ทุกอย่างเป็นไปได้กับโลเปเตกี
หายนะเคยเกิดขึ้นตั้งแต่เกมประเดิมสนามฟุตบอลโลกกับ สเปน เมื่อ 4 ปีก่อน ทั้งที่ ชาเบียร์ อลอนโซ่ สังหารลูกจุดโทษให้ทีมกระทิงขึ้นนำนาที 27 แต่ ฮอลแลนด์ ตีเสมอได้ในช่วงท้ายครึ่งแรกจากลูกยิงท่าพิศดารของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ ก่อนทีมเมืองกังหันลมจะทำ 4 ลูกรวดในช่วงครึ่งหลังพลิกกลับมาคว้าชัยชนะสวยหรู 5-1
ทัพกระทิงยังฟุบต่อเนื่องพ่าย ชิลี 0-2 ในเกมต่อมาส่งผลให้ทีมของ บีเซนเต้ เดล บอสเก้ แพ็คกระเป๋ากลับบ้านหลังจบ 2 เกมแรก ก่อนจะทิ้งทวนฟุตบอลโลกฉบับบราซิลด้วยการสอย ออสเตรเลีย 3-0
นั่นคือบทเรียนเมื่อปี 2014 ที่ไม่มีใครคาดคิดว่า สเปน ซึ่งมีดีกรีเป็นแชมป์ทัวร์นาเมนต์เมเจอร์ 3 รายการหลังสุด (ยูโร 2008, ฟุตบอลโลก 2010 กับ ยูโร 2012) จะร่วงตกรอบแรกแบบหมดสภาพเยี่ยงนี้
เดล บอสเก้ ยังมีโอกาสทำทีมต่อไปในศึกยูโร 2016 แต่เขาตัดสินใจวางมือหลัง สเปน ตกรอบ 16 ทีมจากการปราชัยต่อ อิตาลี 0-2
สเปน เริ่มต้นใหม่กับ จูเลน โลเปเตกี เทรนเนอร์ชาวบาสโก้ซึ่งเคยสร้างผลงานกับทีมระดับเยาวชน หลังเคยนำทัพกระทิงน้อยคว้าแชมป์ยุโรปรุ่นอายุต่ำกว่า 19 เมื่อปี 2012 ต่อด้วยการสอยแชมป์ยุโรปรุ่นยู-21 ในปี 2013
สถิติการคุมทีมกระทิงน้อยของ โลเปเตกี ไล่จากชุดยู-19, ยู-20 จนถึงยู-21 ทั้งหมด 32 นัด ชนะ 26 เสมอ 5 แพ้ครั้งเดียว โดยเฉพาะการคุมทีมชุดยู-21 เขานำทีมคว้าชัยชนะทั้ง 11 เกม
จากนั้น โลเปเตกี หวนกลับมาทำงานระดับสโมสรอีกครั้งกับ เอฟซี ปอร์โต้ ในช่วงหน้าร้อนปี 2014 ซึ่งเขาเซ็นสัญญากับแข้งร่วมชาติถึง 7 คน ทว่าช่วงเวลาการทำงานในถิ่น'เอสตาดิโอ ดู ดราเกา'ไม่ประสบความสำเร็จจนถูกปลดออกจากตำแหน่งในช่วงเดือนมกราคมปี 2016 ก่อนสหพันธ์ฟุตบอลสเปนจะดึงมารับงานแทน เดล บอสเก้ ในช่วงซัมเมอร์
สเปน ของ โลเปเตกี เป็นเพียงชาติเดียวที่ยังไม่เคยพ่ายทีมใดนับตั้งแต่ศึกยูโร 2016 เทรนเนอร์ชาวบาสโก้นำทัพกระทิงลงสนาม 20 เกม ชนะ 14 เสมอ 6 นับเฉพาะผลงานในรอบคัดเลือกทำสถิติชนะ 9 เสมอ 1 ยิง 36 ประตู เสียเพียง 3 ประตูเท่านั้น
ทัพกระทิงอาจจะไม่ใช่ทีมชุดดีที่สุดเหมือนปี 2010 แต่ทีมของโลเปเตกีทำผลงานอย่างน่าประทับใจและถูกคาดหวังน้อยกว่าเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งมันอาจทำให้เด็กๆของเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ลงเล่นด้วยความผ่อนคลายและแสดงความสามารถแบบเต็มประสิทธิภาพเมื่อมีความกดดันน้อยลง
โลเปเตกีเป็นเทรนเนอร์ที่ไม่ยึดติดกับรูปแบบการเล่นที่แน่นอนตายตัว เขาชื่นชอบระบบ 4-3-3 เหมือนเกมขย่ม อาร์เจนตินา 6-1 แต่สามารถปรับมาเล่นระบบ 4-2-3-1 เหมือนนัดอุ่นเครื่องล่าสุดกับ สวิตเซอร์แลนด์
สเปน มีขุมกำลังที่ค่อนข้างลงตัวกว่าชุดที่เคยล้มเหลวในทัวร์นาเมนต์สำคัญ 2 รายการก่อนหน้านี้ ในศึกฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีก่อน นักเตะกระทิงหลายคนอาจ'อิ่มตัว'กับความสำเร็จ ขณะที่ชุดทำศึกยูโรรอบล่าสุดเป็นทีมที่มีปัญหาในตำแหน่งหน้าเป้า
โลเปเตกีมองเห็น'จุดอ่อน'จาก 2 ชุดดังกล่าว เทรนเนอร์ชาวบาสโก้จึงเลือกทีมที่ผสมผสานทั้งผู้เล่นประสบการณ์และนักเตะสายเลือดใหม่
อัลบาโร่ โมราต้า ซึ่งทำผลงานย่ำแย่กับสโมสรต้นสังกัดถูกตัดชื่อออกจากโผเนื่องจากเทรนเนอร์วัย 51 ปีเลือกผู้เล่นที่ทำผลงานดีกว่าอย่าง ดีเอโก้ คอสต้า, โรดริโก้ โมเรโน่ กับ ยาโก้ อัสปาส
ขณะเดียวกันเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ยังเรียก 6 นักเตะจาก เรอัล มาดริด ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นจากการคว้าแชมป์ยุโรป 3 สมัยติดต่อกันติดทัพกระทิงชุดทำศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายทั้ง เซร์คิโอ รามอส, ดาเนียล การ์บาฆาล, อีสโก้ อาลาร์กอน, มาร์โก อาเซนซีโอ, นาโช่ เฟร์นานเดซ กับ ลูกัส บาซเกซ ถึงแม้ว่าการ์บาฆาลอาจจะชวดลงช่วยทีม 2 เกมแรกหลังมีอาการบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังมาจากการลงเล่นนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกก็ตาม
โลเปเตกี ยังทำงานด้วยความสบายใจหลังสหพันธ์ฟุตบอลสเปนยืดสัญญาการคุมทีมกระทิงไปจนถึงปี 2020 หรือศึกยูโรครั้งต่อไป ก่อนหน้าการเตรียมความพร้อมสำหรับการลงทำศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายราวหนึ่งสัปดาห์หลัง หลุยส์ รูเบียเลส ก้าวขึ้นมาเป็นประธานสหพันธ์ฯคนใหม่
'มันเป็นวันแห่งความสุข'รูเบียเลสกล่าวในวันขยายสัญญาโลเปเตกี 'เราไม่อาจปล่อยจูเลนและทีมของเขาจากไป ด้วยความเป็นมืออาชีพที่น่าชื่นชมและความเคารพ เราต้องการประกาศการขยายสัญญาของเขาไปจนถึงปี 2020'
'เรามีความคาดหวังมากสำหรับฟุตบอลโลกกับเขา รู้ว่ามันเป็นเรื่องยากและการันตีการลงสนามเพียง 3 นัด แต่กับเขา ทุกอย่างเป็นไปได้'
ขณะที่ โลเปเตกี กล่าวในวันเซ็นสัญญาฉบับใหม่ว่า'ผมขอบคุณสำหรับความเชื่อมั่นในตัวผมและสตาฟฟ์ของผม ผมไม่ต้องการสูญเสียและคงนอนหลับกับสัญญาฉบับใหม่ที่เรารู้ว่าฟุตบอลเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน'
'เรามีความสุขมากกับสิ่งที่เราทำมาจนถึงตอนนี้ เราทำงานหนักมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาและเราจะทำเช่นนี้ต่อไป'เทรนเนอร์ชาวบาสโก้กล่าว
การประกาศต่อสัญญากับเทรนเนอร์ของสหพันธ์ฟุตบอลสเปนมีผลในแง่จิตวิทยาที่ผู้มีอำนาจแสดงออกมาความเชื่อมั่น ซึ่งมีผลทำให้เทรนเนอร์สามารถทำงานด้วยความสงบทั้งก่อนและระหว่างเส้นทางในทัวร์นาเมนต์สำคัญอย่างฟุตบอลโลก
สำหรับแกนหลักของทีมกระทิงชุดทำศึกฟุตบอลโลกที่เมืองหมีขาว โลเปเตกี เรียกนักเตะจาก 3 สโมสรหัวแถวอย่าง บาร์เซโลน่า, แอตเลติโก มาดริด กับ เรอัล มาดริด ติดโผถึง 12 คน หากนับรวม อันเดรส อีเนียสต้า ศิษย์เก่าค่ายอาซูลกราน่าอีกคน ก็หมายความว่า สเปน ชุดนี้มีผู้เล่นจาก 3 มหาอำนาจลูกหนังเมืองกระทิงมากกว่าครึ่งทีม
จุดแข็งของทัพกระทิงชุดนี้คือความหลากหลายของขุมกำลังแดนกลางซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างผู้เล่นประสบการณ์อย่าง อันเดรส อีเนียสต้า, ดาบิด ซิลบา และ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, นักเตะกลางเก่ากลางใหม่อย่าง อีสโก้ อาลาร์กอน, ติอาโก้ อัลกันตาร่า และ ฆอร์เค่ เรซูร์เรกซิออน โกเก้ รวมกับสายใหม่เลือดอย่าง มาร์โก อาเซนซีโอ, ซาอูล ญีเกซ กับ ลูกัส บาซเกซ
แดนกลางของทีมกระทิงจึงมีองค์ประกอบครบถ้วนทั้ง ประสบการณ์, ความสามารถและความสดผสมผสานกันอย่างลงตัว
โลเปเตกี ยังมีทางเลือกในแนวรุกมากขึ้นจาก ดีเอโก้ คอสต้า, โรดริโก้ โมเรโน่ กับ ยาโก้ อัสปาส ซึ่งต่างเป็นกองหน้าที่มีสไตล์การเล่นแตกต่างกัน แม้เทรนเนอร์ชาวบาสโก้ยังไม่ชี้ชัดว่าจะเลือกใครลงสนามก่อนก็ตาม
'ไม่มีใครได้เปรียบเหนือกว่าคนอื่น'เทรนเนอร์วัย 51 ปีกล่าวถึงการแย่งตำแหน่งหมายเลข 9 ระหว่าง คอสต้า, โรดริโก้ กับ อัสปาส
'ท้ายที่สุด มันจะเป็นการตัดสินใจที่คุณต้องคิดถึงทางออกดีที่สุดสำหรับทีม'
'คุณต้องดูสภาพความฟิตของนักเตะและช่วงเวลาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามผมจะไม่โฟกัสแต่เฉพาะตำแหน่งกองหน้าเท่านั้น'
'เราต้องการให้ทุกคนมีส่วนร่วมกับเกมแม้เพียง 2-3 นาทีเพื่อให้พวกเขาพร้อมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่สิ่งที่สำคัญสุดคือไม่มีใครบาดเจ็บ ตอนนี้เรากำลังปรับแต่งทีมสำหรับเกมแรกกับโปรตุเกส'
สเปน มีคิวลงประเดิมสนามฟุตบอลโลกกับ โปรตุเกส ในวันเสาร์ที่ 15 มิถุนายนนี้ ซึ่งเทรนเนอร์ชาวบาสโก้น่าจะมีเลือกผู้เล่นลงล็อกแล้ว 8 ตำแหน่ง
นั่นคือ ดาบิด เด เคอา นายทวารมือหนึ่ง แนวรับ 3 คนลงตัวแล้วทั้ง เคราร์ด ปีเก้, เซร์คิโอ รามอส กับ จอร์ดี้ อัลบา ยกเว้นตำแหน่งแบ็กขวาที่ตัวเลือกแรกอย่าง การ์บาฆาล ยังไม่สมบูรณ์ แม้ อัลบาโร่ โอดรีโอโซล่า ดาวรุ่งจาก เรอัล โซเซียดาด จะได้ออกสตาร์ทเกมอุ่นเครื่องทั้ง 2 นัดกับ สวิตเซอร์แลนด์ และ ตูนีเซีย ก็ตาม
แต่ โลเปเตกี มีโอกาสเลือก นาโช่ เฟร์นานเดซ ลงเล่นแบ็กขวาในเกมเปิดสนามกับ โปรตุเกส เนื่องจากกองหลังจากค่ายชุดขาวมีประสบการณ์เหนือกว่าเด็กอย่างอัลบาโร่ในการรับมือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าดาวดังฝั่งตรงข้าม
สำหรับแดนกลาง 5 คนลงล็อคแล้ว 4 ตำแหน่งคือ อันเดรส อีเนียสต้า, ดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ และ อีสโก้ อาลาร์กอน เหลืออีกหนึ่งเป็นการเบียดแย่งกันระหว่าง ติอาโก้ อัลกันตาร่า กับ โกเก้ ซึ่งติอาโก้เด็กในคาถาของโลเปเตกีมีภาษีเหนือกว่า
ส่วนแนวรุกที่เทรนเนอร์ชาวบาสโก้ยังไม่ฟันธงชัดเจนว่าจะตัดสินใจเลือกใครลงสนามก่อน แต่มีแนวโน้มว่า ดีเอโก้ คอสต้า มีโอกาสออกสตาร์ทก่อนใคร
สเปน อยู่กลุ่ม ดี ร่วมกับ โปรตุเกส ดีกรีแชมป์ยูโร 2016, โมร็อกโก และ อิหร่าน ดังนั้นเกมเปิดสนามกับทีมโปรตุกีสจึงมีผลต่อเส้นทางในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ของทีมกระทิงว่าจะไปได้ไกลเพียงใด
หากทัพกระทิงจบรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม บี จะอยู่สายล่างมีคิวชนกับทีมอันดับ 2 กลุ่ม เอ ซึ่งอาจเป็นเจ้าภาพ รัสเซีย หรือ อียิปต์ ของ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ในรอบ 16 ทีม และมีโอกาสชนกับ อาร์เจนตินา ในรอบควอเตอร์ไฟนัลและอาจจะเป็นแชมป์เก่า เยอรมัน ในรอบตัดเชือก
แต่ถ้าทีมของโลเปเตกีหลุดมาเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม บี จะขึ้นมาอยู่สายบนมีโปรแกรมพบกับทีมแชมป์กลุ่ม เอ ซึ่งอาจเป็น อุรุกวัย ของ หลุยส์ ซัวเรซ และชาวคณะ ตามด้วย ฝรั่งเศส ในรอบควอเตอร์ไฟนัล ก่อนเข้าเล่นรอบตัดเชือกกับ บราซิล
นั่นคือเส้นทางบนเวทีฟุตบอลโลกของ สเปน ของ โลเปเตกี ซึ่งอาจไม่ใช่ทีมเต็งหามตามสายตาของใครหลายคน แต่ทุกอย่างยังเป็นไปได้สำหรับทัพกระทิงชุดนี้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT