10เรื่อง10ราวบอลอังกฤษสุดสัปดาห์
1.ขาใหญ่ฟานไดค์โขกส่งหงส์แชมป์’น้าแอ๊ดคัพ’
เมื่อ ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องพึ่งฮีโร่, เมื่อเหล่าผู้นำดาวซัลโวแค่ชมข้างสนามเพราะบาดเจ็บ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นขวัญใจสื่อมวลชนในนัดชิงฯ คาราบาว คัพ
แม้จะโดนปฏิเสธประตูเมื่อโขกเข้าไปในเวลาปกติ เพราะวีเออาร์มองว่า วาตารุ เอ็นโด อยู่ตำแหน่งล้ำหน้าและมีส่วนต่อการเล่นเพราะสกรีนใส่ ลีวาย โคลวิลล์ กองหลัง เชลซี
แต่นาที 118 ลูกตะมุมทางขวา คอสตาส ซิมิกาส ปั่นไปให้ ‘วีวีดี’ โดดตัดหน้า มิไคโล มูดริค โหม่งเล่นทางเสียบหน้าต่างเสาไกลเป็นลูกขาวสะอาด
กลายเป็นประตูชัย 1-0 ให้ ‘หงส์แดง’ คว้าแชมป์ แล้ว ฟาน ไดค์ ก็ถูกจารึกฐานะกัปตันในเกมดังกล่าว
2.เทนฮากเดินอยู่บนเชือกแขวน
ความอ่อนหัดของผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้ช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้บริหารใหม่อย่าง เซอร์จิม แร็ตคลิฟฟ์ วางใจมอบหมายงานกู้ความยิ่งใหญ่แก่ผจก.ทีม เอริก เทน ฮาก
กุนซือวัย 54 ปีสลบเพราะประตูชัย 2-1 นาทีทดเจ็บ 90+7 ของ อเล็กซ์ อิโวบี้ ที่พา ฟูแล่ม ขึ้นมาเหยียบจมูกถึง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
เท่านั้นไม่พอ ‘อีทีเอช’ ยังให้สัมภาษณ์แบบหาแพะโยนความผิดให้ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ แบ็กซ้ายที่หลงตำแหน่งจนทีมพัง สร้างดราม่าในห้องแต่งตัวอีก
3.กวาร์ดิโอล่ากระเสือกกระสนเอาตัวรอด
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ชื่นชมลูกทีมว่าคือซูเปอร์แมนหลังเกมชน บอร์นมัธ ถึง ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม 1-0 ด้วยประตูโทนของ ฟิล โฟเด้น
เพราะจากนี้ในเดือนมี.ค.คิวแข่งจะสุดโหดจากทุกทิศทุกทางทุกรายการ, คู่แข่งสุดหิน และการต่อสู้กับปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บที่เริ่มเคาะประตูเรียก
“ผมก็ไม่ทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับผู้เล่นของตัวเองเมื่อเราเอาชนะได้ทุกรายการต่อไป พวกเขาจะตอบสนองต่อนัดต่อๆไปแบบไหน? โอพระเจ้า…จะทำให้ดีกว่าที่พวกเขาทำออกมาไม่ได้แล้ว เป็นไปไม่ได้เลย”
4.จอร์จินโญ่ก้าวมาโดดเด่นให้อาร์เซน่อล
จอร์จินโญ่ คู่ควรเป็นหัวหมู่ผู้เล่นทรงคุณค่าแก่ อาร์เซน่อล แม้เฮดโค้ช มิเกล อาร์เตต้า ให้เขาเล่นตัวจริงแค่ 6 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ แต่แมตช์ปราบ นิวคาสเซิ่ล 4-1 เด่นจริงๆ
ประสบการณ์ที่เขาแสดงออกมาบนสนามช่วยประคับประคองแข้งพลังหนุ่มให้ยังแล่นอย่างเรียบเนียนอีกครั้ง หลังสะดุดฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรป
5.แบรนธ์เวทดูเป็นของแท้
เอฟเวอร์ตัน ปั้นผู้เล่นส่งออกไปสร้างชื่อในลีกอังกฤษมากมายยุคสมัยของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฟรานซิส เจฟเฟอร์ส, เวย์น รูนี่ย์, โจลีออน เลสค็อตต์, รอสส์ บาร์คลี่ย์ หรือ จอห์น สโตนส์ คือศิษย์เก่ากูดิสัน พาร์ค ทั้งสิ้น
รายต่อไปที่เตรียมส่งออกคงเป็น จาร์ราด แบรนธ์เวท กองหลังวัย 21 ปี ที่ผลงานโดดเด่นเกมเสมอ ไบรท์ตัน 1-1
จุดเด่นด้านเกมรับ, ติดอาวุธด้านการทำประตูลูกขึ้นนำ 1-0 นาที 75 แต่น่าเสียดายถูก ลูอิส ดังค์ ตีเสมอทดเจ็บ 1-1
แว่วว่า แมนฯ ยูไนเต็ด และ เรอัล มาดริด เตรียมขันหมากสู่ขอช่วงซัมเมอร์
6.ลุยซ์ฐานะขุนขวานคู่ใจเอเมรี่
อีกเกมเหย้าของ แอสตัน วิลล่า, อีกเกมที่ ดักลาส ลุยซ์ ทำประตู แล้วมันคือสองลูกตั้งแต่ครึ่งแรก
โดยตำแหน่งเขาคือกองกลางตัวโฮลด์บอล แต่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ทำไปแล้ว 9 ลูก, ทุกเม็ดเกิดที่ วิลล่า พาร์ค
ยิ่งการที่ บูบาการ์ กามาร่า ผ่าตัดเอ็นไขว้เข่าด้านหน้าพักทั้งซีซั่น บทบาทของแข้งบราซิเลี่ยนก็ยิ่งทวีความสำคัญแก่ฟุตบอลแบบเฮดโค้ช อูไน เอเมรี่ เข้าไปอีก
7.สิงห์ฟันน้ำนมตายน้ำตื้น
ประเด็นทีมที่ขยันซื้อผู้เล่นอย่าง เชลซี ไม่มีปัญญาเอาชนะเด็กจากอะแคดามี่เป็นโขยงของ ลิเวอร์พูล กลายเป็นที่วิจารณ์, ถกเถียงและสมน้ำหน้ากันอย่างสนุกที่อังกฤษ
เงินกว่า 1 พันล้านปอนด์ที่ลงทุน ไม่สามารถตอบแทนเป็นความสำเร็จรูปธรรม ทรงเกมที่เสมบลี่ย์ สเตเดี้ยม วานนี้ สมควรทำได้ดีกว่า ลิเวอร์พูล ตลอดเกมด้วยซ้ำแต่ความจริงไม่เป็นแบบนั้น
ก็คือการบ้านกองโตที่เฮดโค้ช เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ หอบไปแก้
8.อายิวกลับมาเฉิดฉายพาเลซยุคกลาสเนอร์
เป็นปีๆที่ จอร์แดน อายิว กองหน้า คริสตัล พาเลซ ฝากผีฝากไข้ไม่ได้ ยิงนกตกปลา และไร้ความสม่ำเสมอ
แต่การเริ่มต้นใหม่กับเฮดโค้ช โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ดูจะปลุกความกระตือรือร้นแก่แข้งประสบการณ์เมื่อ ยิง 1, จ่าย 1 จนทีมปราบบอลหท้ายตาราง เบิร์นลี่ย์ 3-0
สร้างความมั่นใจแก่ทีมและห้องแต่งตัว ว่าสามารถรักษาสถานะบนลีกสูงสุดอีกปี
9.เนโต้ฟอร์มเด่นแต่อาจเป็นขาออกวูล์ฟส์คนต่อไป
ตลาดซัมเมอร์ 2023 วูล์ฟส์ ขายตัวดังโปรตุกีสอย่าง รูเบน เนเวส, มาเตวส์ นูเนส เพื่อสร้างสมดุลการเงิน ก็ได้ตอบแทนมาเป็น 100 ล้านปอนด์ แล้วกุนซือ แกรี่ โอนีล ก็ยังประคองทีมให้ไปได้สวย
แต่ด้วยกระแสว่าทีมจากมิดแลนด์เตรียมถูกลงดาบจากลีกหากไม่สะสางอะไรเพิ่มก็บีบให้ทีมจ่อขายนักเตะอีกแล้วหวยคงลงที่ตัวรุก เปโดร เนโต้
เกมเชือด เชฟฯ ยูไนเต็ด 1-0 เมื่อวันอาทิตย์เขาคือหนึ่งในแข้งที่โดดเด่น แม้ไม่มีชื่อทำประตู แต่สร้างงานแก่กองหลัง ‘ดาบคู่’ ทั้ง 90 นาที
ปลายทางอย่าง อาร์เซน่อล หรือ ลิเวอร์พูล เป็นไปได้ทั้งสิ้น
https://twitter.com/ManCity/status/1761819685627027488
10.การขับเคี่ยวแย่งแชมป์ที่ยังเข้มข้น
ตารางคะแนนตอนนี้เริ่มถูกแบ่งชัดเจนเป็นโซนๆ เริ่มที่แย่งแชมป์มีสามทีม ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้, อาร์เซน่อล แข่ง 26 แมตช์เดย์เท่ากันแต้มไล่เรียงจาก 60, 59 และ 58 ตามลำดับ แบบนับถอยหลังอีก 12 นัดสุดท้าย
กลุ่มแย่งท็อป 4 ตั้งแต่ แอสตัน วิลล่า ที่สี่ไปถึง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่หก ช่องว่าง 8 คะแนน
กลางตารางไม่หวือหวา
ลงไปโซนหนีตาย เชฟฯ ยูไนเต็ด กับ เบิร์นลี่ย์ 13 แต้มเท่ากันดูรอดยากในลำดับบ๊วย และรองบ๊วย
คงเหลือโควตาตกชั้นทีมสุดท้ายบี้สนุกถึงปลายทางแน่อน ตั้งแต่อันดับ 13 พาเลซ มี 28 แต้ม เทียบกับ ลูตัน ทาวน์ อันดับ 18 มี 20 คะแนนแต่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT