10คำถามคาใจต่อช่วงหงส์ผลงานหัวทิ่ม
เซ็นเดวิสมาทำไม?
สองกองหลังที่ได้มาก่อนเส้นตายตลาดหน้าหนาว 2021 คือ เบน เดวิส กับ โอซาน คาบัค โดยสถานการณ์ ณ ตอนนั้นคือเซ็นมาก่อนเพื่อแก้ขัด
แต่เมื่อ คาบัค ซ้อมแล้วปรับตัวได้จนรับโอกาสลงแข่งต่อเนื่องห้าเกม แต่ไหงไม่กล้าใช้งาน เดวิส บ้าง มีชื่อในกลุ่มแข่งแค่ 3 จาก 8 เกม ขาดเวลาสัมผัสเกมแม้แต่นาทีเดียว
ซ้ำร้ายเกมล่าสุดที่แพ้ ฟูแล่ม 0-1 กล้าส่งสองกองหลังอ่อนประสบการณ์ แนท ฟิลลิปส์ กับ รีส วิลเลี่ยมส์ แต่ในรายชื่อสำรอง 9 คนไม่มีเซนเตอร์แบ็กอาชีพ เดวิส ติดโผ
มองแล้วดาวเตะผู้ดีอาจไม่ได้เล่นให้ ‘หงส์แดง’ เลยก็เป็นได้ แค่เข้ามาชุบตัวก่อนถูกขายออกทำกำไรซัมเมอร์ที่จะถึง
ซิมิคาสตกสำรวจอยู่แถวไหน?
จริงอยู่ว่าเจ้าตัวมีปัญหาบาดเจ็บและติดโควิด จนมีชื่อวันแข่ง 20 ครั้ง สัมผัสเกมห้าหน โดย 3 จากทั้งหมดเป็น 1 ตัวจริงเกมพบ ลินคอล์น บอลถ้วย, 1 ตัวจริงแบ่งกลุ่มชปล.พบ มิดทิลแลนด์ ซึ่งแมตช์นั้นการันตีเข้ารอบไปแล้ว ซึ่งพอเปลี่ยนปฏิทินสู่ 2021 ได้แข่งอีกเพียงห้านาที
งานนี้ภาระหนักตกกับแบ็กซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่ลงสนามมากสุดของ ลิเวอร์พูล เพราะขนาดมี เบน เดวิส ที่เล่นแบ็กซ้ายได้ก็ยังไม่ใช้
ส่วนแข้งกรีซก็เกิดข้อกังขาว่า เขาไม่ฟิตพอ หรือเขาไม่ดีพอ? คนที่ให้คำตอบได้มีแค่ คล็อปป์
ใจเร็วด่วนปล่อยมินามิโนะยืมตัว
ตอน ทาคุมิ มินามิโนะ โดนปล่อยออกไปเล่นที่ เซาธ์แฮมป์ตัน แบบยืมตัวนาทีท้ายๆของตลาดม.ค.นั่นเพราะดาวเตะปลาดิบไม่สามารถสร้างความประทับใจแก่ คล็อปป์ ได้มากกว่า ดิว็อค โอริกี้
แต่ดาวยิงเบลเจี้ยนที่เก็บไว้ก็ขาดคุณภาพ, ดิโอโก้ โชต้า ตัวผ่อนที่พอฝากผีฝากไข้ก็เจ็บกว่าสามเดือน ด้าน ซาดิโอ มาเน่ กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ก็นัดกันฟอร์มฝืด
งงใจทำไมยอมปล่อย มินามิโนะ ในเมื่อเห็นว่าปีนี้เกมรุกมีปัญหา
ยังคิดเล่นรูปแบบแนวรับดันเกมสูงอีกต่อไปไหม?
ตอนตัวเต็มๆ ลิเวอร์พูล เล่นกองหลังดันสูงเกือบครึ่งสนามได้เพราะทั้ง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ หรือ โฌแอล มาติป ฝีเท้าพอตัว แล้วเอื้อต่อระบบเพรสซิ่งสูงแดนบน
แต่สองปราการหลังไก่อ่อนเวลานี้ทั้ง แน็ท ฟิลลิปส์ กับ รีส วิลเลี่ยมส์ ไม่ได้วิ่งเร็วแถมยืนตำแหน่งพลาดบ่อย แล้วอันที่จริงปัญหาแนวกองหลังดันสูงเผยรอยเปราะปรางตั้งแต่สลับ ฟาบินโญ่ หรือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงมาขัดตาทัพแล้ว
ความเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมตามหน้างาน มันสำคัญกว่ารสนิยมผจก.ทีมหรือเปล่า?
ทำไม ลิเวอร์พูล เครื่องร้อนช้า?
ฤดูกาล 2019-20 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นซีซั่นแชมป์ลีก ประตูที่ ลิเวอร์พูล ยิงได้ 15 จาก 85 ลูก (18%) เกิดช่วง 20 นาทีแรก
แต่ฤดูกาลปัจจุบันตกมาทุกอย่าง ยิงได้ 6 จาก 47 ประตู(13%) ในช่วง 20 นาทีแรก
ปัญหาออกตัวช้าส่งผลเสียต่อ ‘หงส์แดง’ เพราะปกติกุมสถานการณ์ได้เปรียบแต่หัววัน ครั้นจะปล่อยให้คู่แข่งขึ้นนำก่อนแล้วค่อยแซงเฮก็แทบไม่มีในฤดูกาลนี้
หรือคล็อปป์ควรเปลี่ยนระบบการเล่น?
เบ้าหลอมความสำเร็จของ ลิเวอร์พูล มาจากระบ 4-3-3 ที่สมบูรณ์แบบ เร็ว, แรงและเฉียบคม
แต่เมื่อนานวันเข้าคู่แข่งจับทางได้, ขุมกำลังในมือไม่เอื้อให้งัดแผนเก่ง ก็สมควรไหมที่จะลองเปลี่ยนระบบบ้าง
ยกตัวอย่างเกมออกไปชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 2-0 ทีมเริ่มปรับเป็น 4-2-3-1 แล้วเข้าท่า ทำไมไม่ต่อยอดจากตรงนี้
การเปลี่ยนตัวสำรองไม่ค่อยเข้าเป้า
ช่วงหลัง คล็อปป์ เปลี่ยนสำรองไม่ค่อยเป็นผล ก็ด้วยหลายปัจจัยส่วนหนึ่งเพราะฟอร์มตกทั้งทีม แต่สำหรับผู้เป็นผจก.ทีม ไหนๆเปลี่ยนแบบเดิมไม่เวิร์ก ลองปรับให้เร็วขึ้น, หลาหลายตัวใช้งานขึ้น และกล้าเสี่ยงขึ้นได้ไหม?
อยากเห็นการคิดเร็วทำเร็ว เจอปัญหาแก้ทันที ไม่ใช่รอเวลานาที 60 หนือ 75 ตามสูตรสำเร็จ
เมื่อไหร่ฟาน ไดค์ จะกลับมา?
หากหวังตัวหลักฟิตสมบูรณ์คงต้องรอฤดูกาลหน้าจริงๆ แต่ก็แอบมีหวังเห็นผู้บัญชาการเกมรับฟื้นมาทันกู้ผลงานเพราะหลังบ้านระส่ำเต็มแก่ เป็นไปได้หรือเปล่าว่า ‘วีวีดี’ จะมีปาฏหารย์กลับมาพร้อมแข่ง
แต่ก็ใช่ว่า ฟาน ไดค์ แข่งได้แล้วการันตีผลงาน ลิเวอร์พูล เพราะปัญหาที่มากมายจริงๆในทีม
ปัญหาระยะยาวอันน่ากังวลคืออะไร?
ตำแหน่งผู้จัดการทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังปลอดภัย แต่กับหลายปัญหาที่เกิดในฤดูกาลนี้หากไม่สะสางจะสั่นคลอนยุคทองให้สั้นจุ๊ดจู๋
ตัวเป้งเลยคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลังๆมีข่าวไม่ค่อยดีออกมาต่อเนื่องว่าผู้เล่นเริ่มเซ็งผลการแข่งขัน แล้วสมมุติแย่ๆ ‘หงส์แดง’ อดแข่งชปล.ซีซั่นหน้า
ดราม่าคงมีอีกเพียบ จนอาจดูไม่จืด
เมื่อไหร่ฤดูกาลเลวร้ายจะผ่านไป?
คงไม่ใช่วัน-สองวันนี้แหง แต่อย่างน้อยก็ได้คำตอบว่า 23 พ.ค. เกมส่งท้ายพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หรือหากเข้าชิงฯ ชปล.ก็เตะต่อถึง 29 พ.ค.
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปที่แต่งตัวรอเซิ้งแข้งคงทำให้ คล็อปป์ พักสมองทำการบ้านแก้มือฤดูกาลต่อไป
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT