กางโผความเป็นได้กับเจ้าของใหม่หงส์
‘เอฟเอสจี’ ออกแถลงการณ์เมื่อจันทร์ที่ผ่านมาว่าต้องการขายกิจการให้กลุ่มทุนใหม่ โดยอ้างเรื่องสถานะขอนไม้คงส่งออกทะเลได้เท่านี้ ต่อไปภาคหน้าควรมีเรือใหญ่พาล่องมหาสมุทร
แต่หลายฝ่ายก็ตีความว่าที่กลุ่มทุนมะกันยอมปล่อยมือจาก ‘หงส์แดง’ ทั้งที่เป็นทีมขาขึ้นก็เมื่อเข้าซื้อกิจการที่แอนฟิลด์ ปี 2010 ด้วยมูลค่า 300 ล้านปอนด์
เวลาผ่าน 12 ปีพร้อมจำหน่ายต่อในตัวเลขไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านปอนด์หรือกว่า 13 เท่า
ว่ากันว่าเพราะเสื่อมความน่าศรัทธาลงไป
เหตุจากรอยด่างพร้อยกรณีคิดร่วม ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ ลีก จนภาพลักษณ์, ขนบอันสูงส่งของสโมสรแปดเปื้อน ตามความเห็นของเหล่า ‘เดอะ ค็อป’
ไม่ใช่ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป แล้วจะเป็นใครดี รวบรวมสถานการณ์ล่าสุดมาให้ดู
เซอร์ จิม แร็ตคลิฟฟ์ แห่งอาณาจักรปริโตรเคมี อินีออส
บุรุษที่มั่นคั่งสุดแห่งสหราชอาณาจักร จึงถูกมองว่ามีศักยภาพจะเอาเงินก้อนโตฟาดฮุบกิจการที่แอนฟิลด์เพื่อบริหารต่อไป
น่าเสียดายเป็นเรื่องที่ ‘เดอะ ค็อป’ เราคิดเข้าข้างตัวเอง
แร็ตคลิฟฟ์ ปัจจุบันเป็นเจ้าของสโมสร นีซ แห่ง ลีก เอิง ฝรั่งเศส แล้ว เคยพยายามทาบซื้อ เชลซี แต่ล้มเหลว ขณะที่เจตนารมณ์สูงสุดคือฮุบกิจการ แมนฯ ยูไนเต็ด จากตระกูลเกลเซอร์ ทว่ามหาเศรษฐีมะกันไม่ยอมขาย
นั่นทำให้นักธุรกิจวัย 70 กะรัต เลือกโฟกัสกับ ‘อินทรีรีเวียร่า’ ดีกว่ามาซื้อทีมซึ่งตัวเองไม่ได้ซาบซึ้งด้วยอย่าง ‘หงส์แดง’
“ตำแหน่งของเราพัฒนาขึ้นตั้งแต่ซัมเมอร์ที่ผ่านมา แล้วเวลานี้เรามุ่งเน้นอย่างกระตือรือร้นต่อ นีซ มีความทะเยอทะยานผลักดันมีมเป็นหัวแถวลีก เอิง ฝรั่งเศส เพื่อต่อกร ปารีส แซงต์-แชร์กแมง” โฆษกของ อินีออส เปิดปากกับ ‘เทเลกราฟ ฟุตบอล’
“นี่คือการแสดงตัวให้เห็นถึงคุณค่าที่ดีกว่าในการลงทุนขององค์กร มากกว่าไปซื้ออีกทีมหัวแถวพรีเมียร์ลีก อังกฤษ”
ชัดเจน เข้าใจตรงกันนะว่าเจ้าสัวขอผ่าน!
ตระกูลริคเก็ตต์ส
โธมัส เอส.ริคเก็ตต์ส สัญชาติอเมริกัน ผู้ร่วมก่อตั้ง อินแคปิตอล แอลแอลซี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าของแฟรนไชส์เบสบอล ชิคาโก คับส์
ตระกูลเก่าแก่นี้คลุกคลีกับการบริหารทีมกีฬาในสหรัฐฯมานาน
ดังนั้นอยากลองหาประสบการณ์เจ้าของกีฬาชนิดอื่นนอกบ้านเกิดเมืองนอนบ้าง แล้วก็ดูหลงใหลซอคเก้อร์อังกฤษเป็นพิเศษ
อย่างต้นปีที่ผ่านมาลองเสนอตัวเทคโอเวอร์กิจการ เชลซี แต่ก็พ่ายในเกมธุรกิจให้ ท็อดด์ โบห์ลี่ กับพันธมิต
ก็ไม่แปลกตระกูล ริคเก็ตต์ส ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอยากแตะมือจาก ‘เอฟจีเอส’
แต่ล่าสุดผู้สื่อข่าวจาก ‘เทเลกราฟ ฟุตบอล’ แจ้งแล้วว่าครอบครัวกีฬานี้ไม่อยากได้ ลิเวอร์พูล
https://twitter.com/Matt_Law_DT/status/1590077149398327297
เศรษฐีเบอร์เกอร์ที่รวยกว่าเจ้าของซิตี้6 เท่า
ชื่อของ สตีเฟ่น ปายูก้า โผล่มาเป็นอีกชอยส์แล้วดูกระแสแรงทีเดียว
อดีตผู้อำนวยการบริหารแฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดระดับโลกอย่าง เบอร์เกอร์ คิง ซึ่งไม่กี่เดือนก่อนนี้ง้างจะร่วมแข่งซื้อ เชลซี แต่ก็ชิงถอยตั้งหลักก่อน - มาตอนนี้พร้อมเข้าเสนอตัวดูแลกิจการที่แอนฟิลด์
ปายูก้า เจ้าของบริษัท เบน แคปิตอล ถูกประเมินว่ามีทรัพย์สิน 112,000 ล้านปอนด์ มากมายกว่า ชีคห์ มันซูร์ เจ้าของ แมนฯ ซิตี้ ถึงหกเท่า
แกยังไม่ใช่พวกไร้ประสบการณ์ในวงการกีฬาเพราะถูกหุ้นใหญ่ 55% ของ อตาลันต้า แห่งเซเรีย อา อิตาลี และเจ้าของร่วมแฟรนไชส์บาสฯเอ็นบีเอ บอสตัน เซลติคส์
แล้วทาง ‘ดิ แอธเลติค ฟุตบอล’ เชื่อว่ารายนี้โอกาสมากสุดเพราะนอกจากรวย ยังมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับทาง ‘เอฟจีเอส’
พันธมิตรเร้ดเบิร์ด แคปิตอล
‘เอฟเอสจี’ เจ้าของหลัก ลิเวอร์พูล เอฟซี ขายหุ้น 10% ให้กลุ่มนักลงทุนซึ่งซ่องสุมกำลังกัน ณ ฐานบัญชาการมหานครนิวยอร์ก ในนาม เร้ดเบิร์ด แคปิตอล พาร์ตเนอร์ เมื่อปี 2021 ส่งผลให้มูลค่าทีมเพิ่มขึ้นถึง 5.32 พันล้านปอนด์
แล้วมันทำให้สโมสรพอจะประคองตัวรอดพ้นวิกฤติการระบาดของโควิด-19
มาถึงตอนนี้ พันธมิตรเร้ดเบิร์ด อาจจะสนใจก้าวเป็นหุ้นใหญ่แห่งแอนฟิลด์เมื่อ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป อยากวางมือ
ถ้าแถลงการณ์จาก ‘เอฟจีเอส’ มาเร็วกว่านี้สัก 4-5 เดือนก็อาจลุ้นให้กลุ่มทุนนกแดงมาทาบ ลิเวอร์เบิร์ด ได้ - แต่พอมันล่วงเลยมาจะครึ่งปีก็ยากลงเอย
เมื่อพันธมิตรเร้ดเบิร์ด แคปิตอล ไปคว้า เอซี มิลาน แห่งเซเรีย อา อิตาลี มาอยู่ในความดูแล จนไม่มีทางชักหน้าถึงหลังซิว ลิเวอร์พูล ฟุตบอล คลับ อีกไหว
กลุ่มเศรษฐีนิรนามตะวันออกกลาง
‘เอฟจีเอส’ เคยถูกรายงานว่ามีข้อเสนอมูลค่า 3 พันล้านปอนด์ จากกลุ่มนิรนามแห่งตะวันออกกลาง ซึ่งจังหวะไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะเข้ามาก่อนกระแสร่วม ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก เมื่อ เม.ย. 2021
แน่นอนว่าโดน จอห์น ดับเบิ้ลยู. เฮนรี่ ปฏิเสธไป
ดังนั้นรอติดตามว่าเที่ยงนี้จะมาอีกไหมในตัวเลขที่มากกว่าเดิม
เซอร์ มาร์ติน โบรตั้น
ท่านเซอร์จะวกกลับมาสนใจ ลิเวอร์พูล หรือเปล่า?
นักธุรกิจชาวสหราชอาณาจักรเคยดำรงตำแหน่งปธ.สโมสรเมื่อปี 2010 กระทั่งขายส่งผ่านให้ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป
โบรตั้น อาจมีภาพจำเป็นแฟนบอล เชลซี มาทั้งชีวิต แถมเมื่อต้นปีพยายามเข้าเป็นเจ้าของทีมโปรดแต่ก็พลาดหวัง
โอกาสรีเทิร์นกับ ‘หงส์แดง’ ถือว่าน้อย แต่ที่แน่ๆเถ้าแก่คนนี้แกมีเงินพอซื้อกิจการ
ทุนจากดูไบซึ่งเชื่อมโยงครอบครัวราชวงศ์
‘หงส์แดง’ คือสินค้าที่ดึงดูดความสนใจจากตลาดเพราะหลังจากประกาศพร้อมขาย เพราะมันสะกิดความต้องการของกลุ่มทุนใกล้ชิดราชวงศ์สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ พร้อมเสนอตัวฮุบกิจการ
รายงานจาก ‘อาระเบี้ยน บิสซิเนส’ ว่าเศรษฐีน้ำมันในดูไบอยากเป็นเจ้าของทีม ลิเวอร์พ฿ล เพราะประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของสโมสร รวมถึงภาพลักษณ์คือแบรนด์ระดับโลก
โดยหนึ่งในขาประจำที่อยากบริหารยอดทีมแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์มานานอย่าง กลุ่มทุนดูไบ อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล (ดีไอซี)ที่พร้อมยื่นข้อเสนอมูลค่า 5,000 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ (ราว 4,300 ล้านปอนด์) ให้ ‘เอฟเอสจี’ พิจารณา
นี่ไม่ใช่หนแรกที่ ‘ดีไอซี’ พยายามซื้อกิจการ ลิเวอร์พูล เพราะเคยล้มเหลวครั้งหนึ่งเมื่อปี 2007 เมื่อถูกปัดดีล 360 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ (ราว 312 ล้านปอนด์) ตกไป
คนมีอิทธิพลสำคัญในการผลักดันโอกาสเทคโอเวอร์กิจการที่แอนฟิลด์คือมิสเตอร์ ซาเมียร์ อัล อันซารี่ อันมั่งคั่งแห่งสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ผู้ดำรงตำแหน่งประธานบริหารกลุ่มทุน
โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2014 ว่าจับตาสถานการณ์ ‘หงส์แดง’ มาตลอดเพราะตัวเองคืออีก ‘เดอะ ค็อป’ แถมถือตั๋วปีในแอนฟิลด์อีก
คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์
นักสู้ยูเอฟซีคนดังสัญชาติไอริช ฐานแฟนบอลสำคัญของ ลิเวอร์พูล แล้วเจ้าหนุ่มจากกรุงดับลินก็ถูกแวดล้อมไปด้วยเหล่า ‘เดอะ ค็อป’
งานนี้จึงรีทวีตเกาะว่าเขาสนใจอยากเทคโอเวอร์กิจการสโมสร ลิเวอร์พูล แม้ตลอดมาแสดงตนเป็นสาวก แมนฯ ยูไนเต็ด คู่อริแบบไม่เผาผีกันมาตลอดก็ตาม
“ถ้าซื้อได้ก็แจ่มเลย!” รีทวีตผ่าน @TheNotoriousMMA
“ก็จริงที่ว่าร้องขอข้อมูลเพิ่มเติมจากเรื่องดังกล่าวส่งมาให้ ...คงได้ความคืบหน้าเร็ววันนี้”
“โอกาสทองไม่ได้มาบ่อยๆ! สโมสร ลิเวอร์พูล ก็ขาใหญ่!”
อย่างไรก็ตามความเป็นไปได้ของนักสู้วัย 34 กะรัตจัดว่าน้อยหากจะลุยเดี่ยวไปซื้อทีม ลิเวอร์พูล เพราะไม่มีมีธุรกิจเงินถังขนาดนั้น นอกจากทรัพย์สินที่สะสมจากการบู๊ในกรง 8 เหลี่ยม
ครั้นจะไปผนึกกำลังกับเศรษฐีไอริชอื่นๆ มองว่าต้านทานฟ่อนธนบัตรดอลล่าร์ไม่ไหว
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT