อาโมริมกล้าท้าทายประวัติศาสตร์โค้ชโปรตุกีสลีกผู้ดี

อาโมริม กำลังจะเป็นกุนซือโปรตุกีสคน 7 ในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดผู้ดียุคพรีเมียร์ฯ ด้านจำนวนว่าน้อยแล้ว ในแง่ความสำเร็จก็ดูท้าทายสุดๆเช่นกันสำหรับกุนซือวัย 39 ปี 

ลองไปดูว่าคนก่อนหน้ามีใครบ้าง

โชเซ่ มูรินโญ่ - เชลซี, แมนฯ ยูไนเต็ด, สเปอร์ส  

• 363 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ :  ชนะ 217, เสมอ 84, แพ้ 62;  อัตราชนะเกม 60% 

• แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ : 3 สมัย 

• เอฟเอ คัพ : 1 สมัย 

• ลีก คัพ : 4 สมัย

• ยูโรปา ลีก : 1 สมัย

กุนซือโปรตุกีสคนก่อนหน้า อาโมริม ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่งตั้งคุมทีมทางการถือว่าประสบความสำเร็จสุดแล้วหลังพ้นยุคเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

แต่ด้วยมาตรฐานที่กุนซือสกอตต์ตั้งไว้ช่างสูงส่ง, สม่ำเสมอ และยาวนาน ทำให้สิ่งที่ มูรินโญ่ ทำได้ ไม่ค่อยถูกยอมรัเท่าไหร่จากสาวก ‘เร้ด อาร์มี่’ หรือบรรดาศิษย์เก่า 

โชเซ่ พาทีม ยูไนเต็ด ได้แชมป์ ลีก คัพ, ยูโรปา ลีก 

ส่วนยุคสมัยที่เขารุ่งเรื่องสุดบนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คือคุม เชลซี ได้ 3 แชมป์ลีก, 3 แชมป์ลีก คัพ, 1 แชมป์ เอฟเอ คัพ พร้อมแนะนำสมญา ‘อะ สเปเชี่ยล วัน’ ให้รู้จักวงกว้าง 

ก็มีตอนคุม สเปอร์ส ที่เสียรังวัดตกงานแบบมืเปล่า 

มาร์โค ซิลวา - ฮัลล์, วัตฟอร์ด, เอฟเวอร์ตัน, ฟูแล่ม  

• 180  เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ:  ชนะ 63,เสมอ 37, แพ้ 80; อัตราชนะเกม 35%  

โดนส่งลงไปแนะนำตัวแก่แฟนบอลอังกฤษครั้งแรก เมื่อถูกแต่งตั้งคุม ฮัลล์ ซิตี้ ม.ค. 2017 จากนั้นก็เป็นขาประจำ 

ช่วงเวลาท้ายๆของเขาตอนอยู่ วัตฟอร์ดถือว่าสถานการณ์คุกรุ่น สาดน้ำลายใส่กัน เมื่อมีมือที่สามอย่าง เอฟเวอร์ตัน จองตัว 

แล้วที่กูดิสัน พาร์ค ก็เป็นหนแรกที่คุมทัพจบซีซั่นทั้งยังได้ที่ 8 

จากนั้นก็ล้มลุกคลุกคลานตามเรื่อง ตามราว มาอยู่ ฟูแล่ม ในระดับชปช.อังกฤษ, พาเจ้าสัวน้อยเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 

ความมั่นคงบนสถานะในลำดับ 10 ต่อด้วยลำดับ 13, ได้เข้ารอบก่อนรองฯ เอฟเอ คัพ มาฤดูกาลนี้ทรงเดิมออกตัวดีครึ่งบนตาราง  

นูโน่ เอสปิริโต ซานโต - วูล์ฟแฮมป์ตัน, สเปอร์ส, ฟอเรสต์  

• 154 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ : ชนะ 58, เสมอ 40, แพ้ 56; อัตราชนะเกม 38%  

ชิมลางบอลอังกฤษครั้งแรกระดับชปช. นูโน่ ปั้น วูล์ฟส์ การันตีเลื่อนชั้นตอนยังเหลือโปรแกรมแข่งอีก 4 เกม, ขึ้นมาบนลีกสูงสุดก็เป็นของแสลงของหลายทีมคู่แข่ง จบอันดับหรูถึงที่ 7 ตาราง, ต่อมาก็เข้าถึงรอบก่อนรองฯ ยูโรปา ลีก 

ตอนแยกทางด้วยความสมัครสองฝ่ายเมื่อทีมจบที่ 13 ลีก, ได้โอกาสคุม สเปอร์ส ก็แค่ไม่กี่เดือนโดนเด้งเพราะสไตล์ไม่เร้าใจ 

ไปชุบตัวที่ซาอุดี โปร ลีก แก่ อัล-อิตติฮัด ก็ถูก ฟอเรสต์ ตามช่วยคุมทีมหนีตายซีซั่นก่อนแล้วประสบความสำเร็จด้วย จึงอยู่กันต่อ 

เราจึงได้เห็น ‘เจ้าป่า’ ที่บุคลากรดีอยู่แล้วผลงานโดดเด่นอยู่ที่ 7 ตาราง ตามหลังลำดับ 3 อาร์เซน่อล แค่สองแต้ม แถมยังเป็นทีมเดียวซึ่งทำ ลิเวอร์พูล ลิ้มรสความปราชัย  

อันเดร วิลลาส-โบอาส - เชลซี, สเปอร์ส 

• 81 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ :  ชนะ 42, เสมอ 19,  แพ้ 20; อัตราชนะเกม 52% 

วิลลาส-โบอาส ตามรอยเท้าเจ้านายเก่า โชเซ่ มูรินโญ่ จาก เอฟซี ปอร์โต้ มายัง เชลซี แต่ดันหัวทิ่มในฤดูกาลส่งท้าย 

ดังนั้นจึงพูดได้ว่าสมัยคุม สเปอร์ส ประสบความสำเร็จมากกว่าเพราะพลาดโควตาชปล.รอบคัดเลือกฉิวเฉียดทั้งที่ทำถึง 72 คะแนน นับเป็นสถิติดีสุดของสโมสร ‘ไก่เดือยทอง’ บนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ณ ตอนนั้น 

ทว่าก็อีหรอบเดิมเหี่ยวในปีต่อมา จนถูกปลด

การทำงานฝึกสอนฟุตบอลอาจไม่ใช่ทาง

อันเดร ลองไปค้นหาตัวเองด้วยการเป็นนักขับรถยนต์แข่งแรลลี่ ดาการ์ ให้ชีวิตลำบากพอสมควรก็หวนสู่ เอฟซี ปอร์โต้ ในหัวโขนปธ.สโมสร 

บรูโน่ ลาช - วูล์ฟส์

• 46 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ; ชนะ 16, เสมอ 9, แพ้  21; อัตราชนะเกม 35%

มารับไม้ผลัดต่อจาก นูโน่ ที่ โมลินิวซ์ สเตเดี้ยม เมื่อปี 2021 สามารถรักษามาตรฐานทำทีมจบที่ 10 ในลีก ต่อให้ฟอร์มโค้งท้ายฤดูกาลส่งสัญญาณไม่ดี

แล้วทิศทางก็มีแต่แย่ลงๆในฤดูกาล 2022-23 ทำให้ผ่าน 7 นัดก็ถูกเด้ง 

ปัจจุบันกลับไปคุมอดีตต้นสังกัดอย่าง เบนฟิก้า แห่งพรีเมร่า ลีกา โปรตุกีส  

คาร์ลอส คาร์วาลญาล - สวอนซี  

• 18 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ; ชนะ 5, เสมอ 5, แพ้ 8; อัตราชนะเกม 28%

อดีตกุนซือ เชฟฯ เว้นส์เดย์ ได้มาคุม สวอนซี แทน พอล คลีเมนต์ เมื่อธ.ค. 2017 แต่ผลงานชนะแค่ 5 เกม, ไม่สามารถรอดตกชั้น พอจบฤดูกาลก็ต้องอำลาตำแหน่ง