พยากรณ์ตัวจริงผู้ดีบอลโลก2018
ทีมชาติอังกฤษ ชุดสู้ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย
ผู้จัดการทีม แกเร็ธ เซาธ์เกต : ระบบ 3-4-2-1
พิคฟอร์ด
วอลเกอร์ สโตนส์ แม็คไกวร์
ทริปเปียร์ ดายเออร์ เฮนเดอร์สัน ยัง
อัลลี สเตอร์ลิ่ง
เคน
เซาธ์เกต ปั้นอังกฤษในแบบของเขา
ทำไมถึงเลือก จอร์แดน พิคฟอร์ด เป็นมือหนึ่งทีมชาติ อังกฤษ
พิคฟอร์ด คือผู้รักษาประตูจอมเซฟลูกยาก แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความเชื่อมันของสภาพจิตใจ พร้อมกับอาวุธเรื่องการเตะเปิดเกมเร็วช่วยเปิดโอกาสสร้างสรรค์เกมรุกแก่ทีม 'สิงโตคำราม' ด้วยท่าเอียงตัวเตะบอล
ทักษะในการใช้เท้าก็ไม่ขี้เหร่ เมื่อต้องรับลูกส่งคืนหลังอย่างที่พิสูจน์ในเกมกระชับมิตรกับ ฮอลแลนด์ เมื่อเดือน มีนาคมที่ผ่านมา
พิคฟอร์ด เหนียบหนึบแถมเปิดบอลท่าถนัดเอียงข้างเตะมีประโยชน์เกมโต้กลับ
มาลองพิจารณาจากภาพกราฟฟิคด้านบนบ้าง ชูจุดเด่นสามอย่างของจอมหนึบวัย 24 กะรัต ประกอบด้วย 1.กล้าที่จะครองบอลด้วยเท้า, 2. เป็นจอมป้องกันประตู บอกมาเลยจะให้ล้มซ้าย หรือ ล้มขวาเพื่อปัดป้องบอลขอให้สั่ง
และ 3.ลูกเอียงข้างเตะเปิดเกมไปสวนกลับ จะเห็นว่าการจัดท่าตอนเตะแทบอยู่ในองศาเดียวกับลูกบอล ประโยชน์คือทำวิถีไม่โด่ง ทีมเมตเอาไปปั้นต่อได้ทันที่ แถมประหยัดเวลาเพื่อส่งบอลถึงเป้าหมาย
สามปราการหลังตัวกลางหัวใจเกมรับเซาธ์เกต
นี่คือส่วนผสมอันลงตัวของสามปราการหลังตัวกลาง คายล์ วอลเกอร์ มีดีเรื่องยืนตำแหน่ง รวมถึงสามารถตัดบอลคิลเลอร์ พาส ของคู่แข่ง, จอห์น สโตนส์ มีสถิติระบุชัดเจนว่าจ่ายบอลแม่นยำ เช่นเดียวกับงานหลักแท็คเกิ้ลคม และเจ้า แฮร์รี่ แม็คไกวร์ จอมบู๊ บวกผลงานไว้ใจได้โดยเฉพาะเรคคอร์ดลูกกลางอากาศ โขกชนะถึง 241 หน ส่วนการเสียบสกัดก็ชัวร์
สามปราการหลังจัดมาครบทุกแนว อ่านทาง-บุ๋น-บู๊
ทริปเปียร์ผสานยังกองหนุนแนวรุกชั้นดี
ด้วยระบบการเล่นที่ เซาธ์เกต เลือกใช้ในเวิลด์ คัพ 2018 ทำให้ตำแหน่งวิงแบ็กทั้งสองข้างเป็นหัวใจสำคัญสำหรับหนุนเกมบุก ทักษะการครอสบอสถูกนำมาพิจารณาเป็นอันดับแรก
จอมเก๋าแต่นามสกุล ยัง ตามสถิติระบุว่าเป็นนักเตะที่ครอสบอลดีสุดของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลล่าสุด ด้าน ทริปเปียร์ ก็พัฒนาตัวเองขึ้นตามลำดับโดยเฉพาะลูกครอสแบบไม่ต้องจับบอล ยิ่งรู้ทางกับทีมเมต ท็อตแน่มแฮร์รี่ เคน และ แฮร์รี่ เคน มันจึงเหมือนสลับแค่สีเสื้อจาก 'ไก่เดือยทอง' มาเป็น 'สิงโตคำราม'
หากสองคนนี้สมบูรณ์ถึง เวิลด์ คัพ บอกเลยว่า อังกฤษ ได้ครอสกระจุย
จากกราฟฟิกทางซ้ายมีการระบุว่า ทริปเปียร์ เป็นกองหลังที่สร้างโอกาสมากสุดของลีก 1.93 ครั้ง/นัด สัญชาตญาณการครอสบอลแรกสุดเนียน ยกตัวอย่างจากเกม ยูฟ่า ชปล.ที่ สเปอร์ส เอาชนะ เรอัล มาดริด 3-1 ผู้เล่นวัย 27 กะรัต วิ่งสอดไปรับบอลสุดเส้นแล้วตบให้ เดเล่ อัลลี ชาร์จตุงตาข่าย เชื่อว่าเวิลด์ คัพ ได้เห็นมุกนี้แน่โดยมี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นตัววางลูก
มาดูที่ ยัง บ้าง อายุปาเข้าไป 32 ปี แล้วก็จริงแต่ความห้าวไม่มีตก วิ่งได้ยาวๆกับทัวร์นาเมนต์สุดท้ายนามทีมชาติ โดยสถิติเผยว่าเขาคือตัวครอสเบอร์ต้นๆในพรีเมียร์ลีก จากจังหวะโอเพ่นเพลย์ สำเร็จ 25 จาก 93 ครั้ง
เฮนเดอร์และดายเออร์กับงานจัดระเบียบแดนกลาง
หากว่าวิงแบ็กสองข้างลุยเต็มสูบ เอริค ดายเออร์ ก็ต้องเสียสละเล่นเกมรับเป็นพิเศษ ส่วน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แคนดิเดตกัปตันทีมดูมีอิสระมากกว่าในการขึ้นแนวรุกรวมถึงเชื่อมบอลจากหลังไปหน้า
ผลงานระดับไฮไลท์แห่งซีซั่นของทั้งคู่เกิดในเกม ยูฟ่า ชปล.นัดพบกับ เรอัล มาดริด และ โรม่า ตามลำดับ พวกเขามีเวลาซ้อมให้กลมกล่อมราว 2 สัปดาห์ เพื่อแบกความหวังของชาติ
สองกองกลางคนขยันไม่จำเป็นต้องเด่นมาก หน้าที่คือปิดทองหลังพระ
ฮีตแม็พของทั้งคู่ชัดเจนว่าสามารถเล่นร่วมกันอย่างสบายๆ ดายเออร์ (ซ้าย) เป็นตัวปิดทองหลังพระ สกัดกั้นบอลไปถึง 8 ครั้ง นัดพบ เรอัล มาดริด เมื่อ 1 พ.ย. แถมวิ่งบี้ไม่มีหมด
ด้าน เฮนโด้ แม้จะโดนค่อนขอดว่าแปะบอลไปมา แต่การยืนตำแหน่งรวมถึงเก็บบอลจังหวะสองพัฒนาขึ้นตามวัยวุฒิ แถมมีทีเด็ดจากการวางบอลแนวลึก
อัลลีและสเตอร์ลิ่งฝันร้ายเกมรับคู่แข่ง
สองแข้งที่ผลงานเกมรุกได้จัดจ้านสุดในลีกเบอร์ต้นๆ ด้วยสไตล์อันแตกต่างแต่มีจุดร่วมคือพุ่งทะลวงไปด้านหน้า
เดเล่ อัลลี ถนัดยืนหน้าต่ำอยู่ด้านหลังศูนย์หน้าตัวเป้า ทว่าก็มักแอบสอดขึ้นไปในกรอบเพื่อจบสกอร์ได้ประจำ ส่วน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง พัฒนาขึ้นมากเมื่อได้รับการขัดเกลาจาก ผจก.ทีม โจเซป กวาร์ดิโอล่า ทั้งการวิ่งหาตำแหน่ง, จังหวะจบสกอร์ หรือท่าถนัดตามองทางแต่เลี้ยงไปอีกทาง บรรดาคู่แข่งรอบแบ่งกลุ่มมีปวดหัวแน่นอน
หาก อัลลี กับ สเตอร์ลิ่ง พกฟอร์มจากสโมสรมาด้วย คู่แข่งเจอฝันร้ายแน่นอน
สถิติผลงานเกมลีกตลอดสองฤดูกาลล่าสุดยิ่งบอกชัดเจนว่า อัลลี-สเตอร์ลิ่ง คือชอยส์ที่เหมาะสมกับแนวรุกตัวจริง พิจารณาจากเรื่องสกอร์, แอสซิสต์, การสร้างโอกาสให้เพื่อน, สัมผัสบอลในกรอบคู่แข่ง หรือสร้างโอกาสจะแจ้ง
ไล่เรียงไปเลยของ อัลลี จดไว้ที่ 27 สกอร์ (อันดับ 8), 17 แอสซิสต์ (อันดับ 4),สร้างโอกาส 115 ครั้ง (อันดับ 8), จับบอล 307 หน (อันดับ 14) และ 21 เหน่งๆ (อันดับ 7)
ส่วน สเตอร์ลิ่ง ไม่น้อยหน้า 25 ประตู (อันดับ 11), 17 แอสซิสต์ (อันดับ 4), สร้างโอกาส 99 ครั้ง (อันดับ 11), จับบอล 502 หน (อันดับ 1) และ 17 เหน่งๆ (อันดับ 14)
เพชรฆาตมือหนึ่งเป็นของเคน
อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง 4 ฤดูกาลหลังสุดในลีก แฮร์รี่ เคน พังตาข่าย 21, 25, 29 และ 30 ประตู มันแสดงให้เห็นว่าสมบัติแห่งชาติชิ้นนี้คมขึ้นทุกๆปี
ไม่จำกัดด้วยว่าตีนขวา, ตีนซ้าย, หัวโหม่ง หรือ..เอาไหล่ชนบอลเข้า เพราะเรานับหมด ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ประโยชน์จากการที่ขุมกำลังชุดนี้มีผู้เล่น ท็อตแน่ม เป็นแกน จึงรู้ขา รู้ทางแบบไม่ต้องปรับมาก
หมดยุค เชียเรอร์ ก็มี เคน นี่แหละขึ้นมาเป็นเพชรฆาตสัญชาติ อังกฤษแบบเต็มภาคภูมิ
กราฟฟิกผลงานของ เคน เห็นแล้วหนาวแทนคู่แข่งเพราะมันยิงได้ทุกท่าทุกมุม โดยเฉพาะกรอบ 18 หลา ยิ่งไปกว่านั้นได้จอมเปิดป้อนจากทีม ท็อตแน่ม อย่าง ทริปเปียร์ ที่ซีซั่นนี้จัดให้ 5 สกอร์, อัลลี 4 ประตู ส่วน ดายเออร์ และ โรส ป้อน คนละหนึ่ง
..............................
แฟนประจำหรือขาจรอย่าลืมให้กำลังใจผู้เล่นจากสโมสรของคุณในทีมชาติอังฤษ
โปรแกรมแข่งขันทีมชาติอังกฤษ
2 มิ.ย. ไนจีเรีย (เหย้า) กระชับมิตร
7 มิ.ย. คอสตาริกา (เหย้า) กระชับมิตร
18 มิ.ย. ตูนิเซีย (สนามกลาง) เวิลด์ คัพ กลุ่ม จี
24 มิ.ย. ปานามา (สนามกลาง) เวิลด์ คัพ กลุ่ม จี
28 มิ.ย. เบลเยียม (สนามกลาง) เวิลด์ คัพ กลุ่ม จี
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT