สองยักษ์นัดกันหัวทิ่ม
แพ้ง่าย, พ่ายเร็วและเกิดขึ้นในวันเดียวกันของสองทีมเต็งแชมป์ลีกา บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด มีหลายเรื่องราวที่ต้องกล่าวถึง
บาร์เซโลน่า นำ 1-0 ก่อนจะถูก เลกาเนส ยิงแซงขึ้นนำในเวลาเพียง 68 วินาทีพลิกคว้าชัย 2-1 ส่วน เรอัล มาดริด พ่าย เซบีย่า ยับเยินหลังถูกถลุง 3 ประตูตั้งแต่ช่วงครึ่งแรก
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังทั้งสองทีมเคยนัดกันหัวทิ่มวันเดียวกันโดยมิได้นัดหมายในช่วงเดือนมกราคมปี 2015
บาร์เซโลน่า ยุค หลุยส์ เอ็นรีเก้ ที่ดร็อบทั้ง ลิโอเนล เมสซี่ กับ เนย์มาร์ เป็นตัวสำรองหลังเดินทางกลับมาจากพักผ่อนช่วงคริสต์มาสต่อเนื่องจนถึงปีใหม่ในเกมเยือนสังเวียน'อาโนเอต้า'
แม้เทรนเนอร์ชาวอัสตูเนียโน่จะพยายามแก้ไขสถานการณ์ด้วยการส่งซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ตามด้วยดาวดังชาวบราซิเลียนลงเล่นช่วงครึ่งหลัง แต่ เรอัล โซเซียดาด ของ เดวิด มอยส์ ยังเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะจากการสกัดบอลเข้าประตูตัวเองตั้งแต่ช่วงต้นเกมของ จอร์ดี้ อัลบา
ส่วน เรอัล มาดริด ของ คาร์โล อันเชล็อตติ บุกไปพ่ายบนสังเวียนเมสตาย่าของ บาเลนเซีย ยุค นูโน่ เอสปีรีโต ซานโต้ กุนซือคนปัจจุบันของ วูล์ฟแฮมป์ตัน
'อันเช่'จัดทีมลงสนามเต็มพิกัดไม่พักนักเตะตัวหลักๆเหมือนเอ็นรีเก้นำทัพโดยแนวรุก'BBC'คาริม เบนเซม่า, แกเร็ธ เบล และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก่อน'CR7'จะสังหารจุดโทษให้ทีมชุดขาวขึ้นนำนาที 14 แต่ทีมค้างคาวทวงคืนสองลูกรวดช่วงต้นครึ่งหลังจาก อันโตนิโอ บาร์รากาน กับ นิโกลัส โอตาเมนดี้
สองยักษ์เมืองกระทิงหัวทิ่มวันเดียวกันครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2015 ก่อนเหตุเดิมจะเกิดซ้ำรอยอีกครั้งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด ต่างออกตัวสวยและทำท่าว่าจะตีคู่ลุ้นแย่งแชมป์ลีกาซีซั่นนี้กันเพียงสองทีมหลังอีกหนึ่งคู่แข่งอย่าง แอตเลติโก มาดริด ออกอาการเป๋ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล
สองทีมเต็งต่างคว้าชัยชนะ 3 เกมแรกก่อน เรอัล มาดริด จะสะดุดเสมอ แอธเลติก บิลเบา 1-1 ที่'ซาน มาเมส บาร์เรีย'ปล่อยให้ บาร์เซโลน่า เป็นทีมเดียวที่คว้าชัยชนะ 4 นัดรวด ทว่าทัพอาซูลกราน่าสะดุดตามมาหลังทำได้แค่เสมอ คีโรน่า 2-2 ก่อนทั้งสองทีมเต็งจะพ่ายแพ้ในวันเดียวกันจากการลงเล่นเพียงนัดที่ 6 ของซีซั่น
สำหรับ เรอัล มาดริด อาจไม่ใช่เรื่องผิดไปจากปกตินักเนื่องจากเป็นการปราชัยบนสังเวียนอาถรรพ์อย่าง'ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน'อีกทั้งทีมชุดขาวยุค ซีเนดีน ซีดาน ก็ปราชัยครั้งแรกตั้งแต่การลงเล่นนัดที่ 5 ของฤดูกาลต่อ เรอัล เบติส คาถิ่น'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'ช่วงซีซั่นที่ผ่านมา
แต่มันเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจสำหรับ บาร์เซโลน่า ทั้งที่ทีมของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เกือบจะสร้างสถิติไร้พ่ายในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา ก่อนจะสะดุดพ่าย เลบันเต้ 4-5 จากการลงเล่นนัดที่ 37 ของซีซั่นก่อน แต่ซีซั่นนี้กลับเสียท่าตั้งแต่การลงเล่นนัดที่ 6 และที่สำคัญมันเกิดขึ้นกับทีมสามัญประจำลีกอย่าง เลกาเนส ซึ่งยังไม่ชนะใครตลอด 5 นัดที่ผ่านมา
บาร์เซโลน่า ยังทุบ เลกาเนส มาตลอด 4 ครั้งที่พบกับบนเวทีลีกาก่อนหน้านั้นและกระทุ้งรวมกันถึง 13 ประตู ก่อนทีมอาซูลกราน่าจะพ่ายครั้งแรกจากการเสียสองประตูภายในเวลา 68 วินาทีและคนทำประตูชัยคือ ออสการ์ โรดริเกซ มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 20 กะรัตเด็กปั้นของทีมชุดขาวที่ เลกาเนส ยืมตัวมาใช้งานซะด้วย
'แน่นอน, ในตอนท้ายโค้ชคือผู้รับผิดชอบ ผมรู้สึกเหมือนโค้ชที่รู้สึกเมื่อเขาพ่ายแพ้'เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ กล่าวหลังเกม
'วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงสองอย่าง ในเคสของ หลุยส์ (ซัวเรซ) ผมมีแผนจะพักเขาในสัปดาห์นี้และเพราะจอร์ดี้ (อัลบา) เล่นมาตลอดทุกเกมที่ผ่านมา ผมกังวลว่าเขาจะมีปัญหา'เทรนเนอร์บาสโก้ชี้แจงเหตุผลที่ตัดสินใจพักทั้ง หลุยส์ ซัวเรซ กับ จอร์ดี้ อัลบา พร้อมส่ง มูนีร์ เอล อัดดาดี้ กับ โธมัส แฟร์มาเล่น ลงสนามแทน
'นี่คือฟุตบอลและมันสามารถเกิดขึ้นได้ บางครั้งมันก็เป็นเรื่องยากจะที่อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเกม'
'เราเป็นฝ่ายครองเกม แต่พวกเขาใช้เวลาเพียงนาทีเดียวทำให้เราเจ็บปวด'
'มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่เกมวันเสาร์นี้เป็นแมตช์สำคัญและเป็นการลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลของเรา เราต้องกลับมาและหวังว่าทุกคนจะช่วยพวกเราได้'บัลเบร์เด้ กล่าวถึงเกมดวลทีมเก่า แอธเลติก บิลเบา บนสังเวียน'คัมป์ นู'วันเสาร์นี้
ประตูที่สองของ เลกาเนส มาจากการสกัดบอลผิดพลาดของ เคราร์ด ปีเก้ เหมือนเป็นการผ่านบอลให้ ออสการ์ โรดริเกซ ยิงเข้าไปง่ายๆ แต่เพื่อนร่วมทีม เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ไม่ได้โยนความผิดให้สามีชากีร่าแต่อย่างใดโดยระบุว่าเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกคนในทีม
'พวกเราเป็นทีม เราชนะและแพ้ด้วยกัน เราต้องประเมินผลในฐานะทีม นักเตะทั้ง 11 คนของเราลงสนามและเราทุกคนพ่ายแพ้ด้วยกัน'
การปราชัยของทีมอาซูลกราน่าจึงเป็นการฉลองการลงเล่นนัดที่ 700 กับทีมยักษ์กาตาลุนย่าที่ไม่สวยนักของ ลิโอเนล เมสซี่ ทำสถิติตามหลังเฉพาะ ชาบี เอร์นานเดซ (869) กับ อันเดรส อีเนียสต้า (758) เพียงสองคนเท่านั้น
เมสซี่ เพิ่งสร้างสถิติเป็นแข้งต่างชาติที่ลงเล่นลีกามากสุด 423 นัดในเกมเสมอ คีโรน่า 2-2 แซงหน้าผลงานเดิมของอดีตเพื่อนร่วมทีม ดาเนียล อัลเวส และแน่นอนการเดินหน้าทำสถิติกระทุ้งประตูบนเวทีลีกาครบ 400 คงจะเกิดขึ้นไม่ยากหลัง เมสซี่ กระทุ้งไปแล้ว 388 ประตูในตอนนี้
สลับมาที่'ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน'ซึ่งการันตีความเป็นสังเวียนอาถรรพ์สำหรับ เรอัล มาดริด ได้เป็นอย่างดีหลังทีมเซบียาโน่เปิดบ้านทุบทีมชุดขาวขาดลอย 3-0 ซึ่งเป็นการพ่ายแพ้ในสนามแห่งนี้ตลอด 4 ครั้งหลังสุดของอาคันตุกะจากเมืองหลวงซ้ำรอยที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 60 ปีก่อนหน้านี้
'เรอัล มาดริด ไม่เคยแพ้ 4 เกมติดต่อกันใน เซบีย่า นับตั้งแต่ปี 1953-1958'
'ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน'ยังเป็นสังเวียนที่ เรอัล มาดริด พ่ายแพ้บนเวทีลีกามากสุดในศตวรรษนี้ถึง 11 ครั้ง
จูเลน โลเปเตกี ทราบดีว่า'ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน'เป็นสังเวียนอาถรรพ์และเป็นสนามที่เล่นด้วยยากสำหรับ เรอัล มาดริด ดังนั้นเทรนเนอร์ทีมชุดขาวจึงจัดเต็มปรับเฉพาะตำแหน่งแบ็กขวาที่ส่ง นาโช่ เฟร์นานเดซ ลงเล่นแทน ดาเนียล การ์บาฆาล ที่บาดเจ็บเท่านั้น แต่ยังถูกทีมของ ปาโบล มาชิน ถลุงพ่ายยับจากการทำคนเดียวสองประตูของ อันเดร ซิลวา ของไร้ค่าที่มิลานแต่กลับกลายเป็นของล้ำค่าที่เซบีย่าบวกอีกหนึ่งประตูจาก วิสซาม เบน เยแดร์
'เซบีย่าเหนือกว่าและพวกเขาสมควรเป็นฝ่ายชนะ'โลเปเตกีก้มหน้ายอมรับผลการแข่งขัน'เราทำไม่ได้เป็นแบบที่เราต้องการและเราเสียประตูในช่วงครึ่งแรกจากเกมสวนกลับ ในช่วงครึ่งหลังเราหวังว่าถ้าเราทำประตูได้ เราจะมีโอกาสกลับมาสู่เกม ถ้าเราไม่พลาดโอกาสหลายครั้งหลายหน เราก็อาจจะกลับมาได้'
5 นักเตะของ เรอัล มาดริด เดินทางไปร่วมงาน'ฟีฟ่า เดอะ เบสต์'ที่กรุงลอนดอนเมื่อคืนวันจันทร์ทั้ง ลูก้า โมดริช, เซร์คิโอ รามอส, ราฟาแอล วาราน, มาร์เซโล่ วิเอยร่า กับ ติโบต์ กูร์กตัวส์ แต่เทรนเนอร์ทีมชุดขาวยืนยันว่ามันไม่สามารถใช้เป็นข้ออ้างสำหรับการปราชัยต่อทีมเซบียาโน่
'มันชัดเจนว่านั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น แต่มันคงจะเป็นการฉวยโอกาสหากกล่าวโทษเรื่องนี้'
'เราพ่ายแพ้ในเกมเพราะเราไม่ดีพอ ผู้จัดการไม่ดีพอ ผมคิดว่าถ้าเราทำประตูได้ มันอาจจะเพิ่มทางเลือกให้เรามากขึ้นและหลังจากนั้น เราโชคร้ายที่ต้องเล่นด้วยผู้เล่น 10 คน'
เรอัล มาดริด ลงเล่นช่วง 15 นาทีสุดท้ายเพียง 10 คนหลัง มาร์เซโล่ บาดเจ็บ ขณะที่โลเปเตกีเปลี่ยนตัวผู้เล่นครบ 3 คนก่อนหน้านั้นหลังการส่ง มาเรียโน่ ดีอาซ, ลูกัส บาซเกซ กับ ดาเนียล เซบายอส ลงเล่นแทน คาริม เบนเซม่า, นาโช่ เฟร์นานเดซ กับ ลูก้า โมดริช ตามลำดับ
'มันดูเหมือนว่า มาร์เซโล่ จะมีอาการฉีกขาด (กล้ามเนื้อน่อง) แต่เราจะรอดูในวันพรุ่งนี้'โลเปเตกีกล่าวถึงอาการบาดเจ็บของแบ็กซ้ายชาวบราซิเลียน
เรอัล มาดริด มีปัญหาที่ตำแหน่งฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งก่อนลงทำศึก'มาดริดดาร์บี้'กับ แอตเลติโก มาดริด ในวันเสาร์นี้ หลังการบาดเจ็บของ มาร์เซโล่ ซึ่งหากถึงขั้นกล้ามเนื้อน่องฉีกขาดก็อาจต้องพักราว 2 เดือน ขณะที่ ดาเนียล การ์บาฆาล แบ็กขวาทีมชาติสเปนเป็นอีกรายที่อาจชวดลงสนาม ส่วน อัลบาโร่ โอดรีโอโซล่า แบ็กดาวรุ่งบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา
สาวกมาดริดิสต้าคงรู้จัก ปาโบล ฆาเบียร์ มาชิน เทรนเนอร์ของทีมเซบียาโน่เป็นอย่างดีเพราะเทรนเนอร์วัย 43 ปีเคยนำ คีโรน่า พลิกล็อกโค่น เรอัล มาดริด ของ ซีดาน มาแล้วในช่วงซีซั่นที่ผ่านมาก่อนจะย้ายมารับตำแหน่งเทรนเนอร์ของทีมดังแดนใต้ในช่วงปิดซีซั่น
มาชิน กล่าวหลังเกมชำเรา เรอัล มาดริด 3-0 เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่าความผิดหวังเดียวของเขาจากเกมขย้ำทีมชุดขาวคือมันไม่เกิดขึ้นในช่วงวันหยุดสัปดาห์ที่จะสามารถฉลองชัยชนะกันยันหว่างนั่นเอง
'มันเป็นคืนที่สนุกสนานและน่าจดจำ สำหรับคนที่ไม่สามารถเอาชนะ เรอัล มาดริด หลายครั้งจะจดจำมัน ไม่มีข้อสงสัยใดๆเลย แฟนบอลจะสนุกกับมันตั้งแต่นาทีแรกจนกระทั่งจบเกม'มาชินเผย
'มันเป็นค่ำคืนสำหรับชาวเมืองเซบีย่าที่จะสนุกสนาน มันน่าเสียดายที่ไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อจะได้ฉลองกันยันสว่าง'
การสะดุดพ่ายพร้อมกันของสองม้าเต็งอย่าง บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด คงทำให้ฟุตบอลลีกาตื่นเต้นเร้าใจมากยิ่งขึ้นขอเพียงบรรดาม้ามืดจะไม่สะดุดขาตัวเองหกล้มจนปล่อยให้ม้าเต็งควบเข้าป้ายแบบสบายใจเฉิบเท่านั้น
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT