อีสโก้...รอสละชุดขาว!?!?
ผ่านมา 6 นัดภายใต้การคุมทีมของ ซานติอาโก้ โซลารี่ ปรากฎว่า อีสโก้ อาลาร์กอน ยังไม่เคยออกสตาร์ทแม้แต่เกมเดียวโดยเฉพาะเกมล่าสุดที่บุกชนะ โรม่า 2-0 บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา มิดฟิลด์วัย 26 ปีไม่มีชื่อแม้กระทั่งบนม้านั่งสำรองด้วยซ้ำ
มันเกิดอะไรขึ้นกับ อีสโก้? เป็นคำถามที่หลายคนตั้งข้อสงสัย
ภายใต้สถานการณ์ปกติ เกมสำคัญอย่างการเผชิญหน้ากับทีมหมาป่าที่กรุงโรม นักเตะระดับ อีสโก้ จะต้องมีส่วนร่วมกับเกมดังกล่าว แต่เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา ซึ่งทำให้มีการตีความต่างกันไป
โซลารี่ เคยออกมาชี้แจงเหตุผลที่ตัดสินใจดร็อบ อีสโก้ เป็นตัวสำรองก่อนหน้านี้่ว่าเป็นเพราะนักเตะเพิ่งผ่านการผ่าตัดไส้ติ่งกำลังอยู่ในสภาพฟื้นฟูร่างกายและเร่งกลับมาอยู่ในฟอร์มเดิม แต่ยังต้องใช้เวลาอีกซักระยะ
แม้ว่าการตัดสินใจดร็อบผู้เล่นคนสำคัญอย่าง อีสโก้ อาจจะทำให้ทีมมีโอกาสคว้าชัยชนะน้อยลงก็ตาม แต่เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ก็เลือกแนวทางดังกล่าวเพียงแค่เห็นว่ามิดฟิลด์วัย 26 ปียังไม่เหมาะกับทีมของเขา
มันเป็นเรื่องปกติในการทำงานของเทรนเนอร์ทุกคนที่จะมองว่านักเตะคนไหนสามารถเล่นเข้ากับระบบการทำทีมของตนเอง เทรนเนอร์ทีมชุดขาวกล้าตัดสินใจดร็อบหนึ่งในนักเตะดีที่สุดของทีมชุดขาวอย่าง อีสโก้ ซึ่งทีมของ โซลารี่ ทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่ง (ชนะ 5 แพ้ 1) เพียงแต่มิดฟิลด์วัย 26 ปีจะก้มหน้ายอมรับการเป็นตัวสำรองไปได้อีกนานแค่ไหน
สื่อเมืองกระทิงวิเคราะห์สถานการณ์ระหว่าง โซลารี่ กับ อีสโก้ ไปต่างๆนานา ซึ่งมีทั้งนักเตะไม่ชื่นชอบแนวทางการทำงานของ โซลารี่ รวมถึงเทรนเนอร์ไม่ปลื้มทัศนคติของนักเตะในช่วงการฝึกซ้อมที่ไม่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างที่ควรจะเป็น
อีสโก้ ย้ายจาก มาลาก้า มาสวมชุดขาวในช่วงซัมเมอร์ปี 2013 เคยร่วมงานกับเทรนเนอร์ของ เรอัล มาดริด ก่อนหน้านี้ 4 คนทั้ง คาร์โล อันเชล็อตติ, ราฟาเอล เบนีเตซ, ซีเนดีน ซีดาน, จูเลน โลเปเตกี มาจนถึงยุค โซลารี่ ซึ่งมิดฟิลด์วัย 26 ปีจะมีบทบาทสำคัญเฉพาะช่วงที่มี ซีดาน กับ โลเปเตกี เป็นนายใหญ่เท่านั้น
ปัญหาอาจเกิดขึ้นจากบุคลิกที่ซับซ้อนเข้าใจยากของ อีสโก้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ยังเข้าไม่ถึงเหมือน ซีดาน หรือ โลเปเตกี
โซลารี่ ใช้อำนาจสิทธิ์ขาดในฐานะเทรนเนอร์กับเคสของ อีสโก้ เนื่องจากความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังไม่แนบแน่นพอที่จะทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากมิดฟิลด์ชาวมาลาเกนโญ่
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ อีสโก้ ไม่มีส่วนร่วมกับเกมเยือน โรม่า เมื่อคืนวันอังคารมาจากเรื่องทัศนคติที่นักเตะแสดงต่อเทรนเนอร์ในเกมเยือนสังเวียน'อีปูรูอา'ของ เออิบาร์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
โซลารี่ สั่งให้นักเตะลงวอล์มเพื่อพร้อมเปลี่ยนลงสนาม ขณะที่ เรอัล มาดริด ตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่ง 0-3 ซึ่ง อีสโก้ ลุกจากม้านั่งสำรองแล้วหยุดยืนมองหน้าเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์พักหนึ่งก่อนปฏิบัติตามคำสั่ง มันอาจเกิดขึ้นเพราะนักเตะไม่พอใจที่ถูกดร็อบเป็นตัวสำรอง รวมถึงการพูดระหว่างการแถลงข่าวโดยระบุว่านักเตะต้องปรับปรุงฟอร์มการเล่นของตนเอง
ที่สำคัญเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ยังปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นจนทำให้ อีสโก้ มีบทบาทน้อยลงด้วย
จากการทำงานร่วมกับเทรนเนอร์หลายคนก่อนหน้านี้ ถ้า อีสโก้ ไม่ได้ออกสตาร์ทตัวจริงโดยเฉพาะช่วงซีซั่นแรกกับ อันเชล็อตติ นักเตะจะแสดงออกให้เห็นถึงความไม่พอใจชัดเจน ดังนั้น'อันเช่'จึงเลือกตัดมิดฟิลด์ชาวมาลาเกนโญ่ออกจากทีมหลายเกมเพื่อตัดปัญหาที่นักเตะไม่เต็มใจที่จะเป็นตัวสำรอง
ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้นคือ อีสโก้ ไม่แยแสกับสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งขัดแย้งกับแรงจูงใจที่ต้องการแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นนักเตะที่มีความสำคัญต่อทีม
มันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งกับนักฟุตบอลก็คือพวกเขาจะไม่เล่นถ้าพวกเขารู้สึกโกรธ แต่สำหรับ อีสโก้ ยิ่งไม่ได้เล่น เขายิ่งแสดงอารมณ์มากขึ้น นั่นทำให้ความสัมพันธ์กับเทรนเนอร์มีความตึงเครียดมากขึ้นด้วย
การตัดสินใจหั่นชื่อ อีสโก้ ออกจากทีมพร้อมใช้งานในเกมเยือน'สตาดิโอ โอลิมปิโก้'เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมาเป็นการตัดสินใจบนความเสี่ยงของ โซลารี่ แต่การเดิมพันครั้งสำคัญของเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ประสบความสำเร็จด้วยดีหลังทีมชุดขาวบุกชนะทีมหมาป่า 2-0
เมื่อทีมกำลังทำผลงานดีย่อมสร้างความพึงพอใจให้ผู้มีอำนาจสูงสุดอย่าง ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ซึ่งหลังจบเกมดังกล่าว ท่านประธานทีมชุดขาวเข้าไปห้องแต่งตัวเพื่อร่วมยินดีกับ โซลารี่ และนักเตะ เขายังสวมกอด ลูกัส บาซเกซ ที่ได้ลงเล่นตัวจริงและเป็นคนยิงประตูปิดกล่องด้วย
ขณะที่ อีสโก้ ออกมาขึ้นรถบัสนักเตะเพียงคนเดียว เขาเดินผ่านพื้นที่ของผู้สื่อข่าวพร้อมรอยยิ้มก่อนหล่นวลีสั้นๆว่า'ผมฟิตสมบูรณ์ดี'
อีสโก้ เพิ่งลงเล่นรวมกันเพียง 78 นาทีภายใต้การคุมทีมของ โซลารี่ ตลอด 6 เกมที่ผ่านมาและยังไม่เคยออกสตาร์ทแม้แต่เกมเดียว
เมื่อถูกสอบถามถึงเหตุผลที่หั่นชื่อ อีสโก้ ออกจากทีมว่า โซลารี่ ยืนยันชัดเจนว่าเป็นการตัดสินใจเรื่องแท็คติกเท่านั้นโดยไม่มีเรื่องอื่นเจือปน
'การดร็อบ อีสโก้ เป็นการตัดสินใจแบบเฉพาะเจาะจง โค้ชอยู่ในสถานะที่ต้องตัดสินใจและมันเป็นแบบนั้น ผมอยู่ที่นี่เพื่อตัดสินใจ'
'บางครั้งเราตัดสินใจถูก บางครั้งมันก็ไม่เป็นแบบนั้น แต่มันง่ายที่จะบอกเรื่องเหล่านั้นหลังเกมว่าเป็นการตัดสินใจเรื่องกีฬาเสมอ ยกเว้นในกรณีพิเศษแม้ว่าจะไม่มีใครอยู่ที่นี่ก็ตาม'
'การเป็นตัวจริงและตัวสำรองเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซึ่งไม่ได้อยู่เสมอไป นักเตะทุกคนที่นี่ให้ทุกอย่างและทุ่มเทร้อยเปอร์เซนต์เพื่อให้พวกเขาถูกเลือกลงสนาม พวกเขาแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบและพวกเรามีความสุขที่ได้รับชัยชนะ'
'เราต้องทำงานหนักและทนทุกข์ทรมาน แต่บางครั้งนั่นเป็นเพียงสิ่งที่คุณต้องทำและเราชนะด้วยการเล่นแบบนั้น'โซลารี่กล่าว
ถ้าสถานการณ์ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็มีความเป็นไปได้ที่ อีสโก้ จะดิ้นรนเพื่อหาทางย้ายออกจากถิ่น'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'โดยมีหลายสโมสรจับตามองสถานการณ์ของมิดฟิลด์วัย 26 ปีแบบตาไม่กะพริบและหนึ่งในนั้นคือ บาร์เซโลน่า
อีสโก้ ยังมีสัญญากับ เรอัล มาดริด จนถึงปี 2022 แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับนักเตะในช่วงฤดูกาลนี้หลังจาก โลเปเตกี ถูกปลดออกจากตำแหน่งทำให้มิดฟิลด์วัย 26 กะรัตเริ่มคิดถึงอนาคตค้าแข้งของตนเองอีกครั้งและอาจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลังจบฤดูกาล หลัง ปาโก้ อาลาร์กอน บิดานักเตะและเอเยนต์กำลังวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้น
หลายทีมพร้อมอ้าแขนต้อนรับนักเตะพรสวรรค์สูงอย่าง อีสโก้ ไม่แต่เฉพาะทีมคู่ปรับอย่างทัพอาซูลกราน่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง แมนฯซิตี้ เนื่องจาก อีสโก้ เป็นแข้งตรงตามสเป็คของ'เป๊ป'กวาร์ดิโอล่า ส่วน ยูเวนตุส ก็พร้อมดูดมิดฟิลด์วัย 26 ปีไปสวมชุดม้าลายเช่นเดียวกัน
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT