ผลกระทบระยะสั้นต่อพรีเมียร์ฯหลังเรือรอดฟัน

เมล ออนไลน์ สรุปให้เห็นภาพว่าก่อนการอ่านคำพิพากษาสโมสรระดับท็อปตารางอื่นๆตั้งแต่อันดับ 3 ลงไปถึงอันดับ 7 แอบหวังว่า ซิตี้ จะแพ้ในชั้นอุทธรณ์เพื่อโควตา ชปล.เลื่อนลงมาถึงอันดับห้า จากเดิมสุดแค่ที่สี่ 

แต่เมื่อ'ซีเอเอส' พิจารณาแล้วว่า 'เรือใบสีฟ้า' ไม่ผิดถึงขั้นถูกขับจากศึกชิงแชมป์ยุโรป 2 ซีซั่น เพียงเปรียบเทียบปรับแบบขนหน้าแข้งไม่ร่วง พวกสโมสร เชลซี, เลสเตอร์, แมนฯ ยูไนเต็ด, วูล์ฟส์ หรือ เชฟฯ ยูไนเต็ด ก็ต้องก้มหน้าชงเอง-กินเอง 

ส่วนผลกระทบต่อ ลิเวอร์พูล ฤดูกาลนี้อาจไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่กับตลาดซัมเมอร์ แมนฯ ซิตี้ อาจสามารถซื้อแหลกกว่า 100 ล้านปอนด์เช่นเดิม ขณะที่แผนชวน เควิน เดอ บรอยน์ มาเล่นด้วยกันยังแอนฟิลด์เป็นหมันทันที 

หน้าชื่นบานทั้งคณะ

โควตาชปล.จากสี่อันดับแรกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะยิ่งบู๊กันเลือดสาด!

อย่างที่ได้เรียนไปว่าตั้งแต่อันดับ 3 - อันดับ 7 เขาแช่ง แมนฯ ซิตี้ กันอยู่ให้โดน 'ซีเอเอส' ยืนตามคำตัดสินของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) แต่เมื่อไม่เป็นดังหวังก็ต้องเหนื่อยต่อด้วยลำแข้งตัวเอง 

แล้วมันก็ยิ่งทำให้สามแมตช์เดย์สุดท้ายของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทวีความน่าสนใจ 

สถานการณ์เมื่อเตะครบ 35 แมตช์เดย์ คะแนนของอันดับ 3 - อันดับ 7 ดังนี้ 

3). เชลซี 60 แต้ม

4). เลสเตอร์ 59 แต้ม

5). แมนฯ ยูไนเต็ด 59 แต้ม

6). วูล์ฟแฮมป์ตัน 55 แต้ม

7). เชฟฯ ยูไนเต็ด 54 แต้ม

ช่องว่างไม่เกิน 6 คะแนน สามารถพลิกผันได้ทุกเมื่อ ดังนั้นจะพลาดกันไม่ได้อีก 

โดยเฉพาะ เลสเตอร์ ที่ชนะได้แค่หนเดียวตั้งแต่กลับมารีสตาร์ตซีซั่นอีกครั้งเมื่อเดือนก่อนต้องเรียกสติกลับ, เชลซี โปรแกรมที่เหลือยังเหนื่อย, แมนฯ ยูไนเต็ด โชคดีคิวเบาแถมวัดกับ 'เดอะ ฟ็อกซ์' เกมส่งท้าย 

ด้าน วูล์ฟส์ ก็มีเป๋ไปแม้เพิ่งฟื้นในนัดล่าสุด ขณะที่ เชฟฯ ยูไนเต็ด ศักยภาพทีมเป็นรองทุกค่ายด้านบน อาศัยหัวใจสู้ล้วนๆ

เลสเตอร์-แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีวัดกันเองด้วย

ปัญหาใช้เงินเกินตัวของแมนฯ ซิตี้ ถูกสะสางแล้วใช่ไหม? 

เรื่องนี้แฟนบอล ลิเวอร์พูล ต้องติดตามเป็นพิเศษ 

เพราะหาก 'ซีเอเอส' ยืนตามคำตัดสินเดิมของ 'ยูฟ่า' แน่นอนทาง ซิตี้ สูญรายได้ที่ควรมีไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์จากการชวดเตะบอลยุโรปนานถึงสองปี ทว่าเมื่อออกมาตรงข้ามพวกเขายังสามารถเสริมแกร่งแบบรัดกุมทางการเงินตามสิทธิ์ 

ตำแหน่งปราการหลังตัวกลางคือความจำเป็นเร่งด่วน แล้วมันก็ทำได้ง่ายขึ้นเมื่อสถานะสโมสรชัดเจนการันตีเตะ ชปล.และลุ้นความสำเร็จในทุกๆปีตราบที่ โจเซป กวาร์ดิโอล่า คุมอยู่ 

ส่วนบเรียนเรื่องการใช้จ่ายอย่างสมดุล หรือเอาอัฐิยายมาซื้อขนมยาย ทาง 'เรือใบสีฟ้า' จะทำได้เนียนขึ้นอย่างแน่นอน อนุมานเลยว่าจะเก่งแบบนี้ไปอีกอย่างน้อย 2-3 ปี 

แล้วยิ่ง ซิตี้ มีวัตถุดิบรอการเจียระไนจากเครือข่าย ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป กระจายอยู่ทั่วโลก ทำให้สามารถคัดเลือกหัวกะทิมาขัดเกลาในราคาถูก หากเข้าท่าจะเก็บไว้ใช้เองหรือขายต่อสร้างความมั่นคั่งสามารถเลือกได้หมด 

มองในแง่ร้ายต่อ ลิเวอร์พูล ก็ดูจะแย่งแชมป์ลีกเหนื่อย แต่มองอีกทางก็เป็นความท้าทาย นักเตะเราไม่ติดย่ามใจถอนคันเร่ง 

ขอเซนเตอรฮาล์ฟใหม่อันดับแรก

จะเกิดอะไรขึ้นกับเหล่าผู้เล่นหลักปัจจุบัน?

สัญญาฉบับใหม่ถูกมอบแก่พวกตัวหลักแน่นอนจากนี้ไม่ว่า เควิน เดอ บรอยน์, อายเมริค ลาปอร์ก และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง 

ตัวเก๋า เซร์คีโอ อเกวโร่ 'กุน' หรือ แฟร์นานดินโญ่ ลุ้นรับสัญญายืดออกไปเกิน มิ.ย. 2021 ขณะที่ตัวอะไหล่ นิโกลัส โอตาเมนดี้ และ จอห์น สโตนส์ ซึ่งสัญญาถึง มิ.ย.2022 ก็เข้าข่ายด้วย 

เจ็บใจก็แค่ เดอ บรอยน์ วัย 29 ปี จากทำท่าจะชิ่ง เอติฮัด สเตเดี้ยม แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้วก็คงรอเลี้ยงลูกคนที่สามอยู่แมนเชสเตอร์ต่อไป 

ราฮีม (ซ้าย) เด็กเป๊ป

แล้วอนาคตผจก.ทีมพวกเขาล่ะ?

ที่ผ่านมา โจเซป กวาร์ดิโอล่า คุมสโมสรใดไม่เกิน 4 ปี เพิ่งจะมี แมนฯ ซิตี้ ที่กดเพิ่มอีก 1 ซีซั่นจากครั้งฝึกสอน บาร์เซโลน่า หรือ บาเยิร์น มิวนิค 

ข้อผูกมัดปัจจุบันมีถึง มิ.ย.2021 ซึ่งเจ้าตัวก็รักษาท่าทีมาตลาดว่าจเอาอย่างไรต่อ บอกแต่เพียงเคารพสัญญาปัจจุบัน คงเพราะส่วนหนึ่งรอความชัดเจนเรื่องผลอุทธรณ์จากทาง'ซีเอเอส'

ซึ่งเมื่อทุกอย่างออกมาเป็นผลดีกับทางสโมสร เป๊ป ก็น่าจะทำมันให้ชัดเจนขึ้นในงานแถลงความพร้อมวันอังคารนี้ก่อนพบ บอร์นมัธ ( 15 ก.ค.) ณ เอติฮัด สเตเดี้ยม 

เดาใจยอดฝีมือวัย 49 ปี เชื่อว่าต่อเพิ่มแน่นอน อาจไม่ยาวแบบ เจอร์เก้น คล็อปป์ ถึง มิ.ย.2024 แต่เชื่อว่าอย่างน้อยจะยืดออกไปจนถึงสิ้นฤดูกาล 2021-22 เพราะความท้าทายในการแข่งขันที่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สนุกเร้าใจคนบ้างานแบบเขา 

คาดว่า กวาร์ดิโอล่า คงต่อสัญญาเพิ่มจาก มิ.ย.2021