10ประเด็นจับตาก่อนปิดบัญชีอินเตอร์
1.
ความมั่นใจอักโขที่อินเตอร์พกมา
ทันทีที่ อินเตอร์ โดนลูบคมมาก่อน 0-2 ในเลกแรก ก็เหมือนว่าพวกเขาจะเสียทรงเมื่อไม่ชนะใครเลยในทุกรายการต่อเนื่อง 3 นัด
อย่างไรก็ตาม 4 วันก่อนการมาเยือนแอนฟิลด์อีกครั้งตั้งแต่ปี 2008 ลูกน้องของ ซิโมเน่ อินซากี้ สามารถปลุกไฟนักสู้ในตัวเมื่อไล่ถล่ม ซาแลร์นิตาน่า 5-0 บนเวที เซเรีย อา
เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ กดแฮตทริก, เอดิน เชโก้ ซัดเบิ้ล จึงนับว่าสองหอกตัวจริง ‘งูใหญ่’ เครื่องร้อนก่อนเดินทางสู่เมอร์ซี่ย์ไซด์
2. ไลน์อัพที่เป็นไปได้ของทีมเยือน?
ทีมจากอิตาลียังไม่มีกองกลาง นิโคโล่ บาเรลล่า ที่ติดโทษแบนฟุตบอลยุโรปเกมที่สอง, ตัวริมเส้น อิวาน เปริซิช รอทดสอบความฟิตหลังจากพลาดแข่งเกมวันศุกร์
โดยการแถลงข่าวของผู้ช่วยเฮดโค้ช มัสซิมิเลียโน่ ฟาร์ริส ยืนยันจัดชุดที่ดีสุดแล้วประกาศยังเน้นสร้างผลงานหาได้ขาดแรงจูงใจกับทริปเยือนแอนฟิลด์
เป็นไปได้ว่าจะใช้ไลน์อัพเดียวกับเกมถล่ม ซาแลร์นิตาน่า 5-0 แต่เปลี่ยน บาเรลล่า ออกให้ อาร์ตูโร่ วิดัล เล่นแทน
11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม : ฮันดาโนวิช - สคริเนียร์, เดอ ฟราย, บาสโตนี่ - ดุมฟรีส์, วิดัล, โบรโซวิช, ชาลาโนกลู, ดาร์เมี่ยน - เชโก้, เลาตาโร่
3. ฝั่งลิเวอร์พูลขาดใครไหม?
เกมเมื่อวันเสาร์ ลิเวอร์พูล ขาดสามแข้งซีเนียร์คือ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (ต้นขา), โฌแอล มาติป (ป่วย) และ ติอาโก้ อัลกันตาร่า (กล้ามเนื้อหลังเข่า)
แต่ล่าสุด คล็อปป์ ระบุว่าทั้ง 3 สามารถซ้อมไปตั้งแต่มื้อวันอาทิตย์ จนมีลุ้นเป็นตัวเลือกสำหรับเกมปิดจ๊อบ
อย่างไรก็ตามในรายของ บ็อบบี้ จำเป็นต้องเคี่ยงเข็ญพิเศษเสริมความเข้มของโปรแกรมฝึกเพื่อให้กลับมาเร็วสุด นอกจากนั้นภาพการซ้อมมื้อวันจันทร์ไม่ปรากฏปราการหลัง อิบราฮิม่า โกนาเต้
4. ผู้เล่นตัวจริงตามคาดของลิเวอร์พูล
อาจมีการเปลี่ยนไม่กี่ตำแหน่งจำเพาะที่ปราการหลังตัวกลาง มาติป คงทวงตัวจริงจาก โกนาเต้ ส่วน 3 มิดฟิลด์ถือว่าลงตัวทาง ติอาโก้ ต้องรอโอกาสจากม้านั่งสำรองไปก่อน
ขณะที่ 3 กองหน้ามีเสียงเชียร์ส่ง ดิเอโก้ โชต้า ลงตัวจริงแต่ก็อย่างที่ทุกคนเห็นว่าเจ้าตัวยังไม่สมบูรณ์ 100%
โอกาสยืนพื้น ซาลาห์, มาเน่ และ หลุยส์ ดีอาซ ยังภาษีมากสุด
11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม : อาลิสซง - อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, มาติป, ฟาน ไดต์, โรเบิร์ตสัน - เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, เกอิต้า - ซาลาห์, มาเน่, ดีอาซ
5. คล็อปป์บ่นเรื่องกฎเปลี่ยนตัว
เป็นอีกครั้งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ บ่นเรื่องการอนุญาตเปลี่ยนตัวของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ยังให้แค่ 3 ต่างจากบอลยุโรปได้ห้าครั้ง โดยบอสวัย 54 ปีมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เอื้อประโยชน์แค่แก่ทีมใหญ่ แต่มันส่งผลดีต่อตัวนักเตะที่สุด
“จนถึงตอนนี้เราเล่นนัดชิงฯ คาราบาว คัพ วันอาทิตย์, จากนั้นเตะวันพุธ (เอฟเอ คัพ), บอลลีกวันเสาร์ และกำลังจะเล่นวันอังคาร (ชปล.) นั่นถือเป็นโปรแกรมแข่งที่ชวนสยอง” คล็อปป์ โอดโอย
“บางทีผมอาจจะเริ่มเศร้าต่อเรื่องดังกล่าว แต่แก่นที่สำคัญสุดประเด็นหนึ่งคือพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เราควรมีการเปลี่ยนตัวได้ 5 ครั้ง”
“ นั่นเพราะเรามีการแข่งขันในประเทศ 3 รายการ ที่อีเวนต์หนึ่งเปลี่ยนได้ 5 ครั้งแต่อีกอันทำไม่ได้”
“ เพราะต่อให้ทีมซึ่งไม่ได้อยู่เล่นครบ 3 รายการ, บางแค่สอง แต่บอกเลยว่ามันสร้างความแตกต่างให้อย่างมาก”
“ ผมก็ไม่เข้าใจทำไมถึงใช้เวลานานในการรับรู้ถึงประโยชน์ของมัน เพราะพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จำเป็นต้องรักษาเนื้อตัวผู้เล่นระดับหัวกะทิของตัวเองเช่นกัน”
6. พิชิตทั่วยุโรป
ผลงานของ ลิเวอร์พูล บนรายการชปล.ฤดูกาลนี้ยังสมบูรณ์แบบเมื่อชนะ 7 นัดติดเป็นหนแรกนับจากซีซั่น 2005-06
แล้วหากต่อยอดเป็น 8 นัดติด ก็จะเป็นหนแรกนับจากต.ค. 1984 ซึ่งตอนนั้นทีมของ โจ เฟแกน ทำไว้ชนะ 9 นัดติด
‘หงส์แดง’ ยังเป็นทีมเดียวในฤดูกาลนี้ที่ผลงานชนะ 100%
7. ความประทับใจของฟาบินโญ่!
กองกลางบราซิเลี่ยนได้ร่วมให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวโดยพาดพิงทีมเมตหน้าใหม่ หลุยส์ ดีอาซ ว่าปรับตัวไว
“ดีอาซ เล่นได้น่าประทับใจมากทั้งที่เพิ่งมาอยู่กับทีมได้เดือนเดียว งัดเอาผลงานระดับสูงมากออกมา โดยเฉพาะนัดชิงฯ คาราบาว คัพ พบ เชลซี ยกให้หมอนั่นเป็น 1 ในคนที่เล่นดีสุด”
“แมตช์ดังกล่าวเพิ่งนัดที่สามของหมอนั่นกับเราเอง มันน่าประทับใจจริงๆ หมอนั่นของดี; มันมักไม่ออกมาง่ายๆแบบนี้ที่สามารถเค้นผลงานระดับสูงทันทีเมื่อคุณโยกย้ายประเทศหรือลีกแข่ง”
“ เขาเหมือนอยู่ทีมนี้มานานแล้วจริงๆ”
8. คุณทราบหรือไม่?
ตั้งแต่ฤดูกาล 1981-82 หาก ลิเวอร์พูล ชนะได้มาก่อนในเลกแรก รอบน็อคเอาต์ยูโรเปี้ยน คัพ/ชปล. ทีมร่วงตกรอบอีกเพียงหนเดียว
มันเกิดเมื่อซีซั่น 2001-02 เมื่ออุตส่าห์ชนะ เลเวอร์คูเซ่น 1-0 แต่กลายเป็นว่าโดนเล่นงานคืน 2-4 เมื่อเยือน ไบ อารีน่า ในรอบก่อนรองฯ
อย่างไรก็ตามทั้งหนฤดูกาล 1981-82 หรือ 2001-02 เกิดเพราะเลกแรกเตะที่แอนฟิลด์ จากนั้นเยือนคู่แข่ง
ทว่าซีซั่นนี้ขโมยชัยจาก จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า มาก่อนแล้วค่อยกลับมาปิดงานยังป้อมปราการแอนฟิลด์
9. ใครคาบนกหวีดตัดสินเกม?
อันโตนิโอ มาเตว ลาโอซ (สเปน) คือคนทำหน้าที่เกม ณ แอนฟิลด์ อังคารนี้ ก็ถือเป็นเชิ้ตดำมากประสบการณ์ที่คุ้นหน้าฟุตบอลระดับนานาชาติ
ลาโอซ ทำหน้าที่เป่านัดชิงฯ ซีซั่นก่อนระหว่าง เชลซี พบ แมนฯ ซิตี้ รวมถึงผลงานโดดเด่นตอน ยูโร 2020
ประวัติที่ผ่านมาตัดสินเกม ลิเวอร์พูล ลงเตะสี่นัดทีมชนะ 2, เสมอ 1 และแพ้ 1 หนล่าสุดเกมชนะ ปอร์โต้ ปี 2019
ไฮไลท์คือเป็นคนไล่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ออกจากสนาม เอติฮัด เกมเจอ ซิตี้ 2018 ซึ่งฤดูกาลดังกล่าว ‘หงส์แดง’ ถึงนัดชิงฯ
10. ติดตามการถ่ายสดทางไหน!
บอลเตะ 20:00 น.ท้องถิ่นอังกฤษหรือ 03:00 น.เข้าเช้าพุธเวลาไทย ถ่ายทอดทาง บีอิน สปอร์ต 1 ช่อง 607 ของ ทรู วิชั่นส์
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT