:::     :::

แข้งพรสวรรค์ที่ถูกมองข้าม..

วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม 2560 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
2,546
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกกัปตันทีมชาติโปแลนด์ที่มีส่วนสำคัญต่อการนำทีมโปลผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซียช่วงกลางปีหน้า

    เมื่อพูดถึงนักฟุตบอลชั้นนำของเวทีลูกหนังปัจจุบัน แน่นอนว่าคุณจะคิดถึง ลิโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ยังมียอดนักเตะอีกคนหนึ่งที่มักถูกมองข้ามนั่นคือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
    เลวานดอฟสกี้เป็นผู้เล่นคนพิเศษที่อัดแน่นไปด้วยพรสวรรค์ของการเป็นสุดยอดกองหน้า เขาใช้ส่วนสูง 6 ฟุต 1 นิ้วสร้างประโยชน์ให้ตนเองในกรอบเขตโทษ ความสามารถในการเล่นลูกโหม่งสร้างความปั่นป่วนให้แนวรับคู่แข่งและผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้ามมาโดยตลอด
    กองหน้าชาวโปลยังไม่ได้ปักหลักเฉพาะตำแหน่งศูนย์หน้าเท่านั้น แต่เขายังสามารถถอยลงมาล้วงบอลและขยับออกมาเล่นด้านข้างเพื่อหาช่องทางโจมตีแนวรับฝั่งตรงข้ามอีกด้วย
    เลวานดอฟสกี้ยังมีทักษะการยิงประตูทุกรูปแบบไม่ด้อยไปกว่า เมสซี่ หรือ โรนัลโด้


    ตลอดช่วงการทำศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนยุโรปทั้ง 10 นัดที่ผ่านมา เลวานดอฟสกี้ ทำสถิติกระทุ้ง 16 ประตูจาก 28 ประตูของโปแลนด์ ก่อนนำทัพโปลคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซียช่วงกลางปีหน้าโดยอัตโนมัติในฐานะแชมป์กลุ่ม อี
    ผลงาน 16 ประตูของ เลวานดอฟสกี้ เป็นสถิติสูงสุดของการเล่นรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกเหนือกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตัวเต็งคว้า'บัลลง ดอร์'ปีนี้ที่ยิงไป 15 ประตู
    เลวานดอฟสกี้ไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของเขาในระดับสโมสรกับ บาเยิร์น มิวนิค เท่านั้น แต่ยังก้าวขึ้นมาอยู่ระดับนานาชาติและพร้อมพิสูจน์ให้ชาวโลกลูกหนังเห็นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายช่วงกลางปีหน้า
    โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำสถิติกระทุ้งให้ทีมชาติโปแลนด์มากที่สุด 51 ประตูจากการลงเล่น 91 นัด ซึ่งตามหลังเฉพาะ มิชาล เซฟลาคอฟ ที่ทำสถิติลงเล่นกับทีมโปล 102 นัดเพียงคนเดียวเท่านั้น
    ส่วนหนึ่งที่เลวานดอฟสกี้ไม่ได้รับการยอมรับมากเท่า เมสซี่ หรือ โรนัลโด้ อาจเป็นเพราะเขาเล่นอยู่ในบุนเดสลีกาซึ่งไม่ใช่ลีกที่คนส่วนใหญ่นิยมชมชอบเหมือนพรีเมียร์ลีกหรือลา ลีกา แต่หัวหอกวัย 29 ปีพิสูจน์ให้เห็นถึงทักษะความสามารถของเขาจนเป็นที่ประจักษ์กับทีมเสือใต้
    เลวานดอฟสกี้ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับ ซนิชซ์ พรุสซ์คอฟ เมื่อปี 2006 เขากด 36 ประตูจากการลงเล่น 59 นัดก่อนย้ายเข้าสังกัด เลช พอซนัน ในปี 2008 ซึ่งเลวานดอฟสกี้ยังประสบความสำเร็จในอาชีพค้าแข้งขั้นถัดมาของเขาด้วยการกระทุ้ง 32 ประตูจาก 56 นัด
    2 ปีต่อมา ดอร์ทมุนด์ จ่ายเงินเพียง 4.5 ล้านยูโรดึงเลวานดอฟสกี้เข้าสังกัดในปี 2010


    ที่ดอร์ทมุนด์ เลวานดอฟสกี้พัฒนาความสามารถขึ้นมาอยู่อีกระดับ ตลอด 4 ปีกับทีมเสือเหลือง หัวหอกชาวโปลกด 74 ประตูจากการลงเล่น 131 นัด ก่อนบรรลุข้อตกลงล่วงหน้ากับ บาเยิร์น มิวนิค ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2014 ซึ่งเป็นแนวทางถนัดของยักษ์ใหญ่แห่งบาวาเรียที่ชอบสอยนักเตะดีที่สุดของคู่แข่งมาร่วมทีมเสมอ
    นับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค หนุ่มเลวานนำทัพเสือใต้ฟาดถาดแชมป์บุนเดสลีกา 3 สมัยติดต่อกันพร้อมด้วยแชมป์เดเอฟเบ โพคาล กับ เยอรมัน ซูเปอร์ คัพ อีกรายการละครั้ง
    เลวานดอฟสกี้ยังทำผลงานร้อนแรงกว่าการเล่นกับบรรดาต้นสังกัดก่อนหน้านี้หลังทำสถิติกระทุ้ง 85 ประตูจากการลงเล่น 103 นัด
    มันน่าทึ่งสำหรับตัวเลขการยิงประตูของเลวานดอฟสกี้ ทั้งกับสโมสรต้นสังกัดและทีมชาติโปแลนด์
    แต่อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าเลวานดอฟสกี้จะถูกมองข้ามเสมอ หากมีการพูดถึงนักเตะดีที่สุดในโลก คนส่วนใหญ่ต่างคิดถึง เมสซี่ หรือไม่ก็ โรนัลโด้ เท่านั้น นั่นมีส่วนทำให้ซุปตาร์ชาวอาร์เจนไตน์กับกองหน้าดาวดังชาวโปรตุกีสสลับกันคว้ารางวัล'บัลลง ดอร์'มาตั้งแต่ปี 2008
    เลวานดอฟสกี้อาจรู้สึกผิดหวังที่เขายังไม่มีโอกาสสัมผัสกับรางวัล'บัลลง ดอร์' แม้ว่าจะทำผลงานดีเพียงใดก็ตาม แต่ต้องยอมรับว่ากองหน้าวัย 29 ปีอาจจะโชคร้ายที่เติบโตขึ้นมาในยุคของสองแข้งเทพอย่างเมสซี่กับโรนัลโด้
    เหนือสิ่งอื่นในคือ บาเยิร์น มิวนิค ต้นสังกัดของเลวานดอฟสกี้ยังประสบความสำเร็จระดับยุโรปเป็นรองทั้ง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ขณะเดียวกันทีมชาติโปแลนด์ยังทำผลงานไม่โดดเด่นเท่าโปรตุเกสกับอาร์เจนตินาอีกด้วย


    กองหน้าทีมชาติโปแลนด์ยืนยันว่าความสำเร็จของ บาเยิร์น มิวนิค บนเวทียุโรปมีความหมายมากกว่ารางวัล'บัลลง ดอร์'ด้วยซ้ำ
    'ผมคงไม่บอกว่ามันมีความสำคัญต่อผม ความสำเร็จกับ บาเยิร์น มีความสำคัญยิ่งกว่าโดยเฉพาะบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก หากเราผ่านเข้าไปเล่นรอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกและคว้าถาดแชมป์บุนเดสลีกา ผมคงจะออกมาพูดอีกที แต่ บัลลง ดอร์ ไม่ได้เป็นเป้าหมายของผม'
    'ผมไม่ทราบหรอกว่าทำไมนักเตะบางคนถึงมีชื่อติดอยู่ในโผ 50 คน, 25 คน หรือ 5 คน มันมีแค่ 3 ตำแหน่งรายเท่านั้นที่มีความสำคัญ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อปีก่อนผมถึงกับช็อกไปเลย'
    'หากคุณเล่นให้สโมสรอย่างบาเยิร์น แล้วได้เล่นในรอบตัดเชือกของแชมเปี้ยนส์ลีก ยิงประตูมากมายบนเวทีบุนเดสลีกาและเป็นรองดาวซัลโวแชมเปี้ยนส์ลีก ผมไม่รู้เหมือนกันว่าผมควรได้อยู่อันดับไหน แต่มันตลกนะ บางทีการพูดว่าเป็นเรื่องตลกคงจะเหมาะที่สุดแล้ว'
    เลวานดอฟสกี้ เคยถูกพาดพิงว่าเป็น 1 ใน 5 แข้งเสือใต้ที่มีเอี่ยวทำให้ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชาวอิตาเลียนถูกปลดออกจากตำแหน่ง แต่ดาวยิงวัย 29 ปีออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว
    กองหน้าทีมชาติโปแลนด์กล่าวถึงการร่วมงานกับอันเชล็อตติในช่วงฤดูกาลแรกว่า'เราเล่นกันได้ดีในช่วงฤดูกาลแรกของอันเชล็อตติ หากผมไม่ได้รับบาดเจ็บในแชมเปี้ยนส์ลีก เราคงมีโอกาสทะลุเข้าไปเล่นนัดชิงชนะเลิศ (เลวานดอฟสกี้พลาดการลงเล่นนัดแรกที่พ่าย เรอัล มาดริด 1-2 ที่มิวนิค ก่อนกลับมาลงเล่นนัดสองที่มาดริดและยิงจุดโทษให้บาเยิร์นขึ้นนำก่อนทีมเสือใต้จะคว้าชัย 2-1 แต่บาเยิร์นพ่ายในช่วงต่อเวลาพิเศษ)'
    'ถ้าผมฟิตสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ในการเล่นที่มาดริด ผมคิดว่าเราอาจจะผ่านรอบตัดเชือก จากนั้นใครจะรู้ว่าบางทีเราอาจจะคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีก'


    อย่างไรก็ตาม บาเยิร์น มิวนิค เริ่มต้นฤดูกาลนี้ด้วยฟอร์มย่ำแย่จนตกเป็นฝ่ายตามหลัง ดอร์ทมุนด์ ถึง 5 แต้มและยังพ่ายแพ้ยับเยินต่อเปแอสเชบนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีก 0-3 ส่งผลให้อันเชล็อตติถูกปลดออกจากตำแหน่ง ก่อนทีมเสือใต้จะดึง จุ๊ปป์ ไฮนย์เกส หวนคืนสู่วงการกลับมาช่วยกอบกู้สถานการณ์อีกครั้ง
    'ตอนนี้เป็นฤดูกาลใหม่และเป็นความท้าทายครั้งใหม่กับเทรนเนอร์ใหม่ บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนักถ้าคุณอยู่ในสโมสรที่เปลี่ยนเทรนเนอร์ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล แต่เราต้องผลักดันไปข้างหน้า เราตามหลังดอร์ทมุนด์ 5 แต้ม แต่ยังมีเกมให้ลงเล่นอีกมากจนกว่าจะจบฤดูกาล'
    'แต่ในแชมเปี้ยนส์ลีกหลังจากความพ่ายแพ้ของเราที่เปแอสเช เราต้องทำงานเพื่อให้ผ่านเข้ารอบ เราจะเล่นจนกว่าจะจบ ใครจะรู้? บางทีเราอาจจะคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกและบุนเดสลีกา'
    คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ซีอีโอของบาเยิร์นเคยออกมาพูดถึง เรอัล มาดริด ว่าเป็นสโมสรในฝันของเลวานดอฟสกี้ ซึ่งดาวยิงวัย 29 ปีกล่าวถึงการออกมาให้สัมภาษณ์สื่อของรุมเมนิกเก้ว่า'ผมไม่รู้ว่าเขาพูดอะไร บางทีคุณน่าจะถามเขาว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น ผมไม่รู้ในสิ่งที่เขาพูดถึงและที่สำคัญคือสื่อก็เอามาจากคำพูดของเขานี่แหละ'
    โปแลนด์ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลกช่วงกลางปีหน้า เลวานดอฟสกี้กล่าวถึงโอกาสของทีมโปลที่เมืองหมีขาวว่า'มันยากที่จะพูด โปแลนด์มีทีมที่ยิ่งใหญ่กับผู้เล่นดีๆหลายคน เราเล่นกันได้ดีบางครั้งและเรามีศักยภาพมาก แต่เรารู้ว่ายังมีหลายอย่างที่เราสามารถทำได้ดีกว่านี้ เราต้องรอดูและเราจะเล่นอยู่ในกลุ่มใครบ้าง แต่ในฟุตบอลโลกคุณไม่เคยรู้ ทุกๆเกมมีความสำคัญ'
    เลวานดอฟสกี้ ตั้งเป้านำความสำเร็จมาสู่บาเยิร์นโดยเฉพาะรายการแชมเปี้ยนส์ลีกและบุนเดสลีกาฤดูกาลนี้และถ้าโปแลนด์ทำผลงานดีบนเวทีฟุตบอลโลกช่วงกลางปีหน้า กองหน้าพรสวรรค์จากจากวอร์ซออาจมีโอกาสใกล้เคียงที่จะสัมผัส'บัลลง ดอร์'ก็เป็นได้ใครจะรู้...


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})