มุมมองเทรนท์ต่อซีซั่นที่บ้าคลั่ง

สถิติหลังผ่าน 9 แมตช์เดย์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พบว่ามีอาการบาดเจ็บจากปัญหากล้ามเนื้อของเหล่านักเตะในฤดูกาลนี้ 133 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของซีซั่นก่อนถึง 23% 

แน่นอนว่าแบ็กขวาวัย 22 ปีที่โดนปัญหาเจ็บกล้ามเนื้อน่องเล่นงานมองเป็นอื่นไม่ได้นอกจากเพราะคิวแข่งแน่นเกินเหตุ และสโมสรสมาชิกดื้อรั้นไม่ปรับจากเปลี่ยนสำรองใช้งานสามคน มาเป็นห้าคน

“ความท้าทายในฤดูกาลนี้มันเพิ่มขึ้นจากปีก่อนมาก” ‘ทีเอเอ’ เริ่มแสดงความเห็น 

“ไม่เพียงแค่ปฏิทินการแข่งขันมันผิดเพี้ยนกว่าหนไหนๆในประวัติศาสต์โลกฟุตบอล แต่มันยังมีเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเกิดขึ้นอีก” 

“เราหายไปสามเดือนเพื่อล็อคดาวน์ตัวเองจากไวรัสโควิด-19, กลับมาแบบยังไม่ฟิตสมบูรณ์อย่างที่อยากได้ แต่ก็ต้องแข่งฤดูกาลที่เหลือให้จบ จากนั้นก็แทบไม่ได้พัก - คิดว่าสักสองสัปดาห์ได้มั้ง จากนั้นเข้าปรี-ซีซั่นราวสิบวัน แล้วโม่เกือกในลีกที่แข่งขันสูงสุดในโลกต่อเลย มันโหดเอาการ”

“ไหนจะความห่างระหว่างเกมกระชั้น, ไหนโปรแกรมทีมชาติวนมาถึงอีกแล้วดวงแตกฝ่ายจัดการแข่งขันบอลลีกยัดโปรแกรมคู่แรกวันเสาร์ให้ -ถามหน่อยว่ามันสมเหตุสมผมไหม มองแบบเป็นกลางเรื่องแบบนั้นไม่ควรเกิดขึ้น” 

“ทีมที่ต้องเล่นกลางสัปดาห์แบบคู่ท้ายๆถือว่าลิ้นห้อย - อย่างผมมอง ท็อตแน่ม พวกเขาเพิ่งเตะไปวันพฤหัสบดี จากนั้นกลับเล่นบอลลีกเที่ยงวันอาทิตย์ แทบไม่เหลือเวลาฟื้นฟูร่างกาย มันหาได้คืนสภาพเร็วขนาดนั้น กล้ามเนื้อคุณไม่ 100%แหง แล้วเพราะแบบนั้นจะนำไปสู่อาการบาดเจ็บ จนส่งให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปเลย” 

“อันที่จริงปัญหาแบบนี้สมควรคาดเดาได้ก่อน ใครก็เห็นว่ามันต้องเกิดไม่น่าปล่อยให้ล่วงเลยมาถึงขนาดนี้เพราะทุกสโมสรก็เห็นตรงกันว่าปฏิทินแข่งขันบ้าคลั่ง ตามปกตินักเตะจะทยอยร่วงช่วงเดือนธันวาคมถึงคริสต์มาส นั่นคิวแข่งโหดสุด แต่นี่ทยอยเจ็บตั้งแต่ต้นฤดูกาล ผ่านไป 8-9 แมตช์เท่านั้น เร็วไปไหม แสดงให้เห็นว่าบางอย่างไม่ชอบมาพากลแล้ว”

“แต่หากมองถึงระยะยาวเจอปัญหาตั้งแต่แรกก็ยังดีจะได้มาทบทวนกัน” 

ประเด็นเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บนั้นบรรทีมใหญ่มองว่ากฎเปลี่ยนตัวได้แค่ 3 คน ต่างจากฟุตบอลระดับสูงที่อื่นที่เปลี่ยนได้ถึงห้าคน 

ตลอดมามีการนำวาระนี้เข้าที่ประชุมเพื่อโหวตโดยสโมสรสมาชิก แต่ก็โดนปัดทั้งสองครั้งเพราะมีเห็นด้วยไม่ถึง 14 จากทั้งหมด 20 เสียง เหตุเพราะทีมเล็กมองว่าหากเปลี่ยนตัวได้ห้าคน พวกทีมใหญ่ ขุมกำลังแน่นจะยิ่งได้เปรียบ 

เรื่องต่อมาในความเห็น เทรนท์ คือเวลาแข่งคู่แรกของวันทั้งเสาร์หรืออาทิตย์ มีผลทำให้ได้พักน้อยลง ถ้าเลือกได้ขอเตะคู่หลัง 

“เวลาเตะนั้นสำคัญ สำคัญมากด้วย ยิ่งคุณมีเวลาสั้นๆสำหรับฟื้นฟูร่างกาย เตะตั้งแต่เที่ยงวัน กับเตะคู่ดึกมีผลมาก” อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ห่วงเพื่อนพ้องที่จะเล่นเที่ยงครึ่งเสาร์นี้กับ ไบรท์ตัน 

“หากบอลเตะไว เราก็ต้องตื่นเร็วขึ้น, ออกจากบ้านหรือโรงแรมเร็วขึ้นเพื่อไปถึงสนามทันเวลา....ซึ่งบางครั้งมันล่ก ก็เป็นเรื่องที่อธิบายลำบาก แต่มันรู้สึกว่าขาเราอาการไม่ดี เมื่อเทียบกับการมีเวลาเพิ่มอีก 2-3 ชั่วโมงให้เดินทอดน่อง ไม่ต้องรีบเร่งช่วงเช้า มันต่างกันมากสำหรับฟื้นฟูร่างกาย และความรู้สึกเพื่อลงแข่งเกม” 

“เวลาเตรียมพร้อมก่อนเกมที่สั้นก็เป็นอีกเรื่อง อย่างกรณีกลับจากเดินทางเตะเกมเยือนบอลยุโรป คุณจะเหลือเวลาแค่วันศุกร์ให้ทำการบ้าน เราต้องพยายามและยัดสารพัดข้อมูลเข้าหัว ไหนจะเรื่องทำสภาพจิตใจให้พร้อมด้วย จากนั้นเดินทางต่อไปค้างโรงแรมเพื่อเตะวันเสาร์ แล้วมันเป็นแบบนั้นจริงๆกับรูปแบบของ ลิเวอร์พูล ตลอดสี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หนักหน่วงเลย”

“เราอยากมีช่วงเวลาปรี-ซีซั่นยาวนาน หรือไม่ก็พักระหว่างฤดูกาล เพราะผลพวงจากเมื่อ 2019-20 กลับมารีสตาร์ตหลังโควิด-19 ระบาดแล้วทำปฏิทินการแข่งขันเพี้ยน”

“แล้วการแข่งขันที่เข้มข้นของลีกนี้ก็ทำให้ยิ่งแทบบ้า ก่อนเริ่มฤดูกาล 2020-21 เราต่างอยากเตรียมตัวให้นานสุดเพื่อแน่ใจว่าฟิตสมบูรณ์  แข้งขาพร้อมยืนระยะทั้งฤดูกาล แต่ความจริงก็อย่างที่เห็น”

“เมื่อทุกอย่างมันเร่งไปหมด ยอมรับว่าไม่พร้อมเท่าที่ควร เปรียบเหมือนนักเตะที่เพิ่งฟื้นจากบาดเจ็บ ก็ไม่ควรไปเร่งลงสนาม ดังนั้นการรวบรัดตัดซีซั่นให้จบเร็ว ไม่มีทางที่จะได้นักเตะฟิตสมบูรณ์จริงๆฟาดเกือก” 

อีกเรื่องที่ เทรนท์ เลือกเปลี่ยนตัวเองตามกัปตัน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และรองกัปตัน เจมส์ มิลเนอร์ นั่นคือการดูแลเรื่องโภชนาการ โดยจับมือเป็นพันธมิตรกับ คิเนติก้า บ.ดูแลเรื่องสุขภาพ-โภชนาการแก่นักกีฬา ที่ไม่เพียงช่วยวิเคราะห์เมนูอาหารแต่ละมื้อว่ามากไป-น้อยไป แต่ยังรวมถึงการเสริมสมรรถภาพร่างกายดาย

“เราต้องหาเครื่องมือเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายตัวเองให้มากสุด แล้วเรื่องของโภชนาการก็เป็นอีกสิ่งสำคัญ” กองหลังดีกรีแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ แชมเปี้ยนส์ ลีก ฝากทิ้งท้าย” 

“อะไรก็ตามที่คุณใส่เข้าร่างกายก็เพื่อเติมพลัง จำได้มีคนสอนเรื่องนี้ตั้งแต่ยังหนุ่มกว่าปัจจุบันว่าดูแลร่างกายก็เหมือนรถยนต์ คุณไม่สามารถเติมน้ำมันผิดสูตร หรือเอาดีเซลไปใช้กับรถเก๋งได้เพราะมันจะเจ๊ง”

“แล้วนั่นกลายเป็นข้อเตือนใจที่ผมได้ติดหัวมาว่าของกินหรือเครื่องดื่มที่ยัดลงปากนั้นเหมาะสมไหม?  มันช่วยอะไรผมบ้าง เพิ่มพลังให้หรือเปล่า ช่วยเราฟื้นตัวหรือรู้สึกดีขึ้นบ้างไหม? “

“ด้วยแนวคิดนั้นคิดว่าตั้งแต่บัดนี้ผมคงสามารถรักษาร่างกายให้ฟิตยืนระยะไปอีกพักใหญ่” 

ก็เป็นหนุ่มรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจสุขภาพตั้งแต่ไม่ถึงเบญจเพส มองแล้วคงโลดแล่นได้อีกเกินทศวรรษจากนี้