17วันส่งหงส์เข้าอู่ไมเนอร์เชนจ์หวังว่าจะดี
เริ่มที่กางคิวแข่ง 7 เกมของเดือนเมษายนออกมาก่อน ต้องบอกว่าสุดหิน เพราะคือ 4 จาก ‘บิ๊ก6’ และอีก 3 ทีมหนีตาย
แมนฯ ซิตี้ (เยือน) 1 เม.ย.
เชลซี (เยือน) 4 เม.ย.
อาร์เซน่อล (เหย้า) 9 เม.ย.
ลีดส์ (เยือน) 17 เม.ย.
ฟอเรสต์ (เหย้า) 22 เม.ย.
เวสต์แฮม (เยือน) 26 เม.ย.
สเปอร์ส (เหย้า) 30 เม.ย.
แค่สัปดาห์แรกของเดือนก็อาจกำหนดชะตาของสโมสรเมื่อเริ่มจากเยือน ซิตี้ จากนั้นสามวันล่องไปลอนดอนสู้ เชลซี แล้วค่อยวงกลับมารอรับมือ อาร์เซน่อล ที่แอนฟิลด์อีกสุดสัปดาห์
ผจก.ทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ นิยามว่าคือช่วงเวลากำหนดทิศทางสโมสรฤดูกาลนี้และฤดูกาลหน้าอย่างแท้จริง ช่วงเบรกยาวๆ 17 วันคงไม่ไปพักที่ไหน โฟกัสแค่คิวแข่งโหด 3 นัดข้างหน้า
1).เตรียมดีอาซให้พร้อมแบบฟิตสตาร์ตติดเลย
สมมุติถ้า คล็อปป์ ปั้น ดีอาซ ที่เจ็บเข่าไปหลายเดือนให้กลับมาสร้างผลงานเปรี้ยงปร้างทันที โอกาสพุ่งชนเป้าหมายหรือเอาตัวจากเมษายนสุดโหดก็พอเป็นไปได้
นับตั้งแต่ต.ค. 2022 ที่เดี้ยงไปก็ร่วม 5 เดือน หายมาตอนนี้เวลาเหมาะเจาะ
คงไม่ถึงขั้นเบียดตัวจริงทันที ให้ โคดี้ กัคโป ที่กำลังปรับตัวกับทีมได้แล้วออกสตาร์ตไปก่อ ส่วนดาวเตะโคลอมเบียค่อยสะสมเวลาแข่ง เคาะสนิมพลางๆ
เพราะไหนจะมี ดาร์วิ่น นูนเญซ ที่ถูกถ่างเล่นหน้าซ้าย, ไหนจะ ดิโอโก้ โชต้า หายเดี้ยงแล้ว หรือ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ พี่ใหญ่ของกองหน้าชุดปัจจุบันอีก
อาจจะปวดหัวหน่อยช่วงแรกในการหาเคมีที่ลงตัว แต่เมื่อจูนจนเจอ ’หงส์แดง’ ก็อาวุธครบมือไม่น้อยหน้าใคร
2).ตีโจทย์ชอยส์กองกลางให้แตก
การบาดเจ็บจนต้องปิดฤดูกาลของ สเตฟาน บายเซติช ทำให้ตัวเลือกในตำแหน่งกองกลาง ลิเวอร์พูล ลดลงอีกจากเดิมเขียมอยู่แล้ว
เพราะรายของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า หายหน้าไปแรมเดือน, กัปตัน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ก็เล่นต่อเนื่องหลายนัดไม่ไหว
ชื่อของ นาบี เกอิต้า, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน หรือ เคอร์ติส โจนส์ ก็ยากจะวางใจ
เป็นเหตุให้ ‘เจเค’ ผ่าทางตันปรับมาเล่นคู่กองกลาง 4-2-3-1 ในเกมชปล. รอบ 16 ทีม นัดสองเยือน เรอัล มาดริด จากปกติเล่น 4-3-3
เจมส์ มิลเนอร์ และ ฟาบินโญ่ เป็นคู่เบอร์#6
เวลาที่เหลือจากนี้ยังพอมี คล็อปป์ จะเขย่าเคมีอย่างไรเพื่อยังอยู่บนขนบวนลุ้นไปเตะชปล.ซีซั่นหน้ากับเขา
3).แก้ปัญหาเกมนอกบ้าน
ปัญหาใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ที่ห่วงสุดคือฟอร์มฐานะทีมเยือน หากจะแก้ให้หายก็ต้องทำตอนนี้ห้ามรออีกในเมื่อเหลือคิวแข่งไม่กี่นัด
ชนะแค่ 3 จาก 13 เกมนอกแอนฟิลด์ ช่างคนละเรื่องกับซีซั่นก่อนที่ดูถนัดเล่นนอกบ้านมากกว่า
วัดแค่ตารางผลงานเกมเยือน ‘หงส์แดง’ อยู่ที่ 13 จาก 20 ทีมในลีก แม้แต่ผจก.ทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ออกปากถึงความกังวล
แล้วต้นเม.ย.นี้พอพ้นเบรกทีมชาติจะเจิม 2 สนามยากทั้ง เอติฮัด สเตเดี้ยม ต่อด้วย สแตมฟอร์ด บริดจ์ - ฟอร์มที่ผ่านมาการโน้มน้าวว่าเราจะมี 6 แต้มเต็มยากจะเชื่อได้
หากบอกว่ามือเปล่ากลับเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดูมีน้ำหนักกว่า
เพราะขาดบอลบ๊วยอย่าง บอร์นมัธ ยังกล้าแพ้ให้โดนล้อ
4).หาตำแหน่งที่เหมาะแก่คาร์วาลโญ่, “อ็อกซ์”,อาร์ตูร์
โอกาสดีมากๆสำหรับ ลิเวอร์พูล ที่จะติวผู้เล่นระหว่างเบรกทีมชาติเพราะมีชุดใหญ่ของเราเพียง 12 คนโดนเรียกติดธง
นั่นหมายความเหลือไม่น้อยกว่า 17 ปีว่าง พร้อมถูกเคี่ยวเข็ญยังแอ็กซ่า เทรนนิ่ง เซนเตอร์
หนึ่งในนั้นคือ ฟาบิโอ คาร์วาลโญ่ ที่ไม่ได้เล่นพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มานานกว่า 4 เดือน กระทั่งลงไปเตะเวลาขยะเกมพบ บอร์นมัธ ช่วงทดเจ็บ
หลังฉากไม่แน่ใจว่าแข้งวัย 20 กะรัตไปทำอะไรให้ผจก.ทีมหรือสตาฟฟ์ขุ่นเคือง แต่เมื่อเวลาได้เยียวยามันแล้วก็ต้องทุ่มเทศักยภาพให้กุนซือเห็น
เช่นกันทีมก็ต้องหาให้เจอใช้ คาร์วาลโญ่ เล่นตรงไหนเข้าท่าสุด
อีกคนที่อยากฝากคือ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ครั้งหนึ่งคือดีกรีทีมชาติอังกฤษ แต่เมื่อเจอปัญหาเจ็บรบกวน จนแข่งแบบแปบๆเดี้ยงกล้ามเนื้อหลังเข่า
โผล่มาอีกทีฐานะสำรองที่ ซานติอาโก เบร์นาเบว เพิ่งทราบอายุปาเข้าไป 29 กะรัต
อาร์ตูร์ เมโล่ ก็ดูเป็นอีกคนที่ควรรับโอกาสยิ่ง บายเซติช เดี้ยงทั้งซีซั่นแล้ว
5).เดินหน้าแผนงานเสริมทัพได้เลย
ของมันต้องมีแน่ๆคือกองกลางเพราะ นาบี เกอิต้า, ‘อ็อกซ์’ หมดสัญญาผูกมัด
อาร์ตูร์ หมดสัญญายืมตัว, เจมส์ มิลเนอร์ ลูกผีลูกคนว่าจะเอาสัญญาปี-ต่อ-ปี หรือผันไปจับงานโค้ชเลย
จุดอื่นที่อาจเสริมมองที่แบ็กขวามาแย่งตำแหน่งกับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เซนเตอร์แบ็กเท้าซ้ายฯลฯ
ที่พอมองข้ามได้เป็นกองหน้าในโควตา โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่จะหมดสัญญาเช่นกัน เพราะเวลานี้ยูนิตแดนบนถือว่าแน่นสุด
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT