เมอร์ฟี่ฝากไว้ให้คิดบทเรียนจากเบลลามี่

ปูเรื่องก่อนว่า เบลลามี่ ที่ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยของเฮดโค้ช แว็งซ็องต์ ก็องปานี ที่ เบิร์นลี่ย์ จ่าฝูงแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ถูกศาลฟ้องล้มละลาย 

ไม่มีแม้แต่บ้านหรือรถยนต์เป็นสมบัติของตัวเอง 

สาเหตุแห่งความถังแตกไม่เหมือนพ่อค้าแข้งส่วนใหญ่ที่ติดเหล้า, ยาเสพติดหรือการพนัน 

เคสของเบอร์#2 แห่งเทิร์ฟ มัวร์ คือหลงเชื่อผู้ให้คำแนะนำผิด ชวนไปลงทุนในกิจการแล้วเจ๊งไม่ว่าโปรเจคต์อสังหาริมทรัพย์ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หรือที่คาร์ดิฟฟ์ แคว้นเวลส์ 

นอกจากนั้นยังมีธุรกิจไวน์บาร์-สเต๊กเฮาส์ ที่ล้มเหลว, สะสมนาฬิกาหรูเพื่อเก็งกำไรแต่ก็โดนโกง แถมมาถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังบวกค่าปรับอีกมหาศาล 

ทั้งหมดที่กล่าวมาทำ ‘เบลเลอร์’ สิ้นเนื้อประดาตัว ถูกฟ้องล้มละลายไม่สามารถมีทรัพย์สินใดเป็นของตัวเองจนกว่าเคลียร์คดีในศาลจบ 

อุทาหรณ์สอนใจเด็กรุ่นหลังเรื่องนี้คือสิ่งที่ เมอร์ฟี่ ฐานะศิษย์พี่แห่ง ลิเวอร์พูล อยากหยิบไปเตือนสติแข้งเพิ่งร่ำรวยให้ใช้เงินอย่างชาญฉลาด

- มันเป็นสิ่งน่ากระอักกระอ่วนที่ได้ยินเรื่องว่านักฟุตบอลต้องเผชิญปัญหาทางการเงิน แต่ส่วนที่เศร้าใจสุดคือเรื่องพรรค์นี้ไม่ได้สร้างความประหลาดใจอีกต่อไป- เมอร์ฟี่ เริ่มกล่าวในคอลัมน์ของเขา

ผมเห็นใจ เคร็ก เบลลามี่ เพราะปัญหาพรรค์นี้เกิดกับเขามาก่อน แล้วผมกลัวว่ามันคงดำเนินต่อไป 

ก็หวังว่าการออกมาเปิดเผยปัญหาที่เขาติดหล่มอยู่จะทำให้น้องมันโล่งอกขึ้นบ้าง แล้วสำหรับพวกที่อ่านแต่พาดหัวแล้วมาแสดงความเห็นทำนอง - นักบอลที่หาเงินได้เป็นล้านปอนด์จะโดนฟ้องล้มละลายงั้นหรือ? - บางทีคนพวกนั้นควรทำความเข้าใจปัญหาที่หมอนั่นเผชิญด้วย 

ส่วนตัวผมเคยเปิดเผยเรื่องของตัวเองต่อสาธารณะมาแล้ว ว่าเผชิญภาวะซึมเศร้าอยู่ 2-3 ปีหลังจากแขวนสตั๊ด ก็มีหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้อง แน่นอนรวมถึงด้านการเงิน

เดชะบุญที่ เคร็ก ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับแอลกอฮอล์หรือยาเสพติดแบบที่ผมเคยผ่าน แต่การต้องเห็นเงินเราสูญไปเพราะหลงเชื่อคนให้คำแนะนำแย่ๆหรือถูกเชิดเงินไปดื้อๆนั้น - มันนำซึ่งความเครียดสะสมต่อตัวเอง 

วิถีทางแห่งชีวิตนักฟุตบอลอาชีพส่วนใหญ่เริ่มตั้งแต่ 5 ขวบไปถึงอายุ 30 กลางๆ เวลาทั้งหมดเราทุ่มให้เกม ดังนั้นเราจึงเชื่อใจหรือพึ่งพาให้คนอื่นมาคอยจัดการกับความมั่นคั่งทางการที่ไหลเข้ามา  

การใช้เงินในทางที่ผิดคือหนึ่งในปัญหาสำคัญของนักเตะในยุคพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แล้วมันตกความสนใจเพราะไม่ใช่เรื่องที่หวือหวาแบบกรณีนักเตะไปล่วงละเมิดหรือทำร้ายร่างกายผู้หญิง 

อย่างไรก็ดีปัญหาด้านการเงินก็เกิดขึ้นจริง 

พวกผู้เล่นไม่ใส่ใจเงินที่หามาได้เมื่อพวกเขายังฟันก้อนโตอยู่ และมันจะใจหายที่ตาตุ่มเมื่อคุณสิ้นสุดอาชีพแล้วพบว่าเงินที่เอาไปลงทุนเพื่อหวังเก็บกินไปทั้งชีวิตนั้นได้อันตรธานหมด

เอาจริงๆนักฟุตบอลอาชีพไม่ได้ง่าว แต่ทำไมทักษะด้านกีฬาและหน่วยก้านที่ดี ไม่สามารถทำให้เราเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการเงินที่ซับซ้อนได้บ้าง?

คงเพราะเรามันคนอาบเหงื่อต่างน้ำ แล้วถูกล่อลวงให้เชื่อในกิจการของพวกใส่สูทเนี้ยบๆ, โบชัวร์แผนงานเลิศหรู และชื่อบริษัทอันน่าหลงใหล

มันก็อาจจะเข้าท่าสำหรับบางคนเพราะบริษัทตัวแทนเพื่อการลงทุนเหล่านั้นมีคนให้คำแนะนำดีๆอยู่ แต่บางรายก็โชคร้าย 

เหมือนผู้เล่นคนอื่นๆอีกหลายราย ที่ผมไปมีส่วนร่วมรับทราบเรื่องราวของพวกเขาว่าเผชิญปัญหาโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังพร้อมค่าปรับอาน 

จนนำสู่การฟ้องร้องเป็นคดีความ, ถูกตำรวจรังควาน เหล่านั่นไม่ดีต่อสุขภาพจิตยิ่งเมื่อคุณหดหู่อยู่แล้วเพราะคิดถึงเกมลูกหนังที่รัก 

ผมมีเพื่่อนพ้องร่วมวงการ อดีตแข้งพรีเมียร์ลีก อังกฤษหลายรายเป็นบุคคลล้มละลาย 

ยอดเยี่ยมแล้ว เคร็ก ที่นายออกมาบอกเล่าเรื่องของตัวเอง - มึงไม่ได้เดินเดียวดาย 

ตัวอย่างนักฟุตบอลที่โชคชะตาเล่นตลกหลังแขวนสตั๊ด

ดีเอโก้ มาราโดน่า

ตำนานแข้งอาร์เจนไตน์ถูกฟ้องล้มละลายปี 2009 หลังจากเจ้าหน้าที่สรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลังมูลค่า 42 ล้านปอนด์ เพราะ ‘เสือเตี้ย’ หลบเลี่ยงชำระช่วงค้าแข้งให้ นาโปลี ระหว่างปี 1984 ถึง 1991

พอล แกสคอยน์ 

ผู้เล่นเจ้าปัญหาชาวอังกฤษหลีกเลี่ยงการเป็นบุคคลล้มละลายเมื่อปี 2011 เมื่อสามารถไกล่เกลี่ยกับสรรพากรและศุลกากรของสหราชอาณาจักร (เอชเอ็มอาร์ซี) ถึงแผนการผ่อนจ่ายภาษีค้างชำระ 42,000 ปอนด์ ภายใน 5 ปี 

แต่ถึงอย่างไรเมื่อถึงเส้นตายเขาก็ยังติดหนี้จ่ายไม่ครบ  

โรนัลดินโญ่ 

ดีกรีแชมป์โลกทีมชาติบราซิลถูกระงับหนังสอเดินทางเมื่อปี 2019 ฐานไม่จ่ายภาษีพร้อมค่าปรับแก่รัฐ 

ตามรายงานระบุว่ามูลค่ารวมของตัวเลขที่ ‘รอนนี่’ ต้องจ่ายสูงถึง 5 ล้านปอนด์