คนที่ใช่!?!?
เมื่อคนที่ถูกเลือกอย่าง เฟร์นานโด เอียร์โร่ แสดงให้เห็นว่ามือยังไม่ถึงสำหรับการทำงานใหญ่ในฐานะเทรนเนอร์ทีมชาติสเปนจากผลงานการคุมทัพกระทิง 4 นัดก่อนกระเด็นตกรอบ 16 ทีมของศึกฟุตบอลโลกที่รัสเซีย
แม้บางคนอาจมองว่า เอียร์โร่ กลายเป็นเหยื่อของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นก่อนหน้าทัวร์นาเมนต์ก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าอดีตกองหลังทีมชาติสเปนผู้นี้ยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอสำหรับการเป็นนายใหญ่ของทัพกระทิง
นับจากนี้จึงเป็นเวลาของการเสาะหาผู้ที่มีความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งดังกล่าวเพื่อกู้ซากทัพกระทิงกลับมาอีกครั้งและเตรียมตัวลงทำศึก'ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก'กับ อังกฤษ ที่'เวมบลีย์ สเตเดี้ยม'ในวันที่ 8 กันยายนนี้
เอียร์โร่ จะถอยกลับไปนั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของสหพันธ์ฟุตบอลสเปนอีกครั้ง ก่อน หลุยส์ รูเบียเลส ประธานสหพันธ์ฯและคณะกรรมการของสหพันธ์ฯจะเริ่มต้นกระบวนการเสาะหาเทรนเนอร์ทีมกระทิงคนต่อไป
สื่อสเปนนำเสนอรายชื่อเทรนเนอร์ที่อยู่ในลิสต์ของสหพันธ์ฟุตบอลเมืองกระทิงและทีมงานของรูเบียเลตอนนี้มี 5 ตัวเลือกอย่าง เอ็นรีเก้ ซานเชซ ฟลอเรส, หลุยส์ เอ็นรีเก้ มาร์ตีเนซ, ฟรานซิสโก้ หรือ ปาโก้ เฆเมซ, มิเกล กอนซาเลซ เดล กัมโป้ หรือ มิเชล กับ เอ็นรีเก้ เซเตียน
แต่ละคนล้วนมีคุณสมบัติเหมาะสมและประสบการณ์สำหรับการรับหน้าที่กู้ซากกระทิงหลังจากนี้
1.เอ็นรีเก้ ซานเชซ ฟลอเรส (53 ปี)
กีเก้ ซานเชซ ฟลอเรส เคยเล่นตำแหน่งแบ็กขวากับ บาเลนเซีย, เรอัล มาดริด และ เรอัล ซาราโกซ่า อีกทั้งยังเคยลงเล่นกับทีมชาติสเปน 15 นัดในช่วงปี 1987-1991
เทรนเนอร์วัย 53 ปียังมีประสบการณ์คุมทีมโชกโชนผ่านงานกับหลายสโมสรทั้ง เรอัล มาดริด (เยาวชน), เคตาเฟ่, บาเลนเซีย, เบนฟิก้า, แอตเลติโก มาดริด, อัล อาห์ลี (ยูเออี), อัล ไอน์ (ยูเออี), วัตฟอร์ด และต้นสังกัดล่าสุดคือ เอสปันญ่อล
ตลอดอาชีพการทำงานในฐานะเทรนเนอร์คุมทีมลงเล่นรวมกัน 529 นัด ทำสถิติชนะ 230 เสมอ 133 แพ้ 166
กีเก้ ซานเชซ ฟลอเรส เคยประสบความสำเร็จในฐานะเทรนเนอร์ไม่น้อยเช่นกันจากการนำ เบนฟิก้า คว้าแชมป์ลีกโปรตุเกสฤดูกาล 2008-09, นำ แอตเลติโก มาดริด คว้าแชมป์ยูโรปาลีกซีซั่น 2009-10 พร้อมแชมป์ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ ปี 2010 และเคยคว้ารองแชมป์โกปา เดล เรย์ในฤดูกาลเดียวกันด้วย
เทรนเนอร์วัย 53 ปียังนำ อัล อาห์ลี คว้าแชมป์ยูเออี ลีก คัพ ฤดูกาล 2011-2012 และแชมป์เพรสซิเดนท์ คัพ ฤดูกาล 2012-2013 ก่อนตบท้ายด้วยการคว้าแชมป์เพรสซิเดนท์ คัพ กับ อัล ไอน์ ในซีซั่น 2013-2014
2.หลุยส์ เอ็นรีเก้ มาร์ตีเนซ (48 ปี)
หลุยส์ เอ็นรีเก้ เคยค้าแข้งกับ สปอร์ติ้ง คิฆอน, เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า เขาเคยลงเล่นกับทีมชาติสเปน 62 นัด ยิง 12 ประตูในช่วงปี 1991-2002
เขาเริ่มต้นงานเทรนเนอร์กับ บาร์เซโลน่า เบ หลังเข้ามารับตำแหน่งต่อจาก 'เป๊ป'กวาร์ดิโอล่า ในช่วงซัมเมอร์ปี 2008 จากนั้นจึงโยกมารับงานคุมโรม่าในปี 2011 แต่ไม่ประสบความสำเร็จจนต้องแยกทางกับทีมหมาป่าในปีต่อมา
หลุยส์ เอ็นรีเก้ กลับสเปนมารับตำแหน่งเทรนเนอร์ของ เซลต้า บีโก้ ในฤดูกาล 2013-14 จนกระทั่งถูก บาร์เซโลน่า ดึงไปรับงานต่อจาก เคราร์โด้ มาร์ตีโน่ หรือ 'ตาต้า'ในซีซั่นต่อมา
เทรนเนอร์วัย 48 ปีประสบความสำเร็จล้นหลามในช่วงการทำงาน 3 ปีในถิ่น'คัมป์ นู'นำทัพอาซูลกราน่าคว้าแชมป์ลีกา 2 สมัย (2014-15, 2015-16), แชมป์โกปา เดล เรย์ 3 ครั้ง (2014-15, 2015-16, 2016-17), แชมป์สแปนิช ซูเปอร์ คัพ (2016), แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก (2014-15), แชมป์ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ (2015) และ แชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ (2015)
ตลอดอาชีพของการเป็นเทรนเนอร์ หลุยส์ เอ็นรีเก้ คุมทีมลงสนามรวมกัน 387 เกม ทำสถิติชนะ 229 เสมอ 78 แพ้ 80
3.ฟรานซิสโก้ เฆเมซ มาร์ติน (48 ปี)
ปาโก้ เฆเมซ เคยเล่นตำแหน่งเซนเตอร์กับหลายสโมสรทั้ง กอร์โดบา, มูร์เซีย, ราโย บาเยกาโน่, เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า, เรอัล ซาราโกซ่า และ ลูโก้ เขาเคยเล่นกับทีมชาติสเปน 21 นัดในช่วงปี 1998-2001
เทรนเนอร์ชาวกานารีโอเคยคุมหลายสโมสรอย่าง อัลกาล่า, กอร์โดบา, การ์ตาเคน่า, ลาส ปัลมาส, ราโย บาเยกาโน่, กรานาก้า, กรูซ อาซูล และ ลาส ปัลมาส ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา มีสถิติการคุมทีมลงสนามรวมกัน 390 นัด ชนะ 127 เสมอ 106 แพ้ 157
ผลงานการทำงานของ ปาโก้ เฆเมซ อาจดูขี้เหร่กว่าแคนดิเดตรายอื่น แต่เทรนเนอร์วัย 48 ปีทำทีมเล่นเกมรุกตื่นเต้นเร้าใจโดยเฉพาะช่วงที่คุมสโมสรเล็กๆอย่าง ราโย บาเยกาโน่ ในช่วงปี 2012-2016 และยังเคยเป็นชื่อเป็นตัวเลือกของสหพันธ์ฟุตบอลสเปนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาด้วย ก่อน จูเลน โลเปเตกี จะถูกเลือกเข้ามารับตำแหน่งต่อจาก บีเซนเต้ เดล บอสเก้ หลังศึกยูโร 2016
4.โฆเซ่ มิเกล กอนซาเลซ มาร์ติน เดล กัมโป้ หรือ มิเชล (55 ปี)
มิเชล เป็นอดีตมิดฟิลด์ดีที่สุดคนหนึ่งของวงการลูกหนังเมืองกระทิงเคยค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ในช่วงปี 1982-1996 ก่อนปิดฉากชีวิตค้าแข้งกับ เซลาย่า ของเม็กซิโกในซีซั่น 1996-1997 เขาเคยเล่นกับทีมชาติสเปน 66 นัดและมีส่วนร่วมกับศึกฟุตบอลโลก 2 สมัยในปี 1986 กับ 1990
ชีวิตการทำงานในฐานะเทรนเนอร์ของ มิเชล เริ่มต้นกับ ราโย บาเยกาโน่ ในซีซั่น 2005-2006 ก่อนกลับมารับงานคุมทีมเยาวชนของ เรอัล มาดริด ฤดูกาลต่อมา จากนั้นจึงย้ายมาทำงานกับ เคตาเฟ่, เซบีย่า, โอลิมเปียกอส, มาร์กเซย และสโมสรล่าสุดอย่าง มาลาก้า ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมาก่อนทีมมาลาเกนโญ่จะตกชั้น
ความสำเร็จในฐานะเทรนเนอร์ของ มิเชล เกิดขึ้นเฉพาะช่วงที่กุมบังเหียนโอลิมเปียกอสเท่านั้น หลังทีมนำยักษ์ใหญ่ของกรีซคว้าแชมป์ซูเปอร์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน (2012-13, 2013-14, 2014-15) และแชมป์กรีซ คัพ (2012-13)
ตลอดอาชีพการเป็นเทรนเนอร์ของ มิเชล คุมทีมลงเล่นรวมกัน 394 นัด ชนะ 175 เสมอ 88 แพ้ 131
5.เอ็นรีเก้ เซเตียน (59 ปี)
กีเก้ เซเตียน เคยเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์กับหลายสโมสรทั้ง ราซิ่ง ซานตานเดร์, แอตเลติโก มาดริด, โลโกรนเญส และ เลบันเต้ ช่วงการค้าแข้งระหว่างปี 1977-1996 เขาเคยเล่นกับทีมชาติสเปน 3 นัดในช่วงปี 1985-86
สำหรับบทบาทการเป็นเทรนเนอร์ของ กีเก้ เซเตียน เริ่มต้นกับ ราซิ่ง ซานตานเดร์ ในซีซั่น 2001-2002 จากนั้นจึงย้ายมาทำงานกับสโมสรเล็กๆอย่าง โปลี เอฆีโด้, โลโกรนเญส, ลูโก้ รวมถึงการคุมทีมชาติเอควาทอเรียล กินี ในช่วงปี 2006 ด้วย แต่ทำงานดังกล่าวเพียง 3 เดือน
กีเก้ เซเตียน ย้ายมารับตำแหน่งเทรนเนอร์ของ ลาส ปัลมาส ต่อจาก ปาโก้ เอร์เรร่า ในช่วงเดือนตุลาคมปี 2015 เขาช่วยนำทีมชาวเกาะที่อยู่ในโซนตกชั้นจบฤดูกาลอันดับ 11 ก่อนจะย้ายมากุมบังเหียน เรอัล เบติส ในซีซั่นที่ผ่านมาและนำทีมเบตีโก้คว้าตั๋วไปเล่นยูโรปาลีกรอบแบ่งกลุ่มตามเป้าหมาย
ตลอดอาชีพในฐานะเทรนเนอร์ของ กีเก้ เซเตียน คุมทีมลงเล่นรวมกัน 446 เกม ชนะ 167 เสมอ 127 แพ้ 152
แม้ยังไม่มีความสำเร็จก็ตาม แต่เทรนเนอร์วัย 59 ปีมีชื่อเสียงในด้านความกล้าหาญในปรัชญาฟุตบอลของเขาซึ่งถูกจับไปเชื่อมโยงกับแนวทางการทำทีมของ โยฮัน ครัฟฟ์ รวมถึง'เป๊ป'กวาร์ดิโอล่า ในช่วงเริ่มต้นกับบาร์เซโลน่า ด้วยสไตล์การเล่นแบบกล้าได้กล้าเสียของ ลาส ปัลมาส และ เรอัล เบติส ภายใต้การคุมทีมของ กีเก้ เซเตียน ทำให้เขาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจของสหพันธ์ฟุตบอลสเปน
อย่างไรก็ตามปัญหาของ กีเก้ เซเตียน คือเขายังมีสัญญากับ เรอัล เบติส ซึ่งเคยเซ็นไว้ 3 ซีซั่นตั้งแต่ปี 2017 แตกต่างจากแคนดิเดตอีก 4 คนที่พร้อมรับงานทุกเวลา
เทรนเนอร์แต่ละคนล้วนมีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันจึงขึ้นอยู่กับ หลุยส์ รูเบียเลส และคณะกรรมการของสหพันธ์ฟุตบอลสเปนจะพิจารณาว่าใครคือคนที่ใช่สำหรับภารกิจกู้ซากกระทิงหลังจากนี้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT