นับถอยหลังกับมาดริด
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายจาก แมนฯยูไนเต็ด มาค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์ปี 2009 ด้วยค่าตัว 94 ล้านยูโร ซึ่งเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นสถิติในขณะนั้น โดยสวมเสื้อหมายเลข 9 ก่อนจะสลับมาใส่เบอร์ 7 ในฤดูกาลต่อมาหลังการอำลาสโมสรของ ราอูล กอนซาเลซ
ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา โรนัลโด้ นำ เรอัล มาดริด ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ยุโรป 4 สมัย ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์รายการนี้ตลอด 3 ปีหลังสุด (2013–14, 2015–16, 2016–17, 2017–18)
โรนัลโด้ ยังนำทีมชุดขาวคว้าแชมป์ลีกา 2 สมัย (2011–12, 2016–17), โกปา เดล เรย์ 2 ครั้ง (2010–11, 2013–14), ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 2 ครั้ง (2014, 2017), ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 3 สมัย (2014, 2016, 2017) และ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ 2 ครั้ง (2012, 2017)
กองหน้าชาวโปรตุกีสยังสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้เล่นที่ทำประตูให้ เรอัล มาดริด มากที่สุดถึง 450 ประตูจากการลงเล่น 438 นัดตลอด 9 ฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการยิงอย่างน้อย 40 ประตูถึง 8 ซีซั่นติดต่อกัน
โรนัลโด้ ยังกระทุ้งประตูในทุกรายการแข่งขันกับ เรอัล มาดริด ทั้ง ลีกา (311), แชมเปี้ยนส์ลีก (105), โกปา เดล เรย์ (22), ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ (6), สแปนิช ซูเปอร์ คัพ (4) และ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ (2) เขายังเป็นผู้เล่นคนแรกที่ยิงประตูในแชมเปี้ยนส์ลีก 11 เกมติดต่อกัน
ผลงานของเขาเหนือกว่าเหล่าตำนานทีมชุดขาวทั้ง ราอูล กอนซาเลซ (323), อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ (308), การ์ลอส อลอนโซ่ กอนซาเลซ ซานตียาน่า (290), เฟเรนซ์ ปุสกัส (242) หรือ อูโก้ ซานเชซ (208)
โรนัลโด้ ซัดบนเวทีลีกามากสุดของทีมชุดขาว 311 ประตูจากการลงเล่น 292 นัด ทำแฮตทริคในเมืองกระทิงมากสุด 34 ครั้งและเคยทำถึง 8 แฮตทริคในซีซั่นเดียวเท่ากับ ลิโอเนล เมสซี่ ของ บาร์เซโลน่า
เขาเป็นผู้เล่นคนเดียวของลีกาที่ยิงอย่างน้อย 30 ประตู 6 ฤดูกาลติดต่อกันและเคยยิงครบ 19 ทีมในฤดูกาล 2012-13 เทียบเท่าผลงานของ โรนัลโด้ นาซารีโอ กับ เมสซี่
นั่นเป็นสรรพคุณของนักเตะชื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ยังยกมาไม่หมดด้วยซ้ำ ซึ่งมันเป็นผลงานที่จับต้องได้และสร้างคุณประโยชน์ต่อ เรอัล มาดริด ตลอดช่วง 9 ปีที่ผ่านมา
แต่คนชื่อ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ กำลังมองถึงผลประโยชน์ทางธุรกิจมากกว่าผลงานบนเวทีลูกหนัง
หลายต่อหลายคนพยายามเตือนสติท่านประธานฟลอเรนติโน่ให้ไตร่ตรองด้วยความละเอียดถี่ถ้วนว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะก่อให้เกิดผลดีหรือผลเสียต่อสโมสรมากกว่ากัน
ราม่อน กัลเดรอน อดีตประธานสโมสร เรอัล มาดริด ในช่วงปี 2006-2009 ระบุว่าการหาตัวตายตัวแทนนักเตะอย่าง โรนัลโด้ ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้สื่อหลายสำนักระบุว่า ฟลอเรนติโน่ เปเรซ เล็งดึง เนย์มาร์ เข้ามารับช่วงต่อจากซุปตาร์ชาวโปรตุกีสแล้วก็ตาม
'ถ้า โรนัลโด้ ย้ายออกจาก เรอัล มาดริด เขาจะทิ้งช่องว่างที่ยากจะเติมเต็ม คุณไม่สามารถหานักเตะแบบนี้ได้ นอกเหนือจากการมีส่วนร่วมกับการเล่นของทีม มันยังรวมถึงการการันตีการทำ 50 ประตูต่อซีซั่นหรือมากกว่านั้นตลอด 9 ฤดูกาลที่ผ่านมา'
'ฟลอเรนติโน่ เปเรซ เคยตัดสินใจได้ดีเพื่อ เรอัล มาดริด ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่เขามีข้อบกพร่องคือไม่เหลืออะไรไว้ให้คนอื่นอย่างสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ราอูล (กอนซาเลซ) และ (อีเกร์) กาซียาส'
'ทุกอย่างจบลงเมื่อ โรนัลโด้ ตระหนักว่า ฟลอเรนติโน่ ไม่ได้ให้คุณค่ากับเขามากเท่าที่ควร เขาต้องการค่าเหนื่อยที่มากขึ้นเทียบเคียงกับสุดยอดนักเตะในระดับเดียวกัน เขายิ่งรู้สึกหงุดหงิดเมื่อมีข่าวว่า เรอัล มาดริด พร้อมจ่ายเงินค่าเหนื่อยเป็นสองเท่าเพื่อดึงเนย์มาร์มาร่วมทีม'กัลเดร่อนกล่าว
สองตำนานของ เรอัล มาดริด ทั้ง ราอูล กอนซาเลซ กับ อีเกร์ กาซียาส เป็นตัวอย่างของการปฏิบัติต่อนักเตะที่ฟลอเรนติโน่มองเห็นว่าหมดคุณค่าได้เป็นอย่างดี
ราอูลเติบโตมาจากทีมเยาวชนจนกระทั่งก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 1994 เขาเคยเป็นถึงเจ้าของสถิติทำประตูมากสุดของสโมสร แต่ฟลอเรนติโน่บีบให้ต้องตัดสินใจอำลาทีมที่อยู่มานานถึง 15 ปีหลังจบฤดูกาล 2009-2010
ไม่ต่างจากสถานการณ์ของ กาซียาส ที่ก้าวมาจากทีมเยาวชนในปี 1999 ก่อนถูกบีบพ้นทีมหลังจบฤดูกาล 2014-2015 ทั้งที่นักเตะต่างต้องการยุติอาชีพค้าแข้งกับทีมชุดขาว แต่ฟลอเรนติโน่ไม่เหลืออะไรไว้ให้พวกเขาเลย
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เคยแสดงเจตนารมณ์ผ่านสื่อหลายครั้งว่าเขาต้องการค้าแข้งยุติอาชีพค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด หรืออย่างน้อยก็อยู่ไปจนกว่าจะหมดสัญญาในปี 2021
ก่อนการต่อสัญญาฉบับล่าสุด ฟลอเรนติโน่ยังเคยรับปากไว้ว่าจะเพิ่มค่าเหนื่อยให้นักเตะและอย่างช้ามันควรจะเกิดขึ้นก่อนศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซียจะเริ่มต้นขึ้น แต่ผ่านมาจนถึงวันนี้ประธานทีมชุดขาวยังไม่ทำตามคำพูดและมีทีท่าว่าจะปล่อยโรนัลโด้ออกจากถิ่น'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'ด้วยซ้ำ
โรนัลโด้ รับค่าจ้าง 21 ล้านยูโรต่อปีในสัญญาปัจจุบัน ซึ่งฟลอเรนติโน่เคยรับปากกว่าจะเพิ่มขึ้นให้เป็นปีละ 30 ล้านยูโรบวกโบนัสเพิ่มเติมอีก 2 ล้านยูโร เพื่อให้ใกล้เคียงกับค่าจ้างของ เนย์มาร์ ซึ่งรับทรัพย์จาก เปแอสเช ปีละ 35 ล้านยูโร ส่วน เมสซี่ รับค่าจ้างจากบาร์เซโลน่าปีละ 45 ล้านยูโร
ถ้าฟลอเรนติโน่มีเจตนาดีแสดงความจริงใจด้วยการทำตามคำพูดที่เคยรับปากไว้กับนักเตะก่อนหน้านี้ ประธานทีมชุดขาวคงไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาจนถึงทุกวันนี้
ฟลอเรนติโน่มองอนาคตว่าหากเขาเพิ่มค้าจ้างให้ตามความต้องการของโรนัลโด้ มันจะส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายประจำปีของสโมสรที่ปัจจุบันต้องจ่ายเป็นค่าเหนื่อยนักเตะมากกว่า 65% ซึ่งเขาจะไม่สามารถดึงสตาร์ดังอย่าง เนย์มาร์, คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ หรือ เอแด็น อาซาร์ อย่างที่คาดหวัง
ขณะเดียวกันแม้โรนัลโด้จะมีอายุถึง 33 ปี แต่นักเตะยังเป็นที่สนใจของหลายสโมสรโดยเฉพาะกับทีมที่กำลังตกเป็นข่าวอย่างยูเวนตุส ซึ่งเขาสามารถทำเงินจากการขายนักเตะได้ไม่น้อยกว่า 100 ล้านยูโร แถมยังเคลียร์เพดานค่าจ้างของซุปตาร์ชาวโปรตุกีสออกจากบัญชีรายจ่าย ตามมุมมองของฟลอเรนติโน่คงเห็นว่ามันน่าจะเป็นผลดีต่อสโมสรมากกว่าผลเสีย
ถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาด เรอัล มาดริด คงเลือกปล่อย โรนัลโด้ ออกจากถิ่น'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'เพียงแต่สโมสรต้องการให้นักเตะแถลงแสดงความประสงค์ว่าต้องการย้ายสังกัดก่อนเท่านั้น เนื่องจาก ฟลอเรนติโน่ ไม่ต้องการให้ตัวเองและสโมสรถูกโจมตีที่ตัดสินใจปล่อยนักเตะอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ออกจากทีม
วันและเวลาของ โรนัลโด้ กับ เรอัล มาดริด เหลือน้อยลงทุกขณะเพียงแต่ซุปตาร์ชาวโปรตุกีสจะตีจากทีมชุดขาวเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับ ฟลอเรนติโน่ จะพึงพอใจกับผลตอบแทนที่ได้รับกลับมาเท่านั้น ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าประธานทีมชุดขาวจะพยายามรีดเค้นเอาประโยชน์จากโรนัลโด้จนถึงหยดสุดท้ายจริงๆ
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT