สาธุ๙๙ก่อนเลขมงคลสถิตหลังดาร์วิ่น
ประวัติเสื้อแข่งเบอร์ 9 ของ ‘หงส์แดง’ ระดับความเฮี้ยนไม่มากเท่าเบอร์ 7 ดังนั้นผู้สวมใส่จึงมีตั้งแต่ประสบความสำเร็จสุดๆ ไปจนถึงโคตรล้มเหลว
น่าติดตามว่าทรงอย่างแบด ดาร์วิ่น จะไปถึงขั้นใด
11. เอล ฮัดจิ ดิยุฟ
ดิยุฟ มาร่วมงาน ลิเวอร์พูล จาก ล็องส์ เมื่อซัมเมอร์ 2002 ปีเดียวกับที่แจ้งเกิดนามทีมชาติเซเนกัล ยังเวิลด์ คัพ ที่เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตามช่วงเวลาที่แอนฟิลด์ของกองหน้าแอฟริกาไม่ได้ออกมาดีอย่างหว่าง เมื่อทำไปแค่ 6 ประตูตลอดเวลาที่ร่วมงานกันปีแรก
ซีซั่น 2003-04 ยิ่งเลวร้ายลงอีกสำหรับเจ้าตัว เมื่อเป้าสะอาดตลอด 33 เกมลงเตะ - นับเป็นสถิติผิดปกและไม่เป็นที่ต้องการของผู้เล่นเบอร์ 9 จะสังกัดที่ไหน
ปัญหาวินัยก็เป็นอีกอย่างที่ ดิยุฟ เผชิญเมื่อโดนจดชื่อถึง 21 ครั้ง, สองใบแดง ฐานะ ลิเวอร์พูล
จากนั้นค่อยย้ายไปเล่นยืมตัวยัง โบลตัน แล้วขายขาดปี 2005
10. ยาโก้ อาสปาส
อาสปาส ย้ายจาก เซลต้า บีโก้ มาเล่นให้ ลิเวอร์พูล ปี 2013 สนนราคา 9 ล้านปอนด์
เพียงการเปิดหัวนัดแรกก็ดูเหมือนทรงดีเมื่อแอสซิสต์ให้ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ เกมเชือด สโต๊ค 1-0
อย่างไรก็ตามเรื่องผลงานทำประตูซัดแค่ 1 ลูก ในเกมเอฟเอ คัพ พบบอลต่ำช้ำ โอลด์แฮม
ปัญหาปรับตัวเข้ากับลูกหนังอังกฤษคือความท้าทายที่ยากข้ามของดาวเตะสแปนิช ไหนยังการแข่งขันแย่งตำแหน่งดุเดือด สุดท้ายต้องกลับ ลา ลีกา สเปน เล่นให้ เซบีย่า แบบยืมตัวจากนั้นย้ายแบบสิทธิขาดคืน เซลต้า บีโก้
ภาพรวมไม่เปรี้ยงของ อาสปาส ว่าแย่ แต่ที่น่าเขกกระโหลกขึ้นอีกคือภาพจำฐานะคนส่งบอลเสียเข้าเท้า วิลเลี่ยน ดาวเตะ เชลซี เมื่อปี 2014 จนบอลแพ้ 0-2 ปิดฉากหวังเลือนลางแย่งแชมป์ลีก
9. ริคกี้ แลมเบิร์ต
เคยเป็นเด็กจากอะคาเดมี่ที่โดน ลิเวอร์พูล ปล่อยทิ้งตอนอายุ 15 ปี ในที่สุด แลมเบิร์ต ก็ได้ตามฝันมาร่วมงาน ‘หงส์แดง’ ชุดใหญ่ในปี 2015 นับเป็นเส้นทางดังเทพนิยายบนวัย 32 กะรัต
อดีตกองหน้า เซาธ์แฮมป์ตัน ได้อยู่แอนฟิลด์ปีเดียวก็ย้ายออก สร้างผลงาน 3 ประตูจากการเล่น 36 เกม
เหยื่อคมแข้งของหอกผู้ดีได้แก่ คริสตัล พาเลซ, ลูโดโกเร็ตส์ และ แอสตัน วิลล่า ก็คงเป็นที่จดจำของเจ้าตัวตลอดไป
นอกจากนั้นก็ได้ยิงจุดโทษใส่ เบซิคตัส รอบ 32 ทีมยูโรปา ลีก น่าเสียดายบั้นปลายทีมแพ้
พอออกพ้นชายคาไป แลมเบิร์ต ก็สวมเครื่องแบบ เวสต์บอรมวิช, คาร์ดิฟฟ์ แล้วค่อยเลิก
8. คริสติย็อง เบนเตเก้
ดีกรีทีมชาติเบลเยียมมาเป็นสมาชิกลิเวอร์พูล ซัมเมอร์ 2015 ยุคผจก.ทีม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ด้วยค่าฉีกสัญญาออกจาก แอสตัน วิลล่า 32.5 ล้านปอนด์
ประสบการณ์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ติดตัวมาแล้วทำให้ไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก ใช้เวลาไม่นานก็เบิกประตูแรกใส่ บอร์นมัธ, โอเวอร์เฮด คิก พังตาข่าย แมนฯ ยูไนเต็ด
ทว่าพอ ‘บี.ร็อด’ โดนปลดต.ค. 2015 ให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ รับหน้าที่ผจก.ทีมแทน กราฟอาชีพ คริสติย็อง ในแอนฟิลด์ก็หัวดิ่งลง
นั่นเพราะเขาไม่สามารถปรับตัวเข้ากับระบบการเล่นของ ‘เจเค’ จนแร้นแค้นโอกาสลงตัวจริง
บทสรุป 10 ประตู จากการลงสนาม 42 นัดทุกรายการ เขาก็ปิดฉาก 1 ปีฐานะ ‘หงส์แดง’ เพื่อลงเอย คริสตัล พาเลซ
7. แอนดี้ แคร์โรลล์
แคร์โรลล์ มาร่วมงาน ลิเวอร์พูล ค่าตัวมหาศาล 35 ล้านปอนด์จาก นิวคาสเซิ่ล วันเส้นตายซื้อ-ขาย ตลาดมกราคม 2011 เพื่อทดแทน เฟร์นานโด ตอร์เรส ซึ่งขายไป เชลซี 50 ล้านปอนด์
ระหว่างปีแรก แคร์โรลล์ ทำได้แค่ 2 ประตู เกมพบ แมนฯ ซิตี้ ที่แอนฟิลด์
เข้าฤดูกาล 2011-12 แอนดี้ ก็ยิงนกตกปลา ทำไป 4 ประตูจากการเล่น 35 เกมลีก
ไฮไลต์ให้พอจดจำคือพังตาข่ายประตูชัยท้ายเกมเอฟเอ คัพ รอบรองฯพบ เอฟเวอร์ตัน น่าเสียดายพ่าย เชลซี นัดชิงฯ ทั้งที่หอกผู้ดีก็มีชื่อขึ้นสกอร์บอร์ด
ยังดีว่ามีแชมป์ ลีก คัพ ติดมืออยู่ก่อนจึงพอกล้อมแกล้ม
เส้นทางต่อมาของ แคร์โรลล์ คือเล่นยืมตัวที่ เวสต์แฮม จากนั้นก็ไปแล้วไปลับไม่หวนมาอีก
6. นิโกล่าส์ อเนลก้า
อาเนลก้า สร้างชื่อฐานะ อาร์เซน่อล จากนั้นออกไปผจญภัยต่างแดน 2 ปีครึ่ง ก็วนกลับมาพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ให้ ลิเวอร์พูล แบบยืมตัวระยะสั้นจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง R
ดาวเตะเฟร้นช์แมนมีบทบาทช่วย ‘หงส์แดง’ เครื่องแรงปลายคว้ารองแชมป์ลีกฤดูกาล, พังประตูใส่คู่แข่งมากหน้าโดยหนึ่งในเหยื่อคมแข้งได้แก่ เอฟเวอร์ตัน อริร่วมเมอร์ซี่ย์ ไซด์
อย่างไรก็ตามผจก.ทีม เชราร์ อุลลิเย่ร์ ปฏิเสธใช้ออปชั่นซื้อขาด ต้องส่งกลับกรุงปารีส
กระทั่งได้ แมนฯ ซิตี้ ทุบคลังดึงหวนกลับสู่ลีกผู้ดีสนนาคา 15 ล้านยูโรเมื่อซัมเมอร์ 2002
ชีพจรลงเท้าไป โบลตัน แล้วค่อยไปปล่อยของอีกชุดกับ เชลซี เมื่อเข้าปี 2008
5. ฌิบริล ซิสเซ่
ย้ายจาก โอแซร์ มาเป็นสมาชิก ลิเวอร์พูล ปี 2004 ซิสเซ่ ออกตัวดีในการเริ่มต้นลีกใหม่ 5 ประตูจาก 24 เกมแรก
อย่างไรก็อาการบาดเจ็บหนักถึงขั้นกระดูกขาหักผิดรูปเกมพบ แบล็คเบิร์น ส่งผลให้พลาดช่วงที่เหลือเกือบทั้งฤดูกาล 2004-05
แล้วด้วยปาฏิหารย์กองหน้าเฟร้นช์แมนฟื้นตัวอย่างยอดเยี่ยม ช่วยทำสองประตูใส่ แอสตัน วิลล่า เกมลีกนัดส่งท้าย และยิงจุดโทษเอาชนะ เอซี มิลาน ในนัดชิงฯชปล. แบบสุดดราม่า
ฌิบริล ยังกดเบิ้ลให้ ลิเวอร์พูล ปราบ ซีเอสเคเอ มอสโก ได้แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2005 และกดหนึ่งลูกนัดชิงฯ เอฟเอ คัพ 2006 ใส่ เวสต์แฮม จนทีมเฮในบั้นปลาย
ซัมเมอร์ปีนั้น ซิสเซ่ ถูกส่งไปเล่นยืมตัวกับ โอลิมปิก มาร์กเซย ค่อยถูกขายขาดปี 2007
4. เอียน รัช
ผู้เล่นทำประตูรวมสูงสุดตลอดกาลแก่ ลิเวอร์พูล ที่ 346 ลูกจากการลงเตะ 660 นัด โดย รัช เล่นให้ ‘หงส์แดง’ สองรอบ เพราะมีช่วงออกไปชิมลางต่างแดนแก่ ยูเวนตุส
โมงยามน่าจดจำของ รัช ส่วนใหญ่เกิดก่อนปี 1992 ยุคเปลี่ยนจากดิวิชั่น 1 (เดิม) เป็นพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ซึ่งแม้ฟอร์มไม่ถึงกับระเบิดเถิดเทิง 14 ประตูตลอดสองซีซั่นแรกยุคพรีเมียร์ลีก อังกฤษ บวกอีก 12 ลูก ฤดูกาล 1994-95 แต่สถานะตำนานคงอยู่
เหตุผลเนื่องจากร่วมคว้า 5 แชมป์ลีกสมัยดิวิชั่น 1 (เดิม) ต่อให้มือเปล่าสมัยพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ชีพจรลงเท้าหอกเวลส์ค้าแข้งกับ ลีดส์, เชฯ ยูไนเต็ด, นิวคาสเซิ่ล และ เร็กซ์แฮม ก่อนจะรีไทร์ระหว่าง ซิดนี่ย์ อลป.ปี 2000
3. โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
ก้าวสู่ทีมคล้อยหลัง คริสติย็อง เบนเตเก้น เมื่อซัมเมอร์ 2015 ทีแรกยังไม่เปรี้ยงกระทั่งได้ผจก.ทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ ปลุกปั้นสู่ฟันเฟืองสำคัญยุคทอง
มีส่วนสำคัญกับทุกแชมป์ที่ทีมคว้ามาได้จากนั้นทั้ง ชปล. 2019, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2019, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ 2019, พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2020, ลีก คัพ 2022 และ เอฟเอ คัพ 2022
ผลงานกว่า 111 ประตู ยังมีอีก 79 แอสซิสต์ ประสานงานอย่างสุดยอดกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ หลายปีดีดัก
กองหน้าบราซิเลี่ยนเป็นที่รักของทีมเมตและ คล็อปป์ ด้วยบุคลิกภาพ บวกลวดลายแพรวพราวบนสนาม สร้างความบันเทิงแก่ผู้ชม
‘บ็อบบี้’ หมดสัญญาเมื่อสิ้นฤดูกาลล่าสุด ย้ายซบ อัล-อาห์ลี ซาอุดี โดยก่อนจะลากันได้รับเกียรติตั้งแถวเกียรติยศจากทีมเมตปรบมือสดุดีคุณงามความดี
2. เฟร์นานโด ตอร์เรส
สร้างชื่อแก่ตัวเองทันทีที่ประเดิมสนามยังแอนฟิลด์เพราะพังตาข่ายได้เลยเกมพบ เชลซี ส.ค. ปี 2007 หลังโดนซื้อจาก แอต.มาดริด โดยเขายังได้ตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมระจำเดือนของลีก กพ.พ. 2008
‘เอล นินโญ่’ คือขวัญใจแฟนบอล ‘หงส์แดง’ เพราะสร้างความครั่นคร้ามแก่กองหลังคู่แข่งเสมอ
กว่า 81 ประตูที่ทำได้จากการลงสนาม 142 เกม เขาก็ขอขึ้นบัญชีย้ายไป เชลซี ม.ค. 2011 ด้วยสถิติแพงสุดสหราชอาณาจักรเวลานั้น 50 ล้านปอนด์
ทว่าหอกสแปนชผลงานต่ำหวัง 45 ประตูจากการเล่น 172 เกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์
1. ร็อบบี้ ฟาวเลอร์
ผลผลิตจากเยาวชน ลิเวอร์พูล ได้โอกาสเดบิวต์ชุดใหญ่ปี 1993 ใช้เวลาไม่นานก็สร้างชื่อฐานะยอดดาวยิง
โดยเป็นผู้เล่น ‘หงส์แดง’ ลำดับสองที่ทำ 5 ประตูในเกมเดียว หนนั้นซัดใส่ ฟูแล่ม รายการ ลีก คัพ
ส่งผลให้ได้ฉายา ‘พระเจ้า’ จากแฟนบอล ลิเวอร์พูล ภาพรวม 183 ประตู, 49 แอสซิสต์ จากการเล่นให้ทีม 2 เที่ยว 369 นัด
ฟาวเลอร์ อยู่บนหิ้งผู้เล่นทำประตูสะสมมากสุดตลอดกาลสโมสรลำดับ 7 แต่หากเอาแค่เบอร์#9 อยู่ลำดับสอง
ฤดูกาลที่ดีสุดคือ 2000-01 ได้ทริปเปิ้ลแชมป์ บอลถ้วยอย่าง ลีก คัพ, เอฟเค คัพ และ ยูฟ่า คัพ จากนั้นย้ายสู่ ลีดส์ ตอนซัมเมอร์
‘ก็อด’ ซมซานกลับมาแอนฟิลด์หลังไม่ประสบความสำเร็จที่ แมนฯ ซิตี้ แล้วเหล่า ‘เดอะ ค็อป ’ก็อ้าแขนรับอบอุ่น
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT