หน้าตาทีมหงส์ในอนาคตจากนี้

เว็บไซต์ ดิส อิส แอนฟิลด์ วิเคราะห์เรื่องขุมกำลัง ‘หงส์แดง’ เวลานี้เล็กมาก อีกทั้งค่าเฉลี่ยทั้งทีมที่สูงขึ้น สวนทางประสิทธิภาพที่ลดต่ำลง 

จึงมองแนวทางความเปลี่ยนแปลงจากนี้ในหลายมิติมาให้ลองดูกัน

เรื่องแรกความโรยราตามวัยของกลุ่มใช้งาน

ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่อง 3 ตัวหลักไปเตะ แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ เพราะต่อให้อยู่พร้อมหน้า เรื่องค่าเฉลี่ยขุมกำลังที่มากขึ้นจะทำให้ ลิเวอร์พูล เจอวิกฤติผู้สูงอายุ

ปัจจุบัน 27 ขุมกำลังในทีมชุดใหญ่ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 27.3 ปี พอๆกับทั้ง แมนฯ ซิตี้ หรือ เชลซี ทว่าเมื่อไปจำเพาดูตัวใช้งานประจำของ คล็อปป์ พบว่าแตะหลัก 30 ในปี 2022 หลายหน่อ 

สมมุติเอาแค่ช่วงเวลาที่ คล็อปป์ ยังอยู่ในสัญญาซีซั่นสุดท้ายกัปตัน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จะปาเข้าไป 33 กะรัต 

เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ หรือ โฌแอล มาติป แตะปีที่ 32 

สามประสานแดนหน้าหากยังอยู่ครบก็ 31 ปีกันหมด 

หรือแม้แต่ ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ อาลีสซง เบ็คเกอร์ ก็จะมีเลข 3 นำหน้าอายุ

หากรอให้ถึงตอนนั้นโดยไม่ทำอะไรเลย สภาพทีมจะยืนระยะครบ 90 นาทีหรือเปล่าก็ตอบลำบาก 

ดังนั้นสิ่งที่ ‘เจเค’ ต้องทำจากนี้คือสั่งสมขุมกำลังเลือดใหม่เพื่ออนาคตด้วย 

เพราะอย่าลืมว่านักเตะหลายคนที่ตบเท้าเข้าแอนฟิลด์มานั้นเพราะบารมี ‘เจเค’ มีส่วนอย่างมาก 

ด้วยเสน่ห์แบบคุณพ่อ, สไตล์การเล่น และใครมาอยู่ด้วยต่างถูกขัดเกลาให้พัฒนาขึ้น - เคสบารมีกุนซือยก ติอาโก้ อัลกันตาร่า มาเป็นกรณีศึกษาได้เลย 

คุณงามความดีที่ คล็อปป์ มอบแก่ ลิเวอร์พูล ร่วมทศวรรษคงถูกจดจำไปตลอดกาล แล้วมันจะยิ่งเท่หากทิ้งมรดกล้ำค่าเป็นขุมกำลังคุณภาพสายเลือดใหม่ให้คนรับไม้ผลัดได้ต่อยอด 

เรื่องต่อมาคือผลงานช่วงหลังที่ลดความดุดันไปเยอะ - จะปรับปรุงไปแบบไหน

เห็นได้เลยพอเข้าเดือนธ.ค.เป็นต้นมาทีมไม่มีชนะสวยๆเหมือนเคยแถมแต้มหล่น กระเสือกกระสนในแต่ละเกมกว่าจะเอาตัวรอดได้ 

ขุมกำลังที่แรงหมดชัดเจนคือกัปตัน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ผลงานแผ่วมาเยอะ 

แม้ยังพอให้ เจมส์ มิลเนอร์ ลงมาผ่อนบ้างแต่นั่นไม่ใช่คำตอบสำหรับตัวจริงไปตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาลเมื่อแกปาเข้าไป 36 ปี 

ซึ่งมันก็ย้อนไปถึงปัญหาเดิมๆคือขุมกำลัง ลิเวอร์พูล ใหญ่สู้ เชลซี หรือ แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้ 

ดังนั้นการเอาตัวรอดใต้สถานการณ์ลำบากสามเกมจากนี้ที่ต้องพบ เบรนท์ฟอร์ด, คาราบาว คัพ รอบรองฯ นัดสอง เยือน อาร์เซน่อล และ คริสตัล พาเลซ ก่อนจะเบรกครึ่งซีซั่น จึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เพราะมันส่งผลต่อความสำเร็จบั้นปลาย 

ประเด็นสุดท้ายคือสโมสรจะดำเนินไปในทิศทางไหนเมื่อแยกทางผอ.กีฬา ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ 

ทราบโดยทั่วกันว่ากูรูซื้อ-ขายคนนี้จะไม่อยู่ที่แอนฟิลด์อีกต่อไปเมื่อสิ้นฤดูกาล 2021-22 

ก็ให้น่าเสียดายเพราะ เอ็ดเวิร์ดส์ มีบทบาทมากๆในการเสริมแข้งคุณภาพเพื่อสนับสนุน คล็อปป์ ล่าแชมป์ กางชื่อตัวเด่นๆอย่าง ฟาน ไดค์, อาลีสซง, ฟาบินโญ่ รวมถึงอีกหลายคนล้วนผ่านการดึงมาโดยผอ.กีฬาคนเก่ง 

ความกังวลว่าหน้าใหม่ที่จะเข้ามา ฝีมือถึงหรือเปล่าเมื่อเทียบกัน 

แล้วไหนจะเรื่องน่าน้อยอกน้อยใจว่าช่วงหลัง เฟนเวย์​ สปอร์ตส์ กรุ๊ป กลุ่มเจ้าของทีมออกนโยบายรัดเข็มขัดอีก ภาพรวม ‘หงส์แดง’ จึงไม่สามารถต่อยอดยุคทองได้แบบทีมอื่น 

เพราะแค่สายเลือดใหม่ เคอร์ติส โจนส์, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, อิบราฮิม่า โกนาเต้ และ ไคเด้ กอร์ดอน ยังถือว่าน้อยไป 

จำเป็นต้องมีตัวคุณภาพอื่นๆมาเติมเพื่อสร้างชีวิตชีวาแก่ขุมกำลังอีกทางด้วย 

ทั้งหมดคือความท้าทายที่ คล็อปป์ ต้องเผชิญสำหรับการทำงานบนปีที่ 8 ในเมอร์ซี่ย์ไซด์