:::     :::

หลากความเห็นแข้งดังต่อการรีสตาร์ตซีซั่น

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฟุตบอลลีกหลักของยุโรปที่จะกลับมารีสตาร์ตอีกครั้งหลังผ่านพ้นช่วงระงับแข่งเพราะการระบาดของโคโรน่าไวรัสก็คือ บุนเดสลีกา เยอรมัน ในสัปดาห์หน้า ส่วนลีกอื่นยังไม่มีความชัดเจน แน่นอนถามความเห็นผู้เล่นก็หลากมุมมอง ลองไปดูพวกเขาคิดอย่างไร

จอห์น สโตนส์ (แมนฯ ซิตี้) 

"เราต่างอยากให้ฟุตบอลกลับมาเตะอีกครั้ง ยิ่งผมกระสันแข่งมากกว่าใครแต่ทั้งนี้ก็ต้องเกิดเมื่อเวลาเหมาะสม เพื่อปลอดภัยสำหรับทุกคน"  

"ฐานะนักเตะก็อยากฟาดเกือกต่อหน้าแฟนบอลเต็มความจุ ขณะที่สาวกก็ล้วนหวังมาสนุกกับเกม ณ สนาม"

"แต่หากยังไม่ได้รับอนุญาตเข้าสังเวียน พวกเขาก็คงต้องดูผ่านโทรทัศน์ น่าเสียดายเหมือนกันเพราะทุกคนทราบว่าความรัก-อารมณ์ร่วมต่อทีมนั้นรวมอยู่ที่ใด"


"กลับมายังมุมมองฐานะผู้เล่นบ้าง ย่อมต้องการลงสนามไปล่าแชมป์ลีก กดถ้วยแชมป์บอลถ้วย เพราะทราบว่ามีคนรอชมอยู่" 

"ในความเห็นผมคิดว่าอดใจรออีกไม่นาน ดังนั้นต้องเตรียมพร้อมไว้" 

มานูเอล ลานซินี่ (เวสต์แฮม)  

"สำหรับผมนะคิด่าพรีเมียร์ลีก อังกกฤษ คงบ้ามากหากกลับมาแข่งโดยที่ยังไม่มีวัคซีนคอยป้องกันคุณจากไวรัส" 

"หากถามผมก็อยากกลับไปแข่งอยู่หรอก แต่ลีกก็ควรปกป้องผู้ปฏิบัติการด้วย เอาเป็นว่าไม่อยากีสตาร์ตตอนนี้"  


เควิน เดอ บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้) 

"ความรู้สึกของผมมันบอกว่าเราอาจจะกลับมาซ้อมอีกครั้งในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า" 

"รัฐบาลต้องการให้ฟุตบอลรีสตาร์ตเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อหาอะไรมาสร้างความบันเทิงแก่ผู้คน แต่ทั้งนี้การแข่งขันทั้งหมดจะถูกสะสางแบบไร้แฟนบอล คิดว่าแบบนั้น" 

"มันอาจไม่ได้รับการเหลียวแลจากใครเลยก็ช่าง ขอแค่เตะฤดูกาลนี้ให้จบ" 


"อนึ่งปัจจัยเรื่องการเงินคือสิ่งสำคัญสุดสำหรับพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดังนั้นหากซีซั่นแข่งไม่จบมันจะสร้างปัญหาใหญ่หลวงแน่" 

"ถามว่าความกังวลด้านการเงินมีความสำคัญเหนือกว่าสวัสดิภาพนักเตะไหม? คิดว่าไม่มาก เพราะอย่างน้อยทุกคนจะได้ตรวจหาไวรัส 1 ครั้งก่อนคืนสนามอีกครั้ง" 

"แต่ให้ตายสิ! ผมไม่คิดว่าพวกนักเตะห่วงตัวเองมากเท่าไหร่ แต่สำหรับครอบครัวของพวกเขาล่ะ? นั่นคือปัญหาใหญ่เลยสำหรับหลายๆคน" 

อันโตนิโอ รือดิเกอร์ (เชลซี) 

"ด้วยความสัตย์จริงเรื่องที่ผมกังวลคือลีกจะยกแชมป์ให้ ลิเวอร์พูล ไปเลย" 

"แต่จะอย่างไรสุดท้ายพวกเขาก็คู่ควรกับมันแล้ว เพราะมีฤดูกาลอันยอดเยี่ยม นำหัวตาราง แต้มมากกว่าเราตั้งไม่รู้เท่าไหร่" 

"ต่อให้มีอะไรเกิดขึ้นพวกนั้นก็แชมป์อยู่ดี จึงเห็นว่าตามหลักจริยธรรมยังไงก็ต้องให้ ลิเวอร์พูล - แน่นอนส่วนตัวอย่างสะสางฤดูกาลให้จบ เพราะมันคือกีฬาของทุกคน" 

"หากเราเลือกดำเนินการแข่งขันต่อทั้งที่ยังอันตราย แล้วเราทำเมินเฉยต่อคนใกล้ตายที่ไหนสักแห่งบนโลกเพราะไวรัสระบาด"


"ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่านั่นคือสิ่งถูกต้องตามความรู้สึกผิดชอบชั่วดีหรือเปล่า" 

"หากทุกอย่างลงตัว กลับมาแข่งเพราะพิจารณาว่าโอเค ไร้อันตรายเมื่อนั้นเราค่อยสตาร์ตอีกครั้ง"

"แต่หากยังอันตรายแล้วเราดื้อกลับมาแข่งอีกครั้ง มีคนจำนวนมากติดไวรัส เมื่อนั้นคงหยุดยาวแล้วไม่สามารถเริ่มใหม่อีก  

เซร์คีโอ อเกวโร่ 'กุน' (แมนฯ ซิตี้) 

  "นักเตะส่วนใหญ่ของพรีเมียร์ลีกรู้สึกกลัวเพราะพวกเขาก็ครอบครัว มีลูกๆ" 

"ถามว่าผมกลัวไหม? บอกเลยกลัวสิ แต่ผมอยู่อังกฤษนี่กับแค่แฟนสาว เมื่อกลับถึงบ้านก็ล็อคประตูทันที ดังนั้นคนเดียวที่จะติดไวรัสจาผมก็คือเธอ" 

"มีการพูดปากต่อปากว่าคนที่ติดไวรัสบางรายก็ไม่แสดงอาการ แต่สามารถแพร่สู่ผู้อื่นได้ นั่นคือเหตุผลทำไมผมหมกแค่ในบ้าน - บางทีผมอาจป่วยแล้วแต่ไม่รู้ตัว"  

"และเมื่อมีใครป่วย เราก็จะต้องคิดว่า 'เกิดอะไรขึ้นแล้ว?' ผมหวังว่าจะมีวัคซีนเพื่อให้ทุกอย่างจบสิ้นลง" 

อูโก้ โยริส (ท็อตแน่ม) 

"เราอยู่ในสถานการณ์ที่ทุกคนอยากแข่งให้จบฤดูกาล ตัดสินกันบนสนามแข่ง"

"มันคงน่าผิดหวังมากหากจบฤดูกาลแบบนี้ทั้งๆที่เหลือีก 9 แมตช์เดย ก่อนลีกจะจบฤดูกาล - คงน่าเศร้าสำหรับ ลิเวอร์พูล เมื่อมองความห่างบนตาราง แถมจ่อแชมป์แล้ว" 


"ดังนั้นคิดแทนทุกคน อารมณ์ตอนนี้คงเหมือนเหลือธุระต้องสะสาง"

"เสริมอีกหน่อยว่าเรากำลังเข้าสู่ช่วงเร้าใจที่สุด โมงยามอันสวยงามของฤดูกาล ไม่มีใครอยากให้จบแบบนี้หรอก" 

มานูเอล นอยเออร์ (บาเยิร์น มิวนิค) 

"ผมจะพูดถึงมันอย่างตั้งใจถึงครอบครัวคนวงการฟุตบอลเรา และถึงแมตช์ฟุตบอล เพราะโดยหลักการแล้วการจะรีสตาร์ตฤดูกาลได้หรือไม่นั้น มีการประชุมผ่านคณะกรรมการของลีกนั้นๆมาแล้ว" 

"หากเกิดขึ้นได้มันย่อมเป็นข้อสรุปที่สำคัญยิ่งของวงการลูกหนังทั้งหมด ไล่ลงไปถึงสโมสรสมัครเล่นและกลุ่มคนหนุ่มรุ่นต่อไป - แล้วก็ต่อยอดถึงกีฬาชนิดอื่นๆด้วย"

"ดังนั้นชาติยุโรปอื่นๆ เอาจริงๆคือทั้งโลกกำลังจับตาดูบุนเดสลีกาเราอยู่" 


"ภารกิจนี้คือความรับผิดชอบอย่างใหญ่หลวงของเรา ดังนั้นทุกเส้นประสาทต้องตระหนักพร้อม เราต้องตระหนักว่าการรีสตาร์ตฤดูกาลสำคัญที่สุด"

เปาโล ดีบาล่า (ยูเวนตุส) 

"บอกความจริงกับทุกคนเลยผมไม่คิดว่าตัวเองจะห่างหายจากการลงสนามห่างการซ้อมไปนานขนาดนี้เพราะโคโรน่าไวรัส" 

"ส่วนตัวรู้สึกอยากรีดเหงื่อ, อยากเจอหน้าทีมเมต และมิตรสหาย อย่างน้อยแค่สัมผัสบอลก็ยังดีเพราะการฝึกอยู่บ้านมันไม่ได้ใกล้เคียงสักนิด" 


"ผมอยากใส่สตั๊ดแล้วลงไปวิ่ง ไปทำประตู ... อย่างที่บอกมาเสมอว่าเมื่อคุณทำสิ่งใดด้วยความคลั่งไคล้ มันจะทุ่มเทมากกว่าปกติ 2-3 เท่า" 

"คิดว่ามันนานเหลือเกินที่เราไม่ได้ซ้อมอะไรกันเลย ก็ไม่ทราบเหมือนกันจะกลับมาได้เมื่อไหร่ เอาจริงๆนี่ไม่เหมือนเวลาพัร้อน เพราะมันมีกรอบเวลาชัดเจน" 

"ก็ทราบว่าหน้าที่ตัวเองตอนนี้คือทำใจให้สบาย รักษาหุ่นให้ดีแต่มันไม่มีความชัดเจนใดๆถึงเป้าหมาย" 

"มันเริ่มจากซ้อมเองมา 1 สัปดาห์จากนั้นก็ต่อไปอีกเรื่อยๆ แต่ทำไปมากแค่ไหนก็ไม่เหมือนอยู่ศูนย์ฝึก" 

จดหมายเปิดผนึกจากผู้เล่นทีม เออิบาร์ (สเปน)  

'พวกเรารักฟุตบอลและไม่มีอะไรที่จะทำให้เรามีความสุขมากกว่ากลับมาลงสนามเพื่อลงเล่นอีกครั้ง"

"แต่พวกเรากลัวที่จะเริ่มกิจกรรมที่ไม่สามารถทำตามคำแนะนำเบื้องต้นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญทุกคน มันรบกวนเราในการทำสิ่งที่พวกเราชอบมากที่สุด"

"เราเสี่ยงต่อการนำเชื้อไปติดครอบครัวและเพื่อนฝูง รวมถึงการมีส่วนร่วมในการสร้างคลื่นลูกใหม่ของการแพร่กระจายเชื้อ' 

คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด