสินใจถูกต้องร่วมงาน ลิเวอร์พูล เมื่อต้นซีซั่น เพราะตะหงิดๆว่าสามารถประสบความสำเร็จได้กับสโมสรแห่งนี้"
"เอาจริงๆมันคือฤดูกาลที่ดีของเราทุกคน ไม่ใช่แค่ผม แน่นอนความสำเร็จส่วบุคคลก็น่าภูมิใจแต่มันคงเกิดไม่ได้หากไร้ความร่วมมือของทุกฝ่าย คว้าเกียรติยศก็เพราะกองหนุนดีทั้งนามสโมสรหรือทีมชาติบราซิล แชมป์โกปา อเมริกา ว่าสำคัญแต่ก็อยากได้มากกว่านั้น เริ่มมองไปถึง ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ เป็นเป้าต่อไป"
ครอบครัวคือพลังสำคัญของ อาลีสซง
ปัจจัยเรื่องฝีมือว่าคือสิ่งสำคัญของ อาลีสซง ทั้งนี้เขาจะไม่สามารถเค้นฟอร์มสุดยอดออกมาได้เลยหากขาดกองหนุนที่เข้มแข็งอย่างภรรยาและลูกๆ - หนึ่งในภาพความประทับใจจากเกมนัดชิงฯ ชปล.คือนายด่านบราซิเลี่ยนรีบวิดีโอ คอล หาครอบครัวพร้อมเหรียญแชมป์
“ตอนนั้นเมียกำลังท้องแก่ เธอจำเป็นต้องเดินทางไปเตรียมคลอดที่บราซิลบ้านเกิด เนื่องจากหลังจากนัดชิงฯ ชปล.ตัวผมยังมีภารกิจนามทีมชาติจ่อมาอีก ก็วางแผนกันว่าหากอยากอยู่ข้างเตียงตอนลูกชายคนที่สองลืมตาดูโลก จำเป็นต้องให้เธอล่วงหน้าไปรอก่อน" อาลีสซง เผยถึงเหตุผลที่เมียกับลูกสาวไม่ได้มาเชียร์ถึงขอบสนาม ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่
"น่าเสียดายแทนเธอที่อดสัมผัสบรรยากาศเกมชิงฯ เพราะมันคงเป็นโมงยามที่ดีมากหากครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าทั้งเมีย ทั้งลูกสาว (เฮเลน่า)"
"เพราะจำได้เลยว่าตอนเตะนอกบ้านรายการ ชปล.เมียรักผมเธอตามไปเชียร์ทุกแมตช์เมื่อฤดูกาลก่อน เพิ่งมาพลาดเอานัดชิงฯ แต่อย่างน้อยก็ได้เฟซไทม์ข้ามทวีปหา ให้เธอร่วมสัมผัสบรรยากาศ ฉลองร่วมกันบนสนาม อยากให้เมียมีส่วนร่วมทุกโมเมนต์สำคัญ"
"จำได้บอกเธอไปว่า - เราเป็นแชมป์แล้ว, เราทำได้! - เพราะตลอดมาคู่ชีวิตผมก็ทำงานหนักกว่าเราจะถึงจุดนี้ ทีมเมตอาจสู้ร่วมกันบนสนาม แต่สิ่งสำคัญสุดในอาชีพคือแรงสนับสนุนที่มาจากครอบครัว ทั้งเมียรักหรือบุพการี"
"วันนั้น ( 1 มิ.ย.) โชคดีครอบครัวเข้ามาให้กำลังใจถึงขอบสนาม ก็ร่วมยินดีจากนั้นค่อยโทรหาลูก-เมีย น้องเฮเลน่าเอาแต่อ้อนคิดถึงผมเสมอเวลาต้องไปเล่นเกมนอกบ้าน ก็บอกผ่านโทรศัพท์ไปว่า - พ่อทำได้แล้ว ป๊ะป๋าเอาแชมป์มาแล้วนะคะ! - ทุกสิ่ง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเกมชิงฯวันนั้นพิเศษไปหมดสำหรับผม แต่ละโมงยามจะอยู่ในความทรงจำตลอดกาล"
"จนถึงทัวร์นาเมนต์ โกปา อเมริกา ก่อนนัดเปิดสนาม (ชนะ โบลิเวีย) ก็ได้ไปเข้าห้องคลอดเพื่อดูเจ้าลูกชาย มัตเตโอ เบ็คเกอร์ ลืมตาดูโลก ช่างประจวบเหมาะจริงๆ"
อาลี บอกซีซั่นนี้เน้นมาก
ชีวิตคนมีขึ้น-มีลง หากฤดูกาล 2018-19 คือขาขึ้น ต้นซีซั่นใหม่ก็อาจเป็นบทพิสูจน์ อาลีสซง เมื่อเผชิญปัญหาเจ็บน่องตั้งแต่นัดแรก จนต้องพักนานกว่า 2 เดือน
“3 วันแรกที่ต้องเผชิญความเจ็บปวดจากปัญหาบาดเจ็บคือช่วงทำใจยากสุด เพราะแพทย์ประเมินอาการเบื้องต้นบอกเลยว่าเดี้ยงไม่ต่ำกว่า 4-6 สัปดาห์ ทว่าเมื่อสแกนละเอียดพบความเสียหายมากกว่านั้น"
"ยอมรับว่ามีห่อเหี่ยวใจเลยแต่เพราะเรามีศรัทธาในพระเจ้า เชื่อว่าทุกสิ่งที่เกิดมีเหตุ-มีผลของมันเอง จึงก้าวข้ามมาได้"
"อย่างน้อยตอนเจ็บไปก็ยังมีแง่ดีเพราะใช้เวลาอยู่กับครอบครัวเต็มที่ ควบคู่การเตรียมร่างกายให้ดีขึ้นเพื่อยืนระยะตลอดซีซั่น เพราะยอมรับว่ารักษาอาการเจ็บน่องจริงๆสัก 1 เดือนเอง ส่วนต่อมาคือเริ่มรีดเหงื่อซ้อมร่างกายให้หนักขึ้น มากถึง 4-5 วัน/สัปดาห์"
"เรื่องไหนที่ไม่ได้ทำตอนปรี-ซีซั่นก็หยิบมาใส่ให้ครบ เวลานี้บอกเลยฟิต 100% ทั้งร่างกาย-จิตใจ มองว่าสิ่งนี้จะช่วยสำหรับการยืนระยะไปยาว สำหรับฤดูกาลซึ่งตั้งใจทุ่มสุดพลังเพื่อถึงเป้าหมาย"
ปิดท้ายที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ เอแดร์ซอน นายด่าน แมนฯ ซิตี้ ว่าแม้จะเป็นคู่แย่งมือหนึ่งทีมชาติบราซิล แต่นอกเวลางานรู้สึกกันเหมือนพี่-เหมือนน้อง ดังนั้นจึงอยากอวยพรให้อีกฝ่ายหายเจ็บไวๆ
“ระหว่างเราคุยกันบ่อยมากเพราะเป็นเพื่อนกัน สถานะคู่อริจะมีก็เมื่อนกหวีดเริ่มเกม ดวลบนสนาม"
"นอกเวลางานก็ร่วมก๊วน ลูกสาวเราสองคนรุ่นเดียวกัน หรืออย่างตอนงานวันเกิดลูกชายเขาผมก็ร่วมงานฉลอง"
"ความสัมพันธ์มันดีมาก เมียของเราก็เข้ากันได้ดี ลูกสาวชอบเล่นด้วยกันอีก อยากเจอกันให้บ่อยกว่านี้อีกด้วยซ้ำ - แต่เพราะหากินในวงการฟุตบอล ภาระเรื่องงาน, เรื่องครอบคัรว จึงทำให้ทุกอย่างยุ่งไปหมด"
มิตรภาพละไว้ในฐานที่เข้าใจ เกมที่แอนฟิลด์ อาทิตย์นี้ อาลีสซง จะพิทักษ์ปากประตูไม่ให้อะไรย่างกรายมาสร้างปัญหา วอน 'เดอะ ค็อป' เบาใจ
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT
