:::     :::

สมาชิกพรีเมียร์ลีกเข้ารอแชมป์กันนานแค่ไหน?

วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 คอลัมน์ ฉันอยากไปเหยียบแอนฟิลด์ โดย เจ.บาร์ท
6,544
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
โหนกระแสนัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ 2023 ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด - นิวคาสเซิ่ล เสียหน่อยเพราะต่างรอแชมป์ใบล่าสุดของตัวเองพอสมควรอย่างรายแรกก็ 6 ปี ส่วนรายหลังเกิน 5 ทศวรรษ ขณะที่ทั้งลีกเป็นอย่างไรแวะดูหน่อย

ก่อนอื่นเรามานิยามแชมป์รายการสำคัญเสียก่อนว่ามีอะไรบ้าง สำหรับสโมสรจากอังกฤษ 

ไล่เรียงจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ, แชมเปี้ยนส์ ลีก/ยูโีรเปี้ยน คัพ, ยูโรปา ลีก/ยูฟ่า คัพ, แฟร์ส คัพ, คัพ-วินเนอร์ส คัพ 

ทราบรายการที่เข้าเกณฑ์แล้วก็เช็คผลงานเรียงตัว 

2022 – แมนฯ ซิตี้ – พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ลูกทีมของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ได้แชมป์ลีกหน 4 จาก 5 ฤดูกาลหลังสุด ด้วยชัยชนะสุดดราม่าเมื่อตัวสำรอง อิลคาย กุนโดกัน ลงมาทำ 2 ประตูให้ทีมปราบแซงปราบ แอสตัน วิลล่า 3-2 

คะแนนรวมเข้าป้ายเหนือ ลิเวอร์พูล ปลายจมูก 

ทั้งมันยังทำให้ กวาร์ดิโอล่า ลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดต่อเนื่องสามปีในซีซั่น 2022-23 หากทำได้จะขึ้นหิ้งเดียวกับ เฮอร์เบิร์ต แชปแมน, บ็อบ เพสลี่ย์ และ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน 

 

2022 - ลิเวอร์พูล– เอฟเอ คัพ 

เจอร์เก้น คล็อปป์​ เป็นผจก.ทีมคนแรกในประวัติศาสตร์สโมสรที่กวาดแชมป์รายการใหญ่สุดครบ 4 อีเวนต์ 

โดยแชมป์รายการสุดท้ายที่ยังไม่เคยสัมผัสนั้นทำได้เมื่อดวลจุดโทษชนะ เชลซี 6-5 หล้งจากเสมอในเวลา 120 นาทีแบบไร้สกอร์ 

คนซัดปิดกล่อง คอสตาส ซิมิกาส ทำให้ ซีซั่นนั้น ‘หงส์แดง’ เหมาแชมป์บอลถ้วยในประเทศทั้งสองรายการ ต่อจาก คาราบาว คัพ ทั้งยังปราบคู่แข่งหน้าเดิมด้วยการดวลเป้าทั้งหมด  

 

2021 – เชลซี – แชมเปี้ยนส์ ลีก

ความวินัยจัดของคนดอยช์มีอิทธิพลทำให้ เชลซี ปราบ แมนฯ ซิตี้ 1-0 ในนัดชิงฯชปล. เพราะประตูชัยจาก ไค ฮาแวร์ตซ์ ส่วนเฮดโค้ชเวลานั้น โธมัส ทูเคิ่ล

นับเป็นแชมป์สโมสรยุโรปรายการใหญ่สมัย 2 สโมสร แต่จากนั้น 15 เดือนทั้ง โรมัน อบราโมวิช แลพ ทูเคิ่ล ก็ต้องผละจากสแตมฟอร์ด บริดจ์ 

เพราะมีเจ้าของใหม่เทคโอเวอร์ แล้วก็จับจ่ายมือเติบเพื่อเสริมผู้เล่น  


2021 – เลสเตอร์ – เอฟเอ คัพ 

ลูกยิงไกลสุดเฉียบของ ยูรี่ ตีเลอมันส์ คือประตูชัย 1-0 ให้ เลสเตอร์ ปราบ เชลซี สำเร็จพร้อมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ หนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ใต้กึ๋นของผจก.ทีม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส 

สมาชิกชุดนั้น 4 คนประกอบด้วย แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, เวส มอร์แกน, มาร์ค อัลไบรท์ตัน และ เจมี่ วาร์ดี้ คือที่เหลืออยู่จากแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษประวัติศาสตร์ 2015-16 

ซึ่งร้านรับพนันเปิดเรตก่อนเริ่มฤดูกาลว่าจะแชมป์ที่ 5,000/1 

 

2020 - อาร์เซน่อล - เอฟเอ คัพ 

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง เหมาซัดให้ อาร์เซน่อล ปราบ เชลซี 2-1 นับเป็นถ้วยรางวัลเครื่องรางกันภัยแก่ มิเกล อาร์เตต้า เฮดโค้ชปีแรก

แต่ผลงานฮีโร่ครั้งนั้นไม่ช่วยให้ ‘โอบา’ ปักหลักที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ระยะยาว เนื่องจากทีมต้องการลดอายุผู้เล่น แข้งกาบองจึงพเนจรไป บาร์เซโลน่า กระทั่งวนกลับมาโดนดองยัง ‘สิงห์บลูส์’ 

 

2017 – แมนฯ ยูไนเต็ด – ยูโรปา ลีก 

ผจก.ทีม โชเซ่ มูรินโญ่ ยังแสดงให้เห็นความเขี้ยวในการเป็นนักล่าความสำเร็จเมื่อนำทีมปราบ อาแจ็กซ์ นัดชิงฯ 2-0 ที่ สต๊อคโฮล์ม 

เท่ากับซีซั่นนั้นได้ทั้งแชมป์ ยูโรปา ลีก และ ลีก คัพ เพราะชิงฯปราบ เซาธ์แฮมป์ตัน สำเร็จไปก่อนหน้า

ปอล ป็อกบา กับ เฮนริค มคิทาร์ยาน ทำคนละลูก โดยมีไฮไลต์คือ เวย์น รูนี่ย์​ถูกเปลี่ยนลงสำรองเพื่อสวมเครื่องแบบ ‘ปีศาจแดง’ เล่นส่งท้าย 

จากวันนั้นถึงวันนี้ก็กว่า 6 ปีที่ ยูไนเต็ด ร้างแชมป์ โดยหนล่าสุดที่เหงาๆความสำเร็จในเวลาอย่างต่ำ 6 ปีคือต้นทศวรรษ ’80


2008 – ท็อตแน่ม– ลีก คัพ 

เหมือนเป็นการประชดเมื่อดูชื่อผจก.ทีม คนล่าสุดที่พา สเปอร์ส ได้แชมป์คือ ฆวนเด้ รามอส เพราะไม่ใช่คนโปรด

แต่เขาก็เขี้ยวพอจะอาศัยประตูโทนของ โจนาธาน วู้ดเกต ประคองตัวเชือด เชลซี 1-0

จากนั้นทีมอุตส่าห์ปลุกปั้นโคตรหอก แฮร์รี่ เคน ขึ้นมา, อุดมด้วยกุนซือชื่อก้องอย่าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่, โชเซ่ มูรินโญ่ หรือ อันโตนิโอ คอนเต้ 

ทว่าก็ยังไม่มีแชมป์อย่างเป็นรูปธรรมอีก


1996 - แอสตัน วิลล่า – ลีก คัพ

แกเร็ธ เซาธ์เกต ผจก.ทีมชาติอังกฤษคนปัจจุบันคือส่วนหนึ่งของสมาชิก แอสตัน วิลล่า ชุดแชมป์ ลีก คัพ หนล่าสุดเมื่อ 27 ปีก่อน 

ทีมได้ประตูจาก ซาโว มิโลเซวิช, เอียน เทย์เลอร์ และ ดไวท์ ยอร์ค ปราบ ลีดส์ ของเฮาเวิร์ด วิลกินสัน 3-0 

จากนั้น 2 ปีผจก.ทีม ไบรอัน ลิตเติ้ล ก็แยกทางจาก วิลล่า พาร์ค ทิ้งให้ อูไน เอเมรี่ เฮดโค้ชลำดับที่ 14 นับจากตอนนั้นช่วย ‘สิงห์ผงาด’ ล่าความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมอีกที 


1995 - เอฟเวอร์ตัน – เอฟเอ คัพ 

ผจก.ทีม โจ รอยซ์ นำ เอฟเวอร์ตัน ผ่าน สเปอร์ส ในรอบรองฯกับศึกที่ถูกขนานนามว่าหมากัดกัน แล้วยังพลิกล็อคปราบ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 นัดชิงฯ จากประตูชัยของ พอล ไรด์เอาต์ 

ซึ่งนับจากนั้นสโมสรไม่มีถ้วยรางวัลอีกแม้จ้างผจก.ทีมชื่อชั้นดีๆอย่าง วอลเตอร์ สมิธ, เดวิด มอยส์, โรเบร์โต้ มาร์ตีเนซ, คาร์โล อันเชล็อตติ หรือ ราฟาเอล เบนีเตซ 


1992 – ลีดส์ – ดิวิชั่น 1 (เดิม) 

ลีดส์ เฉือน แมนฯ ยูไนเต็ด เข้าป้ายฐานะแชมป์ ดิวิชั่น 1 อังกฤษ (เดิม) หนสุดท้ายก่อนที่จะรีแบรนด์สู่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ - นับเป็นพัฒนาการของ ‘ยูงทอง’ เพราะเพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาเพียง 2 ปี  

มันส่งให้ เฮาเวิร์ด วิลกินสัน เป็นผจก.ทีมชาวอังกฤษคนสุดท้ายที่คุมสโมสรได้แชมป์ลีก 

ขณะเดียวกันกัปตัน กอร์ดอน สตรัคคั่น ที่โดนขายจาก ‘ปีศาจแดง’ เมื่อ 3 ปีก่อนยังได้เอาคืนสังกัดเก่า 


1990 – ฟอเรสต์ – ลีก คัพ 

แชมป์เมเจอร์รายการสุดท้ายลำดับที่ 7 ของผจก.ทีม ไบรอัน คลัฟ แล้วใช้ไลน์อัพผู้เล่นอังกฤษทั้งหมดปราบ โอลด์แฮม ของผจก.ทีม โจ รอยซ์ 1-0

ประตูชัยจาก ไนเจล เจมสัน ต้นครึ่งหลัง 

คลัฟ รีไทร์ปี 1993 ผลงาน ‘เจ้าป่า’ ก็หัวทิ่มหัวตำ กระทั่งหล่นสู่ลีกรองเพิ่งได้ สตีฟ คูเปอร์ เฮดโค้ชคนปัจจุบันนำทัพกลับสู่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกครั้งรอบ 23 ปี 


1980 – เวสต์แฮม – เอฟเอ คัพ 

มีคนครึ่งล้านออกมาฉลองแชมป์เอฟเอ คัพ แก่ เวสต์แฮม ทีมจากดิวิชั่น 2 ขวัญใจผู้ใช้แรงงานแห่งมหานครลอนดอน 

เมื่อสามารถพลิกล็อคปราบ อาร์เซน่อล 1-0 จากวันนั้นถึงวันนี้คงเป็นทีมเดียวในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์รายการนี้แต่ไม่ได้เล่นลึกสูงสุด  

เทรเวอร์ บุ้กกิ้ง ผู้ทำประตูชัยถือว่ารูดซิปปากักวิเคราะห์ทางโทรทัศน์ให้เลิกวิจารณ์เสียๆหายๆ


1980 – วูล์ฟแฮมป์ตัน– ลีก คัพ 

แอนดี้ เกรย์ ผู้เล่นที่แพงสุดสหราชอาณาจักรขณะนั้นทำประตูโทนเชือดมหาอำนาจยุอย่าง ฟอเรสต์ ที่คุมโดยกุนซือทรงอิทธิพล ไบรอัน คลัฟ เพราะมีดีกรีแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ  หมาดๆ 

แต่ความสำเร็จต่อมากลายเป็นทุกขลาภเมื่อ วูล์ฟส์ เจอปัญหาทางการเงินในทศวรรษต่อมา จนหล่นไปสู่ดิวิชั่น 4 

ใช้เวลาหลายปีกว่าจะไต่มาถึงจุดนี้ 


1976 – เซาธ์แฮมป์ตัน – เอฟเอ คัพ 

ทีมจากดิวิชั่น 2 พลิกล็อคปราบตัวเต็ง แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยประตูชัยของแข้งโนเนม บ็อบบี้ สโต๊คส์ ต่อหน้าพระเนตรของ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 

ผจก.ทีม ลอว์รี่ แม็คมเมเนรี่ อาศัยความสำเร็จดังกล่าวดึงแข้งดังๆมาเล่นที่ เดอะ เดลล์ ช่วงหลายปีต่อมารวมถึง เควิน คีแกน, หรืออย่างแก๊งแชมป์เวิลด์ คัพ อลัน บอลล์ และ ปีเตอร์ ชิลตัน


1969 - นิวคาสเซิ่ล – แฟร์ส คัพ 

นิวคาสเซิ่ล เอาชนะ เฟเยนูร์ด, สปอร์ติ้ง ลิสบอน, เรอัล ซากราโกซ่า, เซตูบัล, กลาสโกว์ เรนเจอร์ส และ อุจเปสต์ ดอซซ่า ด้วยประตูรวม 6-2 ในรอบชิงฯ จนคว้าหนึ่งในแชมป์สโมสรรายการใหญ่ยุโรป 

กัปตัน บ็อบบี่ มันเคอร์ คือ 1 ใน 4 ขุนพลสกอตติชภายใต้บังเหียนผจก.ทีม โจ แฮร์วี่ย์ มีส่วนร่วมเข้าชิงฯฟุตบอลถ้วยอีก 4 รายการ, อันดับสองในลีก 


กลุ่มที่ยังรอแชมป์ประวัติศาสตร์ 

ฟูแล่ม (ชิงฯ เอฟเอ คัพ 1975), คริสตัล พาเลซ (ชิงฯ เอฟเอ คัพ 2016), ไบรท์ตัน (ชิงฯ เอฟเอ คัพ 1983), บอร์นมัธ (แชมป์ ชปช.อังกฤษ 2015), เบรนท์ฟอร์ด (แชมป์ .2 (เดิม) 1935 )

คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด