เตรียมบ๊ายบาย"เคดบี"กระทาชายติ่งโอเว่น

เดอ บรอยน์ กำลังจะหมดสัญญากับ ซิตี้ หลังร่วมงานมากว่า 10 ปีนับแต่ย้ายพ้น โวล์ฟส์บวร์ก เมื่อซัมเมอร์ 2015
ความสำเร็จไม่ต้องสาธยาย ได้แชมป์เมเจอร์กับ ซิตี้ 19 รายการ ประกอบด้วย 6 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, 2 เอฟเอ คัพ, 5 ลีก คัพ, 1 แชมเปี้ยนส์ ลีก, 1 ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ, 1 ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ 3 คอมมิวนิตี้ ชีลด์
ไฮไลต์คือทริปเปิ้ล-แชมป์ ฤดูกาล 2022-23 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, เอฟเอ คัพ และ แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
“ถึง แมนเชสเตอร์” เดอ บรอยน์ แถลงการณ์ผ่าน อินสตาแกรม, เฟซบุ๊ก และทุกแพล็ตฟอร์มทางการ
“ได้เห็นสิ่งนี้พวกคุณก็คงทราบแล้วว่าตอนจบไปทางไหน ดังนั้นผมเข้าเรื่องเลย และจะแจ้งให้ทุกคนทราบว่านี่คงเป็นเดือนท้ายๆของผมฐานะผู้เล่น แมนฯ ซิตี้”
“การร่ายอะไรออกมามันไม่ง่าย แต่ฐานะนักฟุตบอลอาชีพ เราล้วนทราบว่าวันนี้ต้องมาถึง”
“ซึ่งของผมคือวันนี้นี่เอง - แล้วพวกคุณสมควรทราบจากตัวผมเองเป็นคนแรก”
“ฟุตบอลนำทางผมให้มาเจอพวกคุณ - และเมืองนี้”
“ให้ผมได้ล่าฝัน แบบไม่ทราบมาก่อนเลยว่าช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันจะเปลี่ยนแปลงชีวิตไปเลย”
“ทีม ซิตี้ นี้, สโมสรนี้, ผู้คนที่ผ่านเข้ามา … มอบทุกสิ่งทุกอย่างแก่ผม”
“ผมจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตอบแทนทุกอย่างตอบแทนกลับไป! ซึ่งผลลัพธ์คือเราได้แชมป์มาแล้วทุกรายการ”
“ก็ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็ตามมันถึงเวลาต้องกล่าวลา - สมาชิกครอบครัวทั้ง ซูริ, โรม, เมสัน, มิเชลล์ และผมล้วนยิ่งกว่าซาบซึ้งบุญคุณของสถานที่แห่งนี้ว่ามีความหมายต่อบ้านเรามากแค่ไหน”
“เมืองแมนเชสเตอร์ จะถูกบันทึกบนพาสปอร์ตว่าเป็นสถานที่เกิดของลูกๆผมตลอดไป - แล้วสำคัญกว่านั้นจะอยู่ในใจเสมอ”
“จะถูกเรียกว่าบ้านของเราไม่มีทางเปลี่ยน”
“แล้วคงไม่สามารถละเลยการขอบคุณเมือง, สโมสร, สตาฟฟ์, ทีมเมต, มิตรสหายและครอบครัวคงไม่ได้ สำหรับช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา”
“ทุกเรื่องบนโลกเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป แต่นี่จะเป็นฉากตอนที่ดีที่สุด”
“มารื่นเริ่งกับช่วงเวลาสุดท้ายร่วมกัน”
“รักล้นใจ”
“เคดีบี”
เดอ บรอยน์ คือฟันเฟืองสำคัญของผจก.ทีม โจเซป กวาร์ดิโอล่า หลายปีดีดักในการร่วมกวาดแชมป์ทุกรายการใต้ชายคาเอติฮัด สเตเดี้ยม
อย่างไรก็ตามด้วยวัยวุฒิที่มากขึ้น 33 ปีร่างกายก็ถดถอย ไหนยังมีเรื่องทัศนคติการทำงานที่ต่างฝ่ายต่างมีอีโก้จนปรากฏเป็นภาพโต้เถียงข้างสนาม หรือบางครั้งบึ้งตึงใส่กัน
แล้วเป็นกุนซือวัย 54 กะรัตชิงต่อสัญญาอยู่โยงต่อไป ดังนั้น ‘เคดีบี’ จึงเหลือทางเลือกไม่มาก คือหากอยากอยู่ต่อก็ต้องยอมรับค่าจ้างและบทบาทที่ลดลง
แต่หากเชื่อว่ามีศักยภาพเหลือเฟือ ก็ต้องเลือกย้ายออกแบบฟรีเอเยนต์ ซึ่งผลออกมาเป็นอย่างหลัง
ป้ายหน้าเป็นอย่างไรคือเรื่องของอนาคต เวลานี้ เดอ บรอยน์ ทำไป 106 ประตูจาก 413 เกมจากทุกรายการฐานะ ‘เรือใบสีฟ้า’
แต่ที่เจ๋งกว่าคือจำนวน 174 แอสซิสต์
ทว่าฤดูกาลนี้เขาถูกส่งแข่งฐานะตัวจริงแค่ 19 เกม ส่วนหนึ่งเพราะเจ็บกล้ามเนื้อหลัง แล้วมันอาจส่งผลโดยตรงต่อผลงาน ซิตี้ 2024-25
มองแง่สถิตินับจากถูกซื้อด้วยสนนราคา 76 ล้านยูโร เมื่อทศวรรษก่อน ก็ไม่มีผู้คนใดในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แอสซิสต์มากกว่าเขาระหว่างช่วงเวลาเดียวกัน
แข้งเบลเจี้ยนได้ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของลีกเมื่อฤดูกาล 2019-20 และ 2021-22
การลงเล่น 277 เกมลีกจัดไป 117 แอสซิสต์
สถิตินี้เป็นรองแค่ ไรอัน กิ๊กก์ส ลำดับหนึ่งตลอดกาล 162 แอสซิสต์ ส่วนลำดับสาม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตามห่างอยู่ที่ 85 แอสซิสต์
‘เคฟ’ ยังได้ชื่อว่าผลงานสม่ำเสมอในเกมใหญ่เกมสำคัญ
ยกตังอย่างการพบ เรอัล มาดริด รอบรองฯ ชปล.ฤดูกาล 2022-23 ยิงประตูสุดเฉียบ หรือเป็นการปั่นโค้งใส่ เชลซี จากหน้ากรอบเขตโทษ
นามสโมสร แมนฯ ซิตี้ เขาคือตำนานคนต่อไป เพราะมีผู้เล่นอีกแค่ 7 รายเตะแก่ ‘เรือใบสีฟ้า’ มากกว่า เดอ บรอยน์ เวลานี้ 413 เกม
การขาดหายของ เดอ บรอยน์ ไม่เพียงเป็นความสูญเสียของ แมนฯ ซิตี้ แต่เป็นความสูญเสียของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่จะต้องไร้แข้งมากความสามารถโชว์จ่ายบอลเทพๆอีก
แล้ว กวาร์ดิโอล่า ก็คงไม่สามารถหาใครมาทดแทนได้ง่ายๆ
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT