10แข้งดีสุดยุคคล็อปป์ไม่เกี่ยงใครซื้อ
10.
แอนดรูว์
โรเบิร์ตสัน
มันคงทำร้ายจิตใจพอสมควรหากใครต้องอยู่ลำดับ 10 จากลิสต์นี้ ในเมื่อผู้เล่นทุกคนล้วนทำหน้าที่ตัวเองสุดความสามารถ แต่หากต้องเลือกก็คงเป็น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
ตลอดเวลาสี่ปีที่ร่วมงานกันมาแข้งสกอตต์พาตัวเองไปอยู่ในข่ายแบ็กซ้ายที่ดีสุดของ ลิเวอร์พูล ด้วยผลงานและความเชื่อใจได้อันสม่ำเสมอ
‘ร็อบโบ้’ นำพาเราไปสู่วัฒนธรรมอันคู่ควรว่าถึงเล่นแบ็กต้องช่วยเกมรุกด้วย เพราะกดไปรวม 38 แอสซิสต์, เกมรับแน่น และเป็นตัวล่อเป้าแฟนบอลคู่แข่งอย่างดี
กัปตันทีมชาติสกอตแลนด์ยังนำปรัชญาของ คล็อปป์ ไปถ่ายทอดลงบนสนามอย่างครบถ้วน : วิ่งจนกว่าหมดแรง, สร้างผลงานคุณภาพดีที่สุด และเชื่อมโยงกับแฟนบอล
วัย 27 ในวันนี้ มีสัญญาถึง มิ.ย.2026, รอเห็นของดีได้อีกเพียบ
9. จอร์จินโญ่ ไวนัลดุม
มีคำถามว่ากองกลางของ ลิเวอร์พูล จะติดหล่มไหมฤดูกาลนี้เมื่อ จินี่ ไวนัลดุม ย้ายออกไป? ถึงตอนนี้ยังพอเอาตัวรอดได้ ส่วนให้ฟันธงต้องไปรอปิดซีซั่นอีกที
แข้งดัตช์อาจไม่ถูกกล่าวถึงหรือนึกออกด้านความหวือหวา แต่คือคนที่แฟนบอลควรซาบซึ้งต่อผลงานที่ทำแล้วใส่เขาเป็นอีกหนึ่งตำนานทีม
มิดฟิลด์รายนี้กึ๋นบอลดีมาก, ร่างกายแกร่ง, ถูกนับถือผลงานต่ำกว่าศักยภาพ, ไวนัลดุม คือผู้เล่นสำคัญพาทีมคว้าแชมป์ลีกหรือ ชปล.
ไม่เพียงแค่นั้นประตูสำคัญๆพี่แกก็มีส่วนทั้ง 3 ลูกรอบรองฯ ชปล., ยิงใส่ทีมอริทั้ง แมนฯ ซิตี้, เอฟเวอร์ตัน, เชลซี และ อาร์เซน่อล
รวมถึงไฮไลท์ในอิทธิพลที่มีต่อทีมนัดพบ บาร์เซโลน่า รอบรองฯ แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดสอง ปี 2019 คงตราตรึงใจ
8. จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
ลืมผลงานที่ยังไม่ติดเครื่องตอนนี้ของกัปตันไปก่อน เพราะสิ่งที่เขาทำให้ทีมบรรลุเป้าหมายในยุคของ คล็อปป์ ช่างน่าทึ่ง
แข้งวัย 31 ปีคือนักเตะ ‘หงส์แดง’ คนแรกรอบสามทศวรรษที่ชูโทรฟี่แชมป์ลีกสูงสุดอีกครั้ง แล้วมีบทบาทรอบด้านทั้งใน-นอกสนาม
‘เฮนโด้’คอยท่า คล็อปป์ อยู่แล้วก่อนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งต่างจากผจก.ทีมคนอื่นๆที่จะเอ็นดู จอร์แดน ตั้งแต่นาทีแรกๆฐานะกัปตันทีม
‘เจเค’ ไม่ได้ให้สิทธิ์พิเศษใดๆคงเข้า-ออกทีมเหมือนคนอื่น แต่เมื่อเวลาผ่าน ก็ซื้อใจกันได้มากขึ้นแล้วประโยชน์สำคัญบนตัว เฮนเดอร์สัน คืออิทธิพลต่อทีมฐานะคนปลุกเร้า
ภาพรวมหวือหวาน้อยกว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด ผู้ส่งต่อปลอกแขนให้แน่นอน แต่มาตรฐานที่แสดงออกมาก็ถือว่าคู่ควรตำแหน่งกัปตันคู่บุญของ คล็อปป์
7. ฟาบินโญ่ ตาวาเรส
ฟาบินโญ่ อาจไม่ได้รับใช้ทีมนานเหมือน ไวนัลดุม หรือ เฮนเดอร์สัน แต่หากพูดเรื่องประโยชน์บนสนามล้วนๆ กล้ายกให้แซงหน้าสองคนนั้นไปแล้ว
เขากลายเป็นกองกลางเบอร์ 6 ระดับโลกไปแล้วหลังจากร่วมงาน ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2018 นับรวมก็สามปีนิดๆ
ผู้ช่ำชองเรื่องการอ่านเกม, เซนส์ในการผ่านบอลยาวทุบเกมป้องกันคู่แข่ง หรือนักรบที่สู้ไม่ถอยแดนกลางเวลาเจอเกมยาก
มีผู้เล่นเพียงหยิบมือที่เราจะคิดถึงเมื่อไม่ได้ลงสนาม แล้วนั่นคือสัญญาณว่าคุณคือยอดแข้ง
6. เทรนท์ อเล็กซานเดอร์- อาร์โนลด์
หากมีการจัดอันดับในอีก 2-3 ปีจากนี้ เทรนท์ อเล็กซาน-อาร์โนลด์ คงอยู่ในลำดับที่สูงขึ้นไปอีก
กองหลังวัย 23 ปีลูกหม้อของสโมสร พัฒนาตัวเองจากจอมรั่วไปสู่ฟูลแบ็กที่มีอิทธิพลสุดของยุคสมัย
ด้วยเทคนิคฟุตบอลเด่นทำให้ดูเพลินตา, การผ่านบอลยาวแม่นยำ, ขยันสอดขึ้นช่วยเติมเกมบุกและผลงาน 45 แอสซิสต์การันตี
วัยแค่นี้หากรักษาเนื้อตัวดีๆไปได้อีกไกลจนมีลุ้นทั้งตำแหน่งกัปตันหรือที่สุดตลอดกาลหลายๆด้านสโมสร ขอแค่ฟิตกลับมา 100% เราก็ลุ้นเห็นฟอร์มแบบเกมพบ เลสเตอร์ เมื่อฤดูกาล 2019-20 ได้อีกหน
5. โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
ฟีร์มีโน่ อาจมี 18 เดือนหลังที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่นั่นไม่เป็นมลทินทำให้คุณงามความดีที่ทำในยุคสมัย คล็อปป์ ลดลงแต่อย่างใด
ไม่มีผู้เล่นคนไหนในทีมชุดปัจจุบันลงเตะเคียงข้าง คล็อปป์ ไปมากกว่า บ็อบบี้ (291 นัด) รองลงไปคือ เจมส์ มิลเนอร์ (246 นัด) นั่นก็เพราะสไตล์ของ ฟีร์มีโน่ สมบูรณ์กับบอลของ ‘เจเค’
ช่วงผลงานดีสุดแข้งบราซิเลี่ยนทั้งเป็นผู้นำในการเพรสซิ่ง, ถอนต่ำเชื่อมเกม และยิงประตูสำคัญๆอย่างแชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ปี 2019
ไหนจะลูกไม้หวือหวาการผ่านบอล, จบสกอร์แบบหน้าไม่มองประตู, เล่นเพื่อทีมอย่างแท้จริง
สมมุติหาก ฟีร์มีโน่ คืนร่างเดิมได้อีกครั้งมันจะเหมือนเราซื้อกองหน้าคนใหม่มาเพิ่ม
4. อาลีสซง เบ็คเกอร์
หาก เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ คือผู้พลิกโฉมโชคชะตาของสโมสรเมื่อม.ค. 2018 อาลีสซง ก็เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่เข้ามาต่อให้ภาพสมบูรณ์กลางปีเดียวกันนั้น
จอมหนึบวัย 29 ปีก้าวเป็นผู้รักษาประตูที่ดีสุดโลกนับจากนั้น ด้วยออร่าเมื่อประจำการพิทักษ์ด่านสุดท้ายก็เป็นเรื่องที่ ‘หงส์แดง’ ตามหามานานกับคนแบบนี้
ความจริงการเซฟของ ‘อาลี’ อาจไม่ได้ดูง่ายอย่างที่เขาทำหากขาดเซนส์เรื่องการยืนตำแหน่ง, ปฏิกิริยาตอบสนองสั่งการรวดเร็ว
หรือจะเป็นประตูชัยคลาสสิคขึ้นโขกใส่ เวสต์บรอมวิช เมื่อปลายซีซั่นก่อน เพราะหากไร้เม็ดนั้นอาจร้างคิวเตะ ชปล.ที่แอนฟิลด์ซีซั่น 2021-22
แล้วต้องไม่ลืมความสุดยอดในการเซฟใส่ นาโปลี รอบแบ่งกลุ่มฤดูกาลก่อนๆเช่นกัน
3. ซาดิโอ มาเน่
มาเน่ เป็นอีกคนที่ผลงานร่วงลงมาสวนทางวัยวุฒิที่เพิ่มขึ้น แต่ความสำเร็จตลอดช่วงสวมเครื่องแบบ ‘หงส์แดง’ ก็สมควรยกให้แกเป็นอีกหน้าประวัติที่ควรถูกจดจำ
การมาถึงเมื่อปี 2016 ให้ความรู้สึกเหมือนเขาคือตัวเร่งปฏิกิริยา เป็นเกียร์พิเศษในเกมรุกด้วยความเร็วเหนือระดับและฝีเท้าสำเร็จรูป - เจ๋งแค่ไหนไปถาม อาร์เซน่อล เหยื่อคมแข้งเอาได้
ซีซั่นที่ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ก็สร้างผลงานเด่น ส่วนภาพรวมกว่า 227 เกมยิงได้ 102 ประตูฐานะตัวริมเส้นถือว่าไม่ธรรมดา
ความเป็นนักสู้ที่แสดงออกมาในสนาม, มีโมงยามน่าจำจำมากมาย แถมโบนัสเมื่อนอกฟลอร์หญ้าก็ยังเป็นคนใจดีมากๆ
มีความกลัวว่าช่วงเวลาที่ดีสุดของ มาเน่ ผ่านไปแล้วแต่เชื่อสิเจ้าตัวจะพิสูจน์ข้อกังขาเหล่านั้นเอง
2. เฟอร์กิล ฟาน ไดค์
ฟาน ไดค์ ไม่ได้ครองอันดับหนึ่งของการจัดอันดับนี้ แต่เขาคือผู้เล่นทรงอิทธิพลสุดทีมในยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ แบบไร้ข้อกังขาด้วยบทบาทผู้นำที่แสดงออกมา
ระดับที่แข้งดัตช์แสดงผลงานออกมาตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าทีมมานั้นเหนือกว่าเซนเตอร์แบ็กทุกคนบนโลกนี้หลายไมล์ - เรื่องนั้นคือความจริง
ทีมอาจมีกองหลังเจ๋งๆมากมายที่เคยร่วมงานแต่ก็ไม่มีคนไหนปิดจ๊อบแชมป์ลีกที่รอคอยได้อย่าง ฟาน ไดค์
วิ่งเร็ว, แข็งแกร่ง, รับมือลูกกลางอากาศอยู่หมัด, กระตือรือร้นในการครองบอล, อ่านเกมชั้นอ๋อง, ภาวะผู้นำ, อันตรายในกรอบเขตโทษคู่แข่ง, สง่างาม - เรียกว่าไร้ที่ติ”
การขาดหายไปของเขาเมื่อฤดูกาลก่อนส่งผลชัดเจนต่อทีม ดังนั้นซีซั่นปัจจุบันถ้ารักษาเนื้อตัวดีๆทีมได้ลุ้นยาวๆ
1. โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ต้องยอมให้ โม ซาลาห์
อันที่จริง ฟาน ไดค์ ก็ขี่พอสมควรเรื่องอิทธิพลต่อทีม แต่’ราชันอียิปต์’ ชั่วโมงนี้ผลงานระดับโลกจริงๆ
ตั้งแต่ย้ายจาก โรม่า มาร่วมงานเมื่อปี 2017 ผลงานการทำประตูก็ไม่เคยหยุด อุดปากพวกแขวะว่าเก่งซีซั่นเดียวได้ชะงัก
การลงสนามไปยิง 134 ลูกจากการเล่น 212 นัด เล่นเอาหอกเป้าอาชีพอายเพราะแข้งวัย 29 ปีเล่นตัวรุกด้านข้าง
ผลงานที่โดดเด่นแบบไร้ข้อกังขา ก็หวังให้ถกสัญญาใหม่ลงตัวเพื่อสามารถผลิกตผลงานด้วยกันไปอีกนาน
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT