:::     :::

ชาบีจะเป็นนิวเป๊ปหรือหัวทิ่มแบบซูเนสส์

วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2564 คอลัมน์ ฉันอยากไปเหยียบแอนฟิลด์ โดย เจ.บาร์ท
1,422
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เทรนด์การแต่งตั้งอดีตนักเตะกลับมาเป็นเฮดโค้ชให้อู่ข่าวอู่น้ำเก่าไม่ใช่เรื่องใหม่ของวงการฟุตบอล กรณีที่โด่งดังสุดรอบสัปดาห์คือ ชาบี เอร์นานเดซ ที่ บาร์เซโลน่า แต่ก็ต้องเผื่อใจไว้นิดเพราะมีกุนซือเพียงหยิบมือที่ประสบความสำเร็จกับแนวทางนั้น

ชาบี ผละออกจาก อัล-ซาดด์ ในกาตาร์มารับเผือกร้อนต่อจาก โรนัลด์ คูมัน ถือว่าเป็นงานที่ท้าทายอย่างมากเพราะเกรดลูกหนังของตะวันออกกลางกับสเปนห่างกันลิบ 

แถมช่วงหลังกุนซือในลักษณะลูกหม้อเก่าแทบไม่เห็นใครไปรุ่งแม้แต่รายเดียว 


โจเซป กวาร์ดิโอล่า ( บาร์เซโลน่า

ย้อนไปเมื่อปี 2008 ตอน แฟร้งค์ ไรการ์ด แยกทางจากไป โจเซป กวาร์ดิโอล่า ถูกเลือกให้ขึ้นมาแทน ซึ่งก็ไม่ใช่ชอยส์ที่น่าประหลาดใจ เพราะกระแสตอนนั้นต่างมองในแง่ดี 

ด้วยการนำของเขาได้เปลี่ยนโฉมทีมจากทีมอันน่าผิดหวังและร้างความสำเร็จ ไปสู่มหาอำนาจตลอดห้าปีที่อยู่บนตำแหน่ง 

เป๊ป สร้างชื่อตั้งแต่คุม บาร์เซโลน่า เบ ก่อนมาเป็นบอสทีมชุดใหญ่หนึ่งปี ด้วยถูกขนานนามสุดยอดแห่งการวางแท็คติคและสามารถปลุกปั้นแข้งแววดีสู่ซูเปอร์สตาร์หลายคน ส่วนหนึ่งเพราะดีกรีสมัยเป็นนักเตะก็ไม่ธรรมดา 6 ลา ลีกา สเปนและหนึ่ง ยูโรเปี้ยน คัพ

กึ๋นโค้ชผสานบารมีมาครบ


แค่ปีเดียวหลังรับแต่งตั้งก็พาทีมได้แชมป์ชปล.2009, ลา ลีกา สเปน และ โกปา เดล เรย์ ด้วยการเล่นฟุตบอลเน้นรับ-ส่งครองลูก, เป็นลูกหนัง ติกิ-ตาก้า ชั้นสูง ถูกยกให้เป็นยุคทองอันน่าจดจำว่าทั้งเล่นดี ทั้งมีกล่อง

จากนั้นก็ได้อีก 2 ลา ลีกา สเปน, หนึ่ง โกปา เดล เรย์, 2 ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ และหนึ่งแขมป์ ชปล.พร้อมมรดกฟุตบอลแบบ เป๊ป ที่ทั่วโลกนิยมเอาเยี่ยงนั่นคือต่อบอลสั้นจากลูกตั้งเตะของผู้รักษาประตู


แฟร้งค์ แลมพาร์ด ( เชลซี)

สถานะตำนานสโมสรไม่คุ้มกะลาหัวคือนิยามที่ดี

แลมพาร์ด อุตส่าห์ยอมรับความท้าทายมาคุม เชลซี เมื่อซัมเมอร์ 2019 พร้อมข้อจำกัดห้ามเสริมทัพ 2 รอบตลาด ตามบทลงโทษ ฟีฟ่า 

ปรากฏว่าพาทีมจบท็อป 4 ตีตั๋วชปล.และเข้าชิงฯ เอฟเอ คัพ จนเกิดความคาดหวังและลงทุนซื้อตัวมหาศาลรวมกว่า 220 ล้านปอนด์ในซีซั่นต่อมา 

ซึ่งพอผลงานครึ่งฤดูกาลขาดความสม่ำเสมอ จึงต้องโดนเชือด 


เหตุผลอีกอย่างคือปลุกปั้นแข้งราคาแพง ไค ฮาแวร์ตซ์ และ ติโม แวร์เนอร์ ให้คายพิษสงไม่ออก 

นั่นเท่ากับว่าคุณความดีฐานะตำนานสโมสรผู้ยิงประตูสะสมมากสุดตลอดกาล 211 ลูกจากการเล่น 648 นัดระหว่างปี 2001 - 2014  กดไป 11 แชมป์รายการ เมเจอร์ รวมถึงสี่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถูกลืมเลือนจนหมด 


โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ( แมนฯ ยูไนเต็ด

สมัยเป็นผู้เล่นได้สมญาว่า ‘เพชฌฆาตหน้าทารก’ ย่างเท้าเข้าโอลด์ แทรฟฟอร์ด ปี 1996 ด้วยสนนราคา 1.5 ล้านปอนด์  ตอบแทนผลงาน 126 ประตูจากการเล่น 368 นัด โดยไฮไลท์คือสกอร์ท้ายเกมนัดชิงฯ แชมเปี้ยนส์ ลีก 1999 ซีซั่นทริปเปิ้ล-แชมป์

ครั้นพอเปลี่ยนหน้าไปสู่ผจก.ทีมในทีแรกให้รักษาการแทน โชเซ่ มูรินโญ่ เมื่อธ.ค.2018 แล้วปรากฏเก็บชัยได้ต่อเนื่องจึงซิวสัญญาฟูลไทม์ 

ทว่าด้วยประสบการณ์แค่คุมทีมเล็กอย่าง โมลด์ ในนอร์เวย์กับ คาร์ดิฟฟ์ ลีกรองอังกฤษทำให้พอมาเจองานไซส์ใหญ่เกิดปัญหา


บารมีฐานะเฮดโค้ชที่จัดว่าต่ำจนยากคุมแข้งดาราอีโก้สูง บวกไอเดียฟุตบอลไม่หวือหวาและผลงานติดหล่ม ร้างความสำเร็จรูปธรรมก็ทำให้ โอเล่ สุ่มเสี่ยงตกงาน 


อันเดรีย ปีร์โล่ (ยูเวนตุส) 

กองกลางเชิงสูงผู้นำพา ยูเวนตุส เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพระหว่าปี 2011-2015 จนคว้าสคูเด็ตโต้สี่ปีติด บวกอีกหนึ่ง โคปปา อิตาเลีย 

ปีร์โล่ ไปทิ้งทวนอาชีพยัง นิวยอร์ก ซิตี้ เอฟซี สองปีก็โดน ยูเว่ ตามตัวจับงานโค้ชเดิมตั้งใจให้คุมทีมสำรอง 

แต่เมื่อสโมสรความเห็นไม่ลงลอยกับเฮดโค้ช เมาริซิโอ ซาร์รี่ แล้วแยกทางกัน ทางผู้บริหารก็เลือกเดิมพันกับ ปีร์โล่ ทั้งที่ไม่มีประสบการณ์คุมทัพที่ใดมาก่อน

นั่นทำให้ความพยายามหลอมรวมสไตล์ของโค้ชในดวงใจอย่าง โยฮัน ครัฟฟ์, เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, หลุยส์ ฟาน กัล, คาร์โล อันเชล็อตติ หรือ อันโตนิโอ คอนเต้ ผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นดังหวัง ทีมฟอร์มขาดความสม่ำเสมอ 


แชมป์โคปปา อิตาเลีย 2021 ไม่ดีพอเป็นเครื่องลางคุ้มภัยในเมื่อพลาดสคูเด็ตโต้ แถมด่วนหยุดเส้นทางในรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก 

นำมาซึ่งการโดนไล่ออกตอนสิ้นฤดูกาลยุติความสัมพันธ์เพียงปีเดียว


คาร์โล อันเชล็อตติ (เอซี มิลาน)

กุนซือมากประสบการณ์ที่ตระเวนคุมทีมทั่วยุโรป โดยภาพรวมของเขาฐานะอดีตผู้เล่น จนก้าวสู่เฮดโค้ช เอซี มิลาน จนอยู่ในประเภทประสบความสำเร็จ

‘อันเช่’ เล่นให้ มิลาน ยุคทองระหว่างปี 1987-1992 ได้แชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ 2 สมัย และสองสคูเด็ตโต้ ทำให้สนใจเบนเข็มสู่หน้าที่ฝึกสอน 

ช่วงตั้งไข่ที่ เรจจิน่า, ปาร์ม่า และ ยูเวนตุส ถือว่าล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่ทาง ‘รอสโซเนรี่’ เห็นแววจึงลองให้โอกาส 

ปรากฏว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาสรรค์สร้างทีมอันกลมกล่อมเมื่อถอน อันเดรีย ปีร์โล่ เป็นตัวคุมจังหวะจากกองกลางห้อยต่ำ ส่วนคู่หน้าสุดร้อนแรง อันเดร เชฟเชนโก้ กับ ฟิลิปโป้ อินซากี้


นำมาซึ่งแชมป์ ชปล. 2 หนจากการเข้าชิงฯสามครั้ง ปีที่เฮคือ 2003, 2007 ส่วนปีผิดหวัง 2005 เสียท่าในการยิงเป้าแก่ ลิเวอร์พูล 

ส่วนบนเวที เซเรีย อา กดแชมป์ปี 2004 พร้อมปลุกปั้น ริคาร์โด้ กาก้า สู่สุดยอดเพลย์เมกเกอร์ดีกรี บัลลง ดอร์


ซีเนดีน ซีดาน (เรอัล มาดริด) 

ซีดาน สมัยเป็นผู้เล่น มาดริด คือยุคกาลาติกอสระหว่างปี 2001-2006 มีไฮไลท์คือยิงประตูชัยสุดสวยใส่ เลเวอร์คูเซ่น นัดชิงฯ จนคว้าแชมป์ปี 2002 

พอหันหลังให้งานนักเตะ ซีดาน ก็มุ่งมั่นเอาดีงานโค้ช ได้โอกาสจาก ‘ราชันชุดขาว’ ให้คุมทีม กาสตีย่า จนกระทั่งโอกาสให้โปรโมทคุมชุดใหญ่เข้ามาปี 2016 ก็ต้องรับไว้แม้ยังไร้ประสบการณ์กุมบังเหียนทีมซีเนียร์ 

กลายเป็นว่าซีซั่นนั้นได้แชมป์ ชลป. แล้วกดอีกในสองปีต่อจนเป็นแฮตทริกเจ้ายุโรป จากนั้นขอลาออกเอง 

มาในซีซั่น 2019-20 หวนกลับมาคุมทัพเต็มตัวอีกครั้งก็กดแชมป์ ลา ลีกา สเปน สำเร็จ จนมาฤดูกาลก่อนที่ร้างความสำเร็จติดมือจึงแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกซึ่งสโมสรก็เข้าใจอนุญาตไปพักสมอง 


แกรม ซูเนสส์ (ลิเวอร์พูล)

แกรม ซูเนสส์ คือเหยื่อแห่งความล่มสลายของ ลิเวอร์พูล หลังจากเกรียงไกรมากว่าสามทศวรรษ ดังนั้นพอทะเล่อทะล่าเข้ามารับตำแหน่งต่อจาก เคนนี่ ดัลกลิช ทุกอย่างจึงพังพินาศ 

สมัยค้าแข้ง ซูเนสส์ ร่วมคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ถึงสามสมัย บวกอีกห้าแชมป์ลีกสูงสุด ณ เวลานั้น 

แต่พอมารับบทผจก.ทีมอยู่สามปีไม่สามารถถ่ายทอดความรู้เชิงลูกหนังสู่ความสม่ำเสมอบนเวทีฟุตบอลลีกส่งผลให้จบอันดับ 6 รวด มีแชมป์เอฟเอ คัพ 1992 ปลอบใจใบเดียว 


ส่วนหนึ่งเพราะยอดแข้งอย่าง เอียน รัช, จอห์น บาร์นส์ และ สตีฟ แม็คมาน อยู่ช่วงลง ส่วนเลือดใหม่ สตีฟ แม็คมานามาน กับ เจมี่ เร้ดแน็ปป์ ยังกระดูกอ่อนไป 

ฟางเส้นสุดท้ายเกิดฤดูกาล 1993-94 เมื่อแฟนบอลไม่ปลื้มสไตล์การเล่นเป็นทุน พอตกรอบ 3 เอฟเอ คัพ เพราะแพ้แก่ บริสตอล ซิตี้ ทำให้อดีตกัปตัน ‘หงส์แดง’ แสดงความรับผิดชอบลาออก


โยฮัน ครัฟฟ์ (บาร์เซโลน่า) 

ตำนานวงการฟุตบอลทั้งฐานะผู้เล่นและเทรนเนอร์ จนถูกขนานนามเป็นสถาปนิกผู้ออกแบบ ‘โททัล ฟุตบอล’ ซึ่งส่งอิทธิพลให้โค้ชรุ่นหลังนำไปพัฒนาต่อยอดในฉบับของตัวเอง 

ย้อนไปเมื่อปี 1973 ครัฟฟ์ ย้ายเข้าสังกัด บาร์เซโลน่า ฐานะผู้เล่น แบกทีมคว้าแชมป์ประเทศหนแรกในรอบ 14 ปี

ครั้นพอเป็นเทรนเนอร์ก็คุมลูกน้องอย่าง โรนัลด์ คูมัน, เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หรือ ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ คว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ หนแรกประวัติศาสตร์สโมสรปี 1992 

ความสำเร็จอื่นฐานะเฮดโค้ชก็ได้แก่ ลา ลีกา 4 สมัย, 1 โกปา เดล เรย์ และ1 คัพ วินเนอร์ส คัพ

เบื้องหลังเกียรติยศมาจากพื้นฐานการทำงานหนักและมองการณ์ไกล โดยคือผู้ริเริ่มเอาลิงชิงบอลมาเป็นโปรแกรมซ้อม, เน้นพัฒนาศูนย์ฝึกความเป็นเลิศเยาวชนอย่างสถาบัน ลา มาเซีย เพื่อปลูกฝังทั้งปรัชญาลูกหนังควบคู่จริยธรรมแก่เลือดใหม่ 

อย่างไรก็ตาม 2 ปีสุดท้ายในตำแหน่งร่างแชมป์ บวกไปงัดปธ.สโมสร โจเซป หลุยส์ นูนเญซ ส่งผลให้โดนไล่ออก 


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})